ศูนย์ข่าวศรีราชา - วงจรปิดจับภาพสาวแสบเข้าไปลักเครื่องสำอางในร้านสะดวกซื้อถึง 2 ครั้งในรอบวัน ผู้จัดการร้าน ประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมตัว สาวแสบอ้างอยากได้ แต่เงินไม่พอหลังโควิด-19 ทำพิษไม่มีงานทำ
เย็นวันนี้ (6 มิ.ย. ) ร.ต.อ.ธราธร มรรคนันท์ รอง สวป.สภ.ศรีราชา จังหวัดชลบุรี ได้รับแจ้งจากศูนย์วิทยุ 191 ตำรวจภูธรจังหวัดชลบุรี ว่า มีผู้แจ้งว่ามีผู้ลักทรัพย์ในร้านสะดวกซื้อแห่งหนึ่งในพื้นที่หมู่ 2 ตำบลสุรศักดิ์ อำเภอศรีราชา จังหวัดชลบุรี จึงเดินทางไปพร้อมกับ ด.ต.จำรัส ศรีรัตนพันธ์ ส.ต.อ.อนุชา พรมทา ไปตรวจสอบในที่เกิดเหตุ พบกับ น.ส.ชนัญชิดา สะอาด อายุ 36 ปี ผู้จัดการร้านสะดวกซื้อ ควบคุมตัว น.ส.ชุติมา ธารารัตน์ อายุ 35 ปี อาชีพรับจ้างทั่วไป ผู้ต้องหาที่ก่อเหตุลักทรัพย์เครื่องสำอางภายในร้านไปจำนวน 2 กระปุก มูลค่า 1,198 บาท โดยของกลางซุกซ่อนอยู่ในกระเป๋าสะพาย จึงนำตัวมาสอบสวนที่ตู้ยามนาพร้าว สภ.ศรีราชา จนกระทั่งยอมรับสารภาพว่าก่อเหตุดังกล่าวจริง
โดย น.ส.ชนัญชิดา เผยว่า เมื่อช่วงเช้าประมาณ 07.00 น. พนักงานทางร้านแจ้งว่ามีสัญญาณกันขโมยดังขึ้นมา จึงออกไปดูหน้าร้านพบหญิงคนดังกล่าวเดินหนีแล้วขึ้นรถจักรยานยนต์หลบหนีไป จึงกลับไปดูกล้องวงจรปิดพบผู้หญิงคนดังกล่าวใส่เสื้อสีฟ้า กางเกงสีเทา สะพายถุงผ้าสีน้ำเงิน ยืนเลือกเครื่องสำอางและหูฟัง รวมมูลค่า 300 บาท ก่อนหยิบใส่ถุงผ้าเดินออกจากร้านไปโดยที่ไม่ได้จ่ายเงิน จึงได้เฝ้าติดตามดู
จนกระทั่งช่วงประมาณบ่าย 4 โมงเย็น หญิงคนดังกล่าวก็กลับเข้ามาอีก โดยเปลี่ยนชุดเป็นเสื้อลายสีเหลือง กระโปรงสีดำ หลากสีเข้ามาก่อเหตุลักเอาครีมทาหน้าไป 2 กระปุก ราคากระปุกละ 599 บาท รวมเป็นเงิน 1,198 บาทใส่กระเป๋าไปสะพายลายสีเทา ซึ่งตนเองจำหน้าได้จึงให้พนักงานเฝ้าหน้าร้านไว้ แล้วเข้าไปดูกล้องวงจรปิด โดยหญิงคนดังกล่าวจ่ายเงินซื้อดินสอเขียนคิ้วกับครีมรองพื้น ส่วนครีมทั้ง 2 กระปุกซุกซ่อนไว้ในถุงผ้าที่สะพายมาจึงไปขอตรวจค้นหน้าร้าน และพบว่าหญิงสาวคนดังกล่าวก่อเหตุลักทรัพย์ไปจริง จึงแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้ามาจับกุมตัว พร้อมหลักฐานจากกล้องวงจรปิดให้เจ้าหน้าที่ตำรวจไปด้วย
ทางด้าน น.ส.ชุติมา ธารารัตน์ สารภาพว่า ที่ทำไปเพราะเงินไม่พอ เพราะช่วงโควิด-19 ทำให้แย่มาก หางานยาก ในช่วงแรกตั้งใจจะไปซื้อของแต่พอดูแล้วเกิดอยากได้ แต่เงินไม่พอจึงขโมยไป หลังจากนั้นกลับมาอีกรอบตั้งใจจะมาซื้อของอีก แต่เงินไม่พอแต่เกิดอยากได้ขึ้นมา จึงลักครีมทาหน้าไปอีกจนกระทั่งถูกจับได้ ซึ่งตนเองก็ไม่รู้ว่าที่ร้านดังกล่าวมีกล้องวงจรปิดด้วย