วธ.แจงยิบมาตรการกองถ่ายภาพยนตร์และวีดิทัศน์ ย้ำต้องขออนุญาตใช้พื้นที่สาธารณะอย่างน้อย 1 วัน พักฉากบู๊ เลิฟซีน หากฝ่าฝืนตักเตือนถึงขั้นสั่งปิดกอง
วันนี้ (18 พ.ค.) ที่กระทรวงวัฒนธรรม (วธ.) ได้มีการจัดประชุมชี้แจงการดำเนินกิจการกองถ่ายภาพยนตร์และวีดิทัศน์ ตามมาตรการผ่อนปรนระยะที่ 2 โดย นางยุพา ทวีวัฒนะกิจบวร รองปลัดกระทรวงวัฒนธรรม กล่าวว่า ขณะนี้กองถ่ายทำภาพยนตร์และวีดิทัศน์ ได้รับการผ่อนปรนเป็นสีเขียว อย่่งไรก็ตาม วธ. ได้มอบหมายให้ดูแลและกำหนดมาตรการการดำเนินงานกองถ่ายทำภาพยนตร์และวีดิทัศน์ โดยเน้นย้ำให้ทุกคนต้องลงทะเบียนในแอปพลิเคชัน ไทยชนะ หรือ www.ไทยชนะ.com เพื่อติดตามรับรู้ รับทราบว่า วันไหนมากองถ่าย มีใครทำงานบ้าง ทั้งนี้ จะได้ตรวจเช็กได้ ถ้าหากมีการติดเชื้อในกองถ่าย และแต่ละกองจำกัด ไม่เกิน 50 คน โดยกรณีที่ผู้อยู่ในกองถ่ายไม่มีอุปกรณ์ลงทะเบียน ในแอปพลิเคชันได้ ให้ลงทะเบียนผ่านการกรอกเอกสารแทน โดยจะมีการเก็บข้อมูลไว้ 60 วัน พร้อมกันนี้ ได้กำชับให้ทุกคนที่ยังไม่เข้าฉากต้องสวมหน้ากากตลอดเวลา และให้มีการความสะอาดสถานที่ทันทีที่เสร็จสิ้นภารกิจการถ่ายทำของวันนั้น
นางยุพา กล่าวด้วยว่า ขอให้แต่ละกองมีการกำกับดูแลห้ามมิผู้ที่เพิ่งเดินทางกลับมาจากต่างประเทศเข้ากองถ่าย ให้งดเว้นฉากต่อสู้ สัมผัสใกล้ชิดกัน โดยให้ใช้มุมกล้อง หรือเทคนิค วิธีอื่นแทน เพราะโอกาสเสี่ยงต่อการติดเชื้อมีสูง นอกจากนี้ ทุกคน ต้องผ่านจุดคัดกรองวัดอุณหภูมิ ไม่ให้เกิน 37.5 องศาเซลเซียส สำหรับการรับประทานอาหาร ให้แยกภาชนะ ใส่อาหาร และให้เว้นระยะห่าง ไม่รวมกลุ่มกันส่วนการสื่อสารระหว่างกันในกองถ่าย อาจมีการใช้เครื่องมือสื่อสารแทนเผชิญหน้า ส่วนช่างแต่งหน้าทำผม ไม่ใช้วัสดุอุปกรณ์ร่วมกัน ขณะที่ การใช้พาหนะกองถ่าย ให้เว้นเบาะนั่ง เพื่อไม่ให้มีความแออัด กรณีที่มีการออกกองถ่ายในพื้นที่สาธารณะ ในส่วนกรุงเทพฯ ให้มีการทำหนังสือแจ้งขออนุญาตการดำเนินงานต่อ ปลัดกรุงเทพมหานคร ล่วงหน้าอย่างน้อย 1 วันทำการ เช่นเดียวกับในต่างจังหวัด ให้ขออนุญาตต่อ ผู้ว่าราชการจังหวัดนั้นๆ ส่วนการถ่ายทำในพื้นที่ปิด หรือ สตูดิโอ ไม่ต้องขออนุญาต และห้ามมิให้กองถ่ายต่างชาติมาถ่ายทำในประเทศโดยเด็ดขาด
จากนั้น นางยุพา กล่าวด้วยว่า หลังจากที่เริ่มมาตรการผ่อนปรน พบว่า มีหลายกองออกถ่ายทำแล้ว และยังไม่ปฏิบัติตามมาตรการเท่าที่ควร โดยเฉพาะ ไม่สวมใส่หน้ากากอนามัย จึงขอให้ทุกฝ่ายต้องช่วยเฝ้าระวัง ขอให้มีความรับผิดชอบ ปฏิบัติตามมาตรการอย่างเคร่งครัดจริงๆ เพราะ วธ. ได้พยายามหาทางผ่อนปรนให้แล้ว จึงไม่อยากให้เกิดการไม่ปฏิบัติตามแนวทางที่ ศบค. กำหนด ถ้าหากมีการปล่อยปละละเลย อาจส่งผลกระทบไปหมดทั้งวงการ สื่อภาพยนตร์และวีดิทัศน์ และจะต้องถอยหลังกลับไปอยู่ในเขตสีแดง หากพบสิ่งที่ไม่ถูกต้อง แจ้งมาที่ สายด่วนวัฒนธรรม 1765 หากตรวจสอบพบว่ามีการฝ่าฝืนมาตรการ จะตักเตือน จนถึงให้ปิดกองถ่าย และกองที่ทำความผิด จะต้องโดนขึ้นบัญชีห้ามเปิดกองอีกเลย
ด้าน นพ.จักรรัฐ พิทยาวงศ์อานนท์ ผอ.กองยุทธศาสตร์และแผนงาน กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า ที่กำหนดทีมงานในกองถ่ายต้องไม่เกิน 50 คน เพราะหากมีผู้ติดเชื้อโควิด-19 หลุดเข้าไปในกองถ่ายหรือรายการโทรทัศน์ ยังเป็นตัวเลขผู้เกี่ยวข้องที่สามารถตรวจจับการระบาด สอบสวน และควบคุมโรคได้ทัน รวมถึงติดตามอาการในอีก 10 วันถัดไปหลังมาถ่ายทำ อีกสิ่งสำคัญการลงทะเบียนสำหรับกองถ่ายในเว็บไซต์ www.ไทยชนะ.com ควรเช็กอินและเช็กเอาต์ให้ตรงกับวันและเวลาการใช้จริง จะช่วยให้ติดตามข้อมูลและตรวจสอบผู้สัมผัสใกล้ชิด กรณีที่มีผู้ติดเชื้อในกิจกรรมดังกล่าว ปัจจุบันเชื้อโควิดในประเทศยังมี แต่ผู้ป่วยไม่ได้แสดงอาการ จึงไม่ไปตรวจ ซึ่งเป็นสิ่งที่น่ากังวลว่ามี โอกาสที่จะมีผู้ติดเชื้อร่วมกิจกรรมกองถ่ายได้ โดยเฉพาะ กองถ่ายถ่ายทำในสถานที่ปิด แม้จะเป็นทีมงานไม่เกิน 10 คน ก็มีความเสี่ยง เห็นตัวอย่างที่จีนตัวเลขผู้ติดเชื้อกลับมาอีก จากสถานที่ติดแอร์และรถปรับอากาศ ซึ่งการที่อากาศไม่ถ่ายเทเป็นปัจจัยเสี่ยงให้แพร่เชื้อได้ง่าย
นพ.จักรรัฐ กล่าวต่อว่า สถานที่ถ่ายทำต้องมีพื้นที่รองรับเหมาะสม มีอากาศถ่ายเทหรือใช้พัดลมปรับอากาศช่วย ส่วนการถ่ายทำข้ามคืนปักหลักที่กองถ่ายก็ไม่ควรทำ ขอให้ยึดตามประกาศมาตรการเคอร์ฟิว ทั้งนี้ สธ.และ. วธ. จะประเมินผลกิจกรรมทุกๆ 14 วัน และ 28 วัน หากผู้ประกอบการปฏิบัติตามมาตรการอย่างเคร่งครัดจะมีมาตรผ่อนปรน ทั้งเพิ่มจำนวนทีมงานในกองถ่ายและเพิ่มฉาก แต่ถ้าฝ่าฝืนจะมีการตักเตือน และสั่งให้ปรับปรุง รวมถึงตรวจซ้ำ เพื่อให้การควบคุมโรคมีประสิทธิภาพที่สุด อย่างไรก็ตาม หวังผู้ประกอบการภาพยนตร์เป็นตัวอย่างที่ดีและแบบอย่างการสร้างชีวิตวิถีใหม่ด้วย
นายบัณฑิต ทองดี นายกสมาคมผู้กำกับภาพยนตร์ไทย กล่าวว่า ในกรณีมาตรการให้งดถ่ายฉากกอด จูบ และต่อสู้ที่มีโอกาสสัมผัสตัวกันนั้น แม้ว่าจะส่งผลกระทบในส่วนที่เป็นฉากต่อเนื่องจากที่ก่อนหน้ามีการถ่ายทำฉากเหล่านี้ไว้บางซีนก่อนหน้านี้แล้ว แต่เวลานี้ก็ขอให้กองถ่ายที่จะถ่ายฉากเหล่านี้ได้เข้าใจสถานการณ์ว่าเราต้องหยุดไปก่อน และรอดูสถานการณ์และประเมินผลไปอีกระยะถ้าจำนวนผู้ติดเชื้อลดลงและเป็น 0 ต่อเนื่อง เชื่อว่า ภาครัฐก็อาจจะมีผ่อนปรนเพิ่มให้ แต่หากสถานการณ์ดีขึ้นแล้วและยังไม่มีการปลดล็อกอาจจะมาหารือกันใหม่ว่า จะมีมาตรการรองรับสำหรับการถ่ายฉากใกล้ชิดแบบนี้อย่างไร ได้บ้าง ในระหว่างที่รอผ่อนปรนระยะต่อไป ก็ขึ้นอยู่กับความมีวินัยและความรับผิดชอบของคนในกองถ่าย และทุกคนต้องปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด เพราะเรื่องนี้เกี่ยวข้องกับประเทศ และทางราชการก็เอาจริง มั่นใจว่า จะไม่มีกรณีการจะมาจ่ายเงินใต้โต๊ะเพื่อให้ถ่าย และหากมีการตรวจพบ กองถ่ายไม่เคร่งครัด หรือมีการร้องเรียนมาโอกาสที่จะถูกปิดกองทั้งวงการก็เกิดขึ้นได้