ประจวบคีรีขันธ์ - ชาวบ้าน ต.ศาลาลัย อ.สามร้อยยอด เดือดร้อนหนักจากโครงการก่อสร้างรถไฟรางคู่ โดยก่อนหน้านี้ ชาวบ้านได้ยื่นข้อเสนอในที่ประชุมรับฟังความคิดเห็นของการรถไฟฯ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องไปหลายครั้งแล้ว แต่ยังไม่มีการแก้ไข
วันนี้ (31 พ.ค.) นายชาคริต ทรัพย์เจริญกุล ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 4 ตำบลศาลาลัย อำเภอสามร้อยยอด จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ พร้อมด้วยชาวบ้านผู้เดือดร้อน ได้แก่ ผู้เลี้ยงกุ้ง ชาวนา ปลูกสวนปาล์ม และทำฟาร์มจระเข้ กว่า 30 คน นำผู้สื่อข่าวลงพื้นที่บริเวณจุดตัดทางรถไฟซอยเทศบาลไร่เก่า 26 ซึ่งกำลังมีการก่อสร้างโครงการรถไฟรางคู่ มีการปรับพื้นที่ขยายเขตทางรถไฟออกไปจนสุดเขตและเริ่มมีการล้อมรั้วเกือบตลอดแนวทั้งสองฝั่ง
โดยบริเวณใกล้ทางตัดรถไฟประมาณ 200 เมตร มีการทำทางลอดใต้ทางรถไฟ เพื่อเตรียมเปิดใช้แทนจุดตัดรถไฟเดิม ที่จะยกเลิกและล้อมรั้วปิดทาง โดยทางลอดดังกล่าว มีขนาดความสูงประมาณ 2.20 เมตร กว้างช่องละประมาณ 2 เมตร รถจักรยานยนต์ รถยนต์เก๋ง หรือรถกระบะ สามารถผ่านได้พอดีคันเท่านั้น ขณะนี้การก่อสร้างใกล้แล้วเสร็จ เหลือเพียงการปรับพื้นที่ และการเก็บรายละเอียดก่อสร้างอีกเล็กน้อย
การก่อสร้างทางลอด และการเตรียมปิดจุดตัดทางรถไฟบริเวณดังกล่าว จะสร้างความเดือดร้อนให้แก่ชาวบ้านที่มีพื้นที่ทำมาหากินฝั่งทางรถไฟทิศตะวันออกเป็นอย่างมาก เนื่องจากพื้นที่ฝั่งทิศตะวันออกเป็นพื้นที่ทำการเกษตร และประมง มีบ่อเลี้ยงกุ้งกว่า 50 บ่อ สวนปาล์ม ฟาร์มจระเข้ และเป็นแหล่งจับสัตว์น้ำจืดตามธรรมชาติของชาวบ้าน ในแต่ละวันมีประชาชนสัญจรด้วยรถขนาดเล็ก และรถบรรทุกขนาดใหญ่ รถเครื่องจักรเข้าออก ขนถ่ายสินค้า และประกอบกิจการอย่างต่อเนื่อง
หากมีการปิดทางตัดรถไฟ และให้ใช้อุโมงค์ทางลอดแทน จะส่งผลกระทบต่อการประกอบอาชีพของชาวบ้าน เนื่องจากอุโมงค์ทางลอดมีขนาดเล็กไป ส่วนทางลอดใหญ่อยู่ห่างออกไปหลายกิโลเมตร และขณะที่มีการล้อมรั้วปิดทางที่จะเชื่อมถึงกันไม่สามารถใช้การได้
ก่อนหน้านี้ การรถไฟฯ ได้มีการประชุมรับฟังความคิดเห็นจากชาวบ้าน ชาวบ้านได้มีการเสนอให้ขยายทางลอดจากแบบเดิมให้กว้างขึ้น เพื่อให้รถบรรทุกขนาดใหญ่สามารถสัญจรผ่านได้ เนื่องจากชาวบ้านมีความจำเป็นต้องใช้รถเครื่องจักร แบ็กโฮ รถไถ รถตู้ห้องเย็น เพื่อปรับพื้นที่บ่อกุ้ง ขนถ่ายสินค้าผลผลิตการเกษตร การประมง และวัตถุดิบต่างๆ อยู่เป็นประจำ หากรถเหล่านี้ไม่สามารถสัญจรเข้ามาได้ ก็ไม่สามารถประกอบอาชีพได้ ซึ่งในที่ประชุม การรถไฟฯ ยอมรับจะไปปรับแบบทางลอดให้ชาวบ้าน ขณะก่อสร้างทางลอด ชาวบ้านคิดว่าเป็นทางลอดระบายน้ำ ไม่คิดว่าจะเป็นทางลอดสำหรับรถ จึงได้มีการเรียกร้องไปยังการรถไฟฯ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องหลายครั้ง แต่ก็ยังไม่เกิดการปรับแก้
ขณะนี้ชาวบ้านกว่า 1,000 คน ที่ได้รับผลกระทบกำลังเป็นทุกข์อย่างหนัก เนื่องจากโครงการใกล้แล้วเสร็จ ใกล้จะมีการล้อมรั้ว ปิดจุดตัดทางรถไฟ ซึ่งหากมีการปิดจุดตัดทางรถไฟ พื้นที่ฝั่งทิศตะวันออกจะไม่สามารถประกอบอาชีพได้อีกต่อไป
นายชาคริต ทรัพย์เจริญกุล ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 4 ต.ศาลาลัย กล่าวว่า ปัญหาที่ชาวบ้านได้รับคือ รถขนาดใหญ่ไม่สามารถลอดทางได้ เมื่อรถใหญ่เข้ามาไม่ได้ ก็ไม่สามารถเลี้ยงกุ้งได้ บริเวณนี้มีทางลอดเพียงจุดเดียว ความกว้างประมาณ 2 เมตร สูง 2.20 เมตร แต่วิถีชีวิตการประกอบอาชีพของชาวบ้านแถบนี้ที่ต้องใช้รถขนาดใหญ่ คือตั้งแต่ 6 ล้อ 10 ล้อ และก็แบ็กโฮ อยากให้การรถไฟฯ ลงมาดูแล แก้ไขปัญหาให้ชาวบ้านโดยเร็ว ก่อนที่จะมีการปิดจุดตัดที่ใช้อยู่ในปัจจุบัน
ส่วนเรื่องการประสานงานตนเองได้แจ้งไปทางการรถไฟฯ แล้ว และได้มีการประชุมกันหลายครั้งแล้ว แต่ก็ไม่เป็นไปตามแผนที่ชาวบ้านเสนอไว้ คือ ทางลอดมีสูงอย่างน้อย 3.80 เมตร ความกว้างประมาณ 4 เมตร
จ.ส.อ.อภิรักษ์ แก้วเนตร ผู้เลี้ยงกุ้งที่ได้รับผลกระทบ บอกว่า พื้นที่ตรงนี้เนื้อที่ทั้งหมดประมาณ 2,000 ไร่ ในส่วนของบ่อกุ้งมี 53 บ่อ ประมาณ 500 กว่าไร่ นอกจากนี้ ยังมีภาคการเกษตรอื่นๆ ด้วย ทั้งนาข้าว ปาล์มน้ำมัน และยังมีฟาร์มจระเข้อีก 2 ฟาร์มด้วย ในส่วนของการเลี้ยงกุ้ง จำเป็นจะต้องมีการขนส่งกุ้ง และปรับพื้นที่ในบ่อกุ้ง ซึ่งจำเป็นต้องใช้รถใหญ่ตั้งแต่ 6 ล้อขึ้นไป
รวมไปถึงรถไถ รถแบ็กโฮ ที่จะต้องนำเข้ามาเพื่อกวาดพื้นกวาดบ่ออยู่ตลอด ก่อนหน้านี้ได้มีการประชุมร่วมกันหลายครั้งกับทางการรถไฟฯ ก็ที่ตกลงกันไว้ว่าสูง 3.80 เมตร ก็ไม่ได้ ที่ทำได้คือช่องทางเล็กๆ รถกระบะ ก็ยังเข้าลำบากเลย ถ้าเป็นแบบนี้ต่อไปคงทำกินกันไม่ได้ ส่วนทางท้องถิ่นเองพวกตนได้ไปพูดคุยกับนายก อบต. ทำหนังสือขอใช้เส้นทางแต่ก็ไม่ได้รับคำตอบรับออกมา การรถไฟฯ ไม่อนุญาตให้ใช้พื้นที่ และต่อไปเมื่อโครงการเสร็จสิ้นแล้วมันจะอยู่ในรูปที่ว่าเส้นทางรถไฟปิดหมดบังคับให้เราใช้ช่องทางนี้ช่องทางเดียว ไปทางอื่นก็ไม่ได้ รถใหญ่ก็เข้าทำงานกับเราไม่ได้เรา จะเลี่ยงไปใช้เส้นทางอื่นก็ไม่ได้ เนื่องจากมีการล้อมรั้วมาปิดทางหมดแล้ว