ขอนแก่น - แพทย์ พยาบาล และเจ้าหน้าที่ รพ.ขอนแก่นมอบดอกไม้เป็นกำลังใจ “หมอชาญชัย” สู้เต็มที่เพื่อพิสูจน์ความบริสุทธิ์ หลังถูกตั้งกรรมการสอบหาบริหารงานไม่โปร่งใส รับใต้โต๊ะจากบริษัทยา ด้านเจ้าตัวยันถูกใส่ร้ายพร้อมให้ตรวจสอบ แต่เพื่อความเป็นธรรมขอเปลี่ยนกรรมการสอบใหม่ ลือกันให้แซดเป็นเกมการเมืองภายในที่คนโตใน สธ.ต้องการดันคนของตัวเองนั่งเก้าอี้แทน เคยทำมาแล้วแต่ไม่สำเร็จ
กรณี นพ.ชาญชัย จันทร์วรชัยกุล ผอ.รพ.ขอนแก่น ถูกกระทรวงสาธารณสุขตั้งคณะกรรมการสอบ ภายหลังมีบัตรสนเท่ห์จากบุคลากรภายในโรงพยาบาลขอนแก่นร้องเรียนกล่าวหารับเงินใต้โต๊ะจากบริษัทยาและร้านค้าร้อยละ 5 เข้าบัญชีกองทุนโรงพยาบาลช่วงเดือน เม.ย.-ต.ค. 2561 กลายเป็นประเด็นร้อนพูดถึงกันมาก
แต่เป็นที่รู้กันว่า นพ.ชาญชัยถูกการเมืองภายในกระทรวงเล่นงานกลั่นแกล้งเพื่อให้พ้นจากเก้าอี้แล้วแต่งตั้งคนของบิ๊กในกระทรวงมานั่งแทน เพราะเกมล้ม นพ.ชาญชัยไม่ได้เกิดขึ้นเป็นครั้งแรก
ขณะที่กลุ่มคณะแพทย์ บุคลากรทางการแพทย์ สหสาขาวิชาชีพ รพ.ขอนแก่นเองก็มองทะลุในเกมดังกล่าว จึงพยายามรวมตัวกันออกมาเคลื่อนไหวปกป้อง นพ.ชาญชัย เช่นเมื่อวันก่อนได้ส่งตัวแทนเข้ายื่นหนังสือถึงผู้ว่าฯ ขอนแก่นเพื่อเรียกร้องให้มีการตรวจสอบอย่างเป็นธรรมให้แก่ นพ.ชาญชัย เพราะเชื่อว่าการตั้งคณะกรรมการสอบเอาผิดและพยายามย้าย ผอ.อกนอกพื้นที่ไม่มีความเป็นธรรมาภิบาล
ความเคลื่อนไหวล่าสุด วันนี้ (27 พ.ค.) เวลาประมาณ 15.00 น. นพ.ชาญชัยได้เชิญบุคลากรของโรงพยาบาลเข้าฟังคำชี้แจงสถานการณ์ปัญหาที่เกิดขึ้น และยืนยันในความบริสุทธิ์ของตนเอง ซึ่งบุคลากรที่เข้าฟังคำชี้แจงกว่า 200 คนได้ปรบมือให้กำลังใจ พร้อมมอบช่อดอกไม้เป็นแรงใจให้ ผอ.โรงพยาบาลต่อสู้ให้ถึงที่สุด
ต่อมา เวลาราว 15.40 น. นพ.ชาญชัยได้ให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวว่าคงให้กระบวนการสอบเดินหน้าไปตามระเบียบของกระทรวง ณ ขณะนี้ตนยังมีสถานะเป็น ผอ.โรงพยาบาลขอนแก่น ยังไม่มีคำสั่งให้โยกย้ายไปไหน รอจนกว่าผลการสอบจะแล้วเสร็จ ซึ่งไม่กำหนดเวลาว่าจะสอบแล้วเสร็จเมื่อไหร่ ตนมั่นใจในความบริสุทธิ์ไม่ได้มีพฤติการณ์ตามที่ถูกกล่าวหา ซึ่งตอนนี้เหลือประเด็นที่ถูกสอบเพียงเรื่องเดียวคือกรณีการรับบริจาคเงินของโรงพยาบาล
นพ.ชาญชัยกล่าวยืนยันว่า ตนได้ปฏิบัติตามคำสั่งของกระทรวงในมติคณะรัฐมนตรี เรื่องมาตรการป้องกันการทุจริตในกระบวนการเบิกจ่ายยาอย่างเคร่งครัด และบัญชีกองทุนพัฒนาโรงพยาบาลขอนแก่นมีหลักฐานการเดินบัญชีและมีคณะกรรมการรับผิดชอบชัดเจน จึงเป็นไปไม่ได้ที่จะมีการยักยอก เรื่องนี้บุคลากรภายในทราบกันดี
ตนขอยืนยันว่าเรื่องที่ถูกกล่าวหาไม่เป็นความจริง เพราะหลังจากกระทรวงสาธารณสุขประกาศห้ามรับเงินต่างตอบแทนในเดือน มี.ค. 61 ก็ได้ทำหนังสือเวียนไปทุกแผนกของโรงพยาบาลเพื่อไม่ให้รับเงินต่างตอบแทน หรือผลประโยชน์ใด โดยก่อนที่จะมีการประกาศห้ามดังกล่าว โรงพยาบาลขอนแก่นได้นำเงินที่เข้ามาในลักษณะดังกล่าวเข้าไว้ในกองทุนพัฒนาโรงพยาบาลขอนแก่น มีระบบการลงบัญชีชัดเจน ตรวจสอบได้
จนกระทั่งเมื่อวันที่ 24 ต.ค. 62 และวันที่ 13 พ.ย. 62 ได้มีหนังสือขอความร่วมมือตรวจสอบข้อเท็จจริง กรณีมีผู้ร้องเรียน ใช้สรรพนามว่า ข้าราชการเกษียณโรงพยาบาลขอนแก่น กล่าวหาว่าตนปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบด้วยกฎหมายและระเบียบของทางราชการ ประเด็นหลักที่ถูกร้องเรียนคือ เรียกรับเงินจากบริษัทยาและร้านค้าร้อยละ 5 เข้าบัญชีกองทุนพัฒนาโรงพยาบาลขอนแก่น ในช่วงเดือน เม.ย. 61 ถึง ต.ค. 61
“ผมได้เข้าชี้แจงแสดงความบริสุทธิ์เป็นลายลักษณ์อักษรพร้อมพยานหลักฐานต่างๆ วันที่ 7 ม.ค. 63 แต่ตอนนี้ยอมรับว่ารู้สึกหนักใจในตัวกรรมการที่มาสอบสวนเรื่องนี้ ผมจะส่งหนังสือคัดค้านการตั้งคณะกรรมการไปยังกระทรวงภายในเวลา 7 วัน ให้พิจารณาทบทวนการแต่งตั้งใหม่” นพ.ชาญชัยกล่าว และย้ำว่า
ที่ผ่านมาตนและทีมบริหารได้พัฒนาโรงพยาบาลขอนแก่นมาโดยตลอด จากเดิมที่รายรับติดลบ ปัจจุบันโรงพยาบาลมีรายได้เป็นบวก เป็นโรงพยาบาลที่มีเครื่องมือทางการแพทย์ที่ทันสมัย
ด้านแพทย์หญิง กนกวรรณ ศรีรักษา ประธานองค์กรแพทย์โรงพยาบาลขอนแก่น ระบุว่า เรื่องที่เกิดขึ้นเป็นการกลั่นแกล้งกันภายในองค์กร บัตรสนเท่ห์ที่ร้องเรียนไปยังกระทรวงไม่ระบุชื่อ บอกแค่ว่าเป็นข้าราชการเกษียณจากโรงพยาบาลขอนแก่น ความพยายามที่จะให้ท่าน ผอ.ชาญชัย พ้นจากตำแหน่งสร้างความเสียใจแก่บุคลากรทางการแพทย์โรงพยาบาลเป็นอย่างมาก การบริหารงานของ นพ.ชาญชัย ที่ผ่านมาพิสูจน์ให้เห็นแล้วว่าโปร่งใส มีประสิทธิภาพ มีความเป็นธรรมาภิบาลตรวจสอบได้ พวกเราอยากให้การตรวจสอบเป็นไปด้วยความเป็นธรรม
ผลงานของ ผอ.ชาญชัย นับจากที่เข้ามาบริหารงานเป็นที่ยอมรับของเจ้าหน้าที่และบุคลากรทางการแพทย์ทุกคนของโรงพยาบาลขอนแก่น สามารถฟื้นฟูสถานะทางการเงินของโรงพยาบาล ตอนเข้ามารับตำแหน่ง ผอ.รพ.ครั้งแรกเมื่อเดือนพฤศจิกายน 2558 รพ.ขอนแก่นมีปัญหาขาดทุนกว่า 200 ล้านบาทนานนับ 10 ปีติดต่อกัน แต่กลับพลิกฟื้นมีกำไร และมีเงินบำรุงคงเหลือกว่า 200 ล้านบาทในปี พ.ศ. 2560
ที่สำคัญได้รับความเชื่อถือ ศรัทธา และไว้วางใจจากภาคเอกชนและพระเถระผู้ใหญ่ ทำให้โรงพยาบาลขอนแก่นได้รับบริจาคและช่วยเหลือทั้งในด้านเงิน อาคารสถานที่ และเครื่องมือแพทย์ เป็นมูลค่ามากกว่า 200 ล้านบาท เช่น การปรับปรุงสร้างห้องผ่าตัดกันรังสีอเนกประสงค์ ซึ่งถือเป็นแห่งแรกของภาคอีสาน