พิษณุโลก - พริตตี้พีจีสาวพิษณุโลกรวมตัวขึ้นโรงพักแจ้งจับอดีต ผจก.ขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ยี่ห้อดัง หลอกลงทุนเล่นหุ้นแลกกำไรงาม-ลวงเอา จยย.คันงามไปเคลือบแก้วให้ สุดท้ายเชิดทั้งเงินทั้งรถหายเข้ากลีบเมฆ พอโทร.ทวงถามอ้างพ่อเป็น ผกก.ซ้ำ
วันนี้ (11 มิ.ย.) น.ส.ลัคธวรรณ รากผักแว่น อายุ 21 ปี และ น.ส.จันทิมา เสือเงิน อายุ 24 ปี ชาว จ.พิษณุโลก พร้อมกลุ่มเพื่อนพริตตี้พีจีหรือพนักงานส่งเสริมการขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ยี่ห้อหนึ่ง ได้พากันเข้าแจ้งความต่อ พ.ต.ต.หญิง กัลยาณี ท่าโพธิ์ สว.(สอบสวน) สภ.เมืองพิษณุโลก เพื่อให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเร่งติดตามตัวนายเอ (นามสมมติ) อายุ 25 ปี อดีตผู้จัดการตัวแทนจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ มาดำเนินคดีตามกฎหมาย
ว่าตนและเพื่อนๆ อีกประมาณ 20 ราย ถูกนายเอ (นามสมมติ) อายุ 25 ปี อดีตผู้จัดการตัวแทนจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์หลอกให้ลงทุนเล่นหุ้นแล้วจะได้ผลกำไรตอบแทนจำนวนมาก รวมถึงหลอกลวงว่าจะนำรถจักรยานยนต์ที่พวกตนเพิ่งซื้อใหม่ไปเคลือบแก้วที่ร้านแห่งหนึ่งที่รู้จักกันแต่กลับเชิดรถหนีไป พยายามโทร.ติดต่อแล้วก็ติดต่อไม่ได้ และมีผู้เสียหายที่ถูกหลอกในลักษณะเดียวกันอีกจำนวนมาก มูลค่าความเสียหายหลายแสนบาท จึงรวมตัวกันมาแจ้งความในวันนี้
น.ส.ลัคธวรรณ รากผักแว่น หนึ่งในผู้เสียหาย เปิดเผยว่า ทำงานเป็นพีจีหรือพนักงานส่งเสริมการขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ยี่ห้อหนึ่ง และรู้จักกับนายเอซึ่งเป็นผู้จัดการฯ แล้วถูกบริษัทไล่ออกเนื่องจากปลอมแปลงเอกสารไม่กี่เดือนก่อน ต่อมานายเอได้มาพูดจาหว่านล้อมให้ตนนำรถจักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นพีซีเอ็กซ์ ที่เพิ่งซื้อมาใหม่ไปเคลือบแก้วเพื่อความสวยงาม และอาสาจะนำรถของตนไปเคลือบให้ ตนจึงมอบรถคันดังกล่าวให้ไป
กระทั่งเวลาผ่านไปประมาณหนึ่งสัปดาห์ตนจึงสอบถามเรื่องรถที่เอาไป แต่นายเอบอกว่าอยู่ระหว่างรอคิวเคลือบแก้ว จนกระทั่งปัจจุบันผ่านมา 4 เดือนแล้วนายเอก็ยังไม่นำรถมาคืนให้และติดต่อไม่ได้อีกด้วย รู้สึกไม่สบายใจและเครียดมากเนื่องจากออกรถมายังไม่เคยได้ขี่ใช้งานเลยแม้สักครั้งเดียว นอกจากนี้ยังมีเพื่อนผู้หญิงอีก 1 ราย ก็ถูกนายเอทำในลักษณะเดียวกันก็ยังไม่ได้รถกลับคืนมาเช่นกัน จึงพากันมาร้องทุกข์ต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจให้ติดตามเอารถคืนและดำเนินคดีต่อนายเอให้ถึงที่สุด
ด้าน น.ส.จันทิมา เสือเงิน ผู้เสียหายอีกราย กล่าวว่า ตนถูกนายเอหลอกให้ลงทุนเล่นหุ้นว่าจะได้ผลกำไรภายใน 3 เดือน เป็นเงิน 120,000 บาท ตนหลงเชื่อจึงโอนเงินไปลงทุนด้วยในวันที่ 3 ก.พ.ที่ผ่านมา จำนวน 40,000 บาท เมื่อถึงกำหนดที่เงินปันผลหุ้นจะออก นายเอกลับพูดจาบ่ายเบี่ยงและไม่โอนเงินคืนให้ตามสัญญาที่คุยกันไว้ สุดท้ายก็ติดต่อนายเอไม่ได้ และยังมีเพื่อนของตนถูกหลอกในลักษณะเดียวกันโอนเงินลงทุนหุ้นด้วย รายละ 40,000-50,000 บาท อีกหลายราย รวมกันหลายแสนบาท
“พอโทร.ไปทวงถามก็ถูกนายเอต่อว่าและอ้างว่าพ่อเป็นตำรวจระดับผู้กำกับการสถานีตำรวจแห่งหนึ่งอีกด้วย ซึ่งที่ผ่านมานายเอได้ไปหลอกลวงคนอื่นอีกหลายราย จึงอยากให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเร่งนำตัวมาดำเนินคดีตามกฎหมายโดยเร็ว เพราะอาจมีผู้ตกเป็นเหยื่อของนายเอเพิ่มอีก”
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.เมืองพิษณุโลกได้เชิญผู้เสียหายไปสอบปากคำเพิ่มเติมเพื่อรวบรวมพยานและหลักฐานให้รัดกุมมากที่สุด ก่อนแจ้งข้อกล่าวหาใดๆ ต่อนายเอ และเรียกตัวนายเอมาทำการสอบสวน เนื่องจากคดีนี้อาจเข้าข่ายทั้งคดีความผิดอาญาและความผิดทางคดีแพ่ง