ศูนย์ข่าวศรีราชา - ฉาวอีก ชาวบ้านเมืองสัตหีบสุดทนพฤติกรรม “หลวงพี่โบก” นั่งข้างถนนเรี่ยไรเงิน เร่ขายวัตถุมงคลโกยเงินเข้ากระเป๋า แจ้งผู้สื่อข่าวตรวจสอบ ด้านเจ้าคณะตำบลนาจอมเทียน จับสึกทันทีชี้ประพฤติตัวไม่เหมาะสมต่อการเป็นพระ ทำให้เสื่อมเสียพระพุทธศาสนา
วันนี้ (9 มิ.ย.) ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งจากชาวบ้านและพ่อค้าแม่ค้าหน้าวิหารเซียน ต.เขาชีจรรย์ อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี แหล่งท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงในพื้นที่ว่า พบพระสงฆ์ประพฤติตัวไม่เหมาะสมโดยมักจะออกมานั่งบนพื้นถนน และโบกมือเรียกรถที่สัญจรผ่านไปมาเพื่อเรี่ยไรเงินและขายวัตถุมงคล จนได้รับฉายาว่า “หลวงพี่โบก”
พร้อมขอให้ช่วยประสานไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อให้ดำเนินการต่อพระรูปดังกล่าวเนื่องจากสร้างความเสื่อมเสียให้แก่วงการพระสงฆ์ไทย
หลังรับแจ้งผู้สื่อข่าวจึงรายงานไปยัง พระครูปิยะ กิจวิบูล หรืออาจารย์แก้ว เจ้าคณะตำบลนาจอมเทียน เพื่อรับทราบ ก่อนเดินทางลงพื้นที่ตรวจสอบร่วมกับเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง
และจากการเฝ้าสังเกตการณ์อยู่นานหลายชั่วโมง พบว่า มีพระสงฆ์แสดงพฤติกรรมตามที่ได้รับแจ้งมาจริง เมื่อเข้าไปสอบถามจึงทราบว่าพระสงฆ์รูปดังกล่าวคือ พระพงษ์นิรันดร์ หงสา อายุ 63 ปี ชาว จ.นครสวรรค์ ซึ่งเป็นพระลูกวัดข่อยสูง จ.อุตรดิตถ์ (ตามหนังสือสุทธิ) แต่ปฏิเสธว่าไม่ได้ทำการเรี่ยไรเงินและขายวัตถุมงคลตามที่ชาวบ้านแจ้ง
แต่เมื่อเจ้าหน้าที่ขอตรวจสอบในย่ามพบทั้งเชือกถักสร้อยคอ และข้อมือนับ 100 เส้น ซึ่งพระพงษ์นิรันดร์ อ้างว่าซื้อมาจากตลาดท่าพระจันทร์และไม่ใช่วัตถุมลคลที่ปลุกเสก แต่ยอมรับว่าได้นำมาขายในราคา 100 บาท เพื่อแลกเงินจากความศรัทธาของชาวบ้านจริง
และยังบอกอีกว่าตนเองได้บวชจำพรรษาอยู่ที่วัดข่อยสูง ตั้งแต่ พ.ศ.2548 แต่ได้ออกธุดงค์จากวัดมาเมื่อ 4-5 ปีก่อน และได้ใช้ชีวิตอยู่ตามป่าเขา
เบื้องต้น เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องได้เชิญตัว พระพงษ์นิรันดร์ หงสา ไปให้เจ้าคณะตำบลนาจอมเทียน ทำการสอบสวนเพื่อพิจารณาความผิดตามระเบียบสงฆ์
ขณะที่ พระครูปิยะ กิจวิบูล หรืออาจารย์แก้ว เจ้าคณะตำบลนาจอมเทียน เผยว่า การเรี่ยไรในลักษณะดังกล่าวถือเป็นการกอบโกยเงินเข้ากระเป๋าตัวเองและไม่มีใบอนุญาตการธุดงค์ ซึ่งพฤติกรรมดังกล่าวถือว่าประพฤติไม่ไม่เหมาะสมต่อการเป็นพระ และทำให้เสื่อมเสียต่อพระพุทธศาสนาจึงต้องให้ลาสิกขาทันที พร้อมส่งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.นาจอมเทียน ลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐาน