ศูนย์ข่าวนครราชสีมา - ผู้ว่าฯ โคราช นำภาคเอกชนโคราชทั้งสภาอุตฯ-หอการค้า–อสังหาฯและชมธนาคารจังหวัดฯ ถกร่วมรองผู้ว่าฯแบงก์ชาติ หารือแนวช่วยเหลือภาคธุรกิจโคราชซมพิษโควิด-19 เผยเสนอ 12 แนวทางแก้ปัญหาการขอสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำช่วยผู้ประกอบการฝ่าวิกฤต
วันนี้ (6 มิ.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่หอประชุมเปรมติณสูลานนท์ ศาลากลางจังหวัดนครราชสีมา นายวิเชียร จันทรโณทัย ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา พร้อมด้วย นายหัสดิน สุวัฒนะพงศ์เชฎ ประธานสภาอุตสาหกรรมจังหวัดนครราชสีมา และนายศักดิ์ชาย ผลพานิช รองประธานหอการค้าจังหวัดนครราชสีมา พร้อมด้วยหัวหน้าส่วนราชการ และภาคเอกชนที่เกี่ยวข้องทั้งสภาอุตสาหกรรมจังหวัดนครราชสีมา หอการค้าจังหวัดฯ ชมรมธนาคารจังหวัดฯ สมาคมอสังหาริมทรัพย์จังหวัดนครราชสีมา ได้ร่วมประชุมหารือถึงแนวทางการช่วยเหลือผู้ประกอบการจังหวัดนครราชสีมาจากการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ผ่านระบบ VDO Conference ร่วมกับ นายรณดล นุ่มนนท์ รองผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย ด้านเสถียรภาพสถาบันการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) พร้อมคณะทำงาน
นายวิเชียร จันทรโณทัย ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา กล่าวว่า การประชุมในครั้งนี้เพื่อนำข้อเสนอแนะของผู้ประกอบการภาคอุตสาหกรรมในจังหวัดนครราชสีมา เสนอต่อทางรัฐบาลในการช่วยเหลือภาคอุตสาหกรรม ทั้งนี้ ผู้ประกอบการได้ประสบกับปัญหาในการขอสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ (Soft Loan) ของรัฐบาล ที่จะมาพยุงธุรกิจ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องข้อกำหนดให้เฉพาะธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SMEs) ที่สามารถขอสินเชื่อได้เท่านั้น ทำให้ผู้ประกอบการขนาดอื่นๆ ไม่สามารถขอได้ รวมทั้ง SMEs รายใหม่ไม่สามารถขอสินเชื่อได้ เนื่องจากการขอสินเชื่อจะต้องมีวงเงินกู้เดิมกับธนาคาร และประสบปัญหาจากกฎเกณฑ์ของธนาคาร ผู้ประกอบการยอดขายไม่ดี มีเงินหมุนในบัญชีไม่เป็นไปตามที่กำหนดและไม่มีเงินคงเหลือในบัญชีสินเชื่อ ซึ่งธนาคารจะให้สินเชื่อเฉพาะบริษัทที่ดูแล้วไม่มีความเสี่ยง หรือเสี่ยงน้อย เป็นต้น
ดังนั้น ผู้ประกอบการในพื้นที่จังหวัดนครราชสีมา จึงได้ยื่นข้อเสนอ 12 แนวทางให้กับธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) พิจารณา ประกอบด้วย 1. ให้ธนาคารของรัฐ เช่น ธนาคารกรุงไทย ธนาคารออมสิน ธนาคาร SME ปล่อยสินเชื่อโดยผ่อนคลายกฎเกณฑ์ต่างๆ ลดลง 2. ให้บรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม (บสย.) ค้ำประกันเพิ่มได้ โดยวงเงิน 5 ล้านบาทแรก ค้ำประกัน 90% 5-25 ล้านบาท ค้าประกัน 80% 25-50 ล้านบาท ค้ำประกัน 70% เกิน 50 ล้านบาท ค้ำประกัน 60% 3. ให้ ธปท.เพิ่มผลประโยชน์ให้กับธนาคารพาณิชย์เพื่อให้ธนาคารพาณิชย์ปล่อยสินเชื่อง่ายขึ้น มีเงื่อนไขน้อยลง
4. ธนาคารพาณิชย์ พิจารณาเงินกู้จาก credit scoring ขอให้ปรับกฎเกณฑ์ลงเนื่องจากไม่อยู่ในสภาวะปกติ 5. ผ่อนคลายกฎเกณฑ์ของเครดิตบูโร เนื่องจากไม่อยู่ในช่วงปกติ เช่น กรณีติดเครดิตบูโร จาก 3 ปีเหลือ 1 ปี 6. ขอให้ธนาคารพาณิชย์ผ่อนคลายกฎเกณฑ์เรื่องยอดขายสินค้าของผู้ประกอบการ เนื่องจากยอดขายไม่ดีทำให้ ยอดหมุนเวียนในบัญชีไม่เป็นไปตามกฎเกณฑ์ที่จะขอสินเชื่อ 7. หากธนาคารพาณิชย์ปฏิเสธวงเงินสินเชื่อ ควรมีบันทึกไปถึงธนาคารแห่งประเทศไทยด้วย เพื่อเก็บไว้เป็นข้อมูลและแจ้งผู้ประกอบการ ถึงข้อที่ทาให้ผู้ประกอบการไม่สามารถกู้ได้
8. เพิ่มการปล่อย soft loan ให้กับผู้ประกอบการรายใหม่ และผู้ประกอบการที่มีวงเงินเกิน 500 ล้านบาทด้วย 9. เพิ่มวงเงินสินเชื่อใหม่ จาก 20% เป็น 50% ของสินเชื่อคงค้าง ณ วันสิ้นปี 2562 หรือ หากคง 20% ให้เพิ่มจากวงเงินเดิม 10. การจัดสรรวงเงินสินเชื่อให้กระจายครบทุกจังหวัดตามสัดส่วน 11. ขอให้ธนาคารแห่งประเทศไทย ดูแลค่าเงินบาทให้มีความผันผวนน้อยลง และ 12. ธนาคารแห่งประเทศไทยน่าจะมีฮอตไลน์รับเรื่องราวร้องทุกข์ เฉพาะเกี่ยวกับ Soft Loan
