“อิทธิพล” แจง ศบค.ปรับห้างเลิก 2 ทุ่ม ให้ พนง.กลับทันเคอร์ฟิว ยังไม่จำกัดคนเข้า คาดเปิดใช้แอปฯ “ไทยชนะ” พรุ่งนี้เพื่อลงทะเบียนก่อนเข้าห้าง ชี้ถ่ายหนังห้ามเกิน 50 คน งดถ่ายฉากใกล้ชิด แจงเฟส 2 ผ่อนปรนมากขึ้น ยังปิดสนามบินภูเก็ตต่อ
วันนี้ (15 พ.ค.) ที่ทำเนียบรัฐบาล นายอิทธิพล คุณปลื้ม รมว.วัฒนธรรม ให้สัมภาษณ์ภายหลังการประชุมศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบค.) ว่า ที่ประชุม ศบค.อนุมัติกระทรวงวัฒนธรรมเสนอให้ผ่อนปรนการถ่ายทำภาพยนตร์ ละคร และรายการโทรทัศน์ โดยคนในกองถ่ายแต่ละกอง ทั้งนักแสดงและทีมงานฝ่ายต่างๆ ต้องรวมแล้วไม่เกิน 50 คน และคนที่จะเข้าทำงานในกองถ่ายนั้นๆ ต้องมีการลงทะเบียนแจ้งข้อมูลก่อน พร้อมกับต้องทำตามข้อปฏิบัติด้านสุขอนามัย เช่น สวมใส่หน้ากากอนามัย มีเจลแอกอฮอล์ล้างมือ รวมถึงต้องหลีกเลี่ยงการถ่ายทำที่ผู้แสดงต้องสัมผัสใกล้ชิดกัน อาทิ ฉากการต่อสู้ ฉากแสดงความรัก โดยให้ใช้เทคนิคพิเศษหรือมุมกล้องในการถ่ายทำฉากเหล่านี้ อย่างไรก็ตาม ไม่มีการเข้มงวดที่ถึงขั้นต้องให้ส่งบทมาให้เราตรวจก่อน ขณะที่บรรดาผู้จัดและผู้กำกับรับทราบถึงการปรับตัวอยู่แล้ว
รมว.วัฒนธรรมกล่าวอีกว่า นอกจากนี้ ช่วงห้ามออกนอกเคหสถาน (เคอร์ฟิว) จากเดิมที่เริ่มเวลา 22.00 น. เปลี่ยนเป็นตั้งแต่เวลา 23.00 น.ไปสิ้นสุดเวลา 04.00 น.ของวันรุ่งขึ้น สำหรับกรณีของห้างสรรพสินค้านั้น แม้ภาคเอกชนเสนอขอเปิดตั้งแต่เวลา 10.00-21.00 น. แต่ที่ประชุม ศบค.เห็นว่าให้เปิดทำการได้ตั้งแต่เวลา 10.00-20.00 น. เพราะจำเป็นต้องให้พนักงานห้างสรรพสินค้าได้มีเวลาเดินทางกลับบ้านก่อนถึงช่วงเคอร์ฟิว ทั้งนี้ ไม่ได้จำกัดจำนวนผู้เข้าไปในห้างสรรพสินค้า แต่กำหนดให้ผู้ที่จะข้าห้างหรือเข้าไปในร้านต่างๆ ในห้าง ทุกคนต้องลงทะเบียนก่อนเข้า และต้องปฏิบัติตามมาตรการด้านสาธารณสุข แต่ไม่ได้กำหนดเรื่องความหนาแน่นภายในร้านค้าหรือภายในห้างว่าต้องมีกี่คนต่อตารางเมตร แต่พิจารณาตามความเหมาะสม
สำหรับแอปพลิเคชัน “ไทยชนะ” ที่ให้ประชาชนใช้ลงทะเบียนก่อนเข้าห้างหรือร้านค้าในห้างนั้น นายกรัฐมนตรีสั่งการให้เปลี่ยนโลโก้ ทั้งนี้ คาดว่าจะเปิดตัวใช้งานแอปพลิเคชันนี้ได้ในวันที่ 16 พ.ค.นี้ เพราะการผ่อนปรนให้ห้างเปิดได้จะมีผลตั้งแต่วันที่ 17 พ.ค.นี้
รมว.วัฒนธรรมกล่าวอีกว่า การผ่อนปรนระยะที่ 2 เป็นผลจากการประเมินโดยกระทรวงสาธารณสุขที่ดูจากยอดผู้ติดเชื้อสะสมที่ลดลง และอยู่ในเกณฑ์ที่สามารถผ่อนปรนระยะที่ 2 ซึ่งผ่อนปรนค่อนข้างมาก ส่วนการผ่อนปรนระยะที่ 3 เป็นเรื่องที่รอการพิจารณาในโอกาสต่อไป เช่น โรงภาพยนตร์ ผับบาร์ สถานบันเทิง ซึ่งจะต้องพิจารณาเป็นรายกรณี
เมื่อถามว่าร้านนวดที่อยู่ในห้างสรรพสินค้าสามารถเปิดทำการได้ด้วยหรือไม่ นายอิทธิพลกล่าวว่า ร้านนวดถูกจัดอยู่ในกลุ่มกิจการและกิจกรรมที่จะได้รับการผ่อนปรนระยะที่ 3 แต่ให้ร้านนวดสามารถเปิดบริการนวดเท้าได้อย่างเดียว อย่างไรก็ตาม ผู้ประกอบการร้านนวดบอกว่าเขาเคยเปิดบริการนวดตัวและนวดเท้า ถ้าจะให้เปิดนวดเท้าได้อย่างเดียว ก็ไม่คุ้มที่จะกลับมาเปิดกิจการ ส่วนร้านตัดผมในห้างสรรพสินค้าสามารถเปิดให้บริการได้ แต่จำกัดเวลาให้บริการไม่เกิน 2 ชั่วโมงต่อลูกค้า 1 คน
นายอิทธิพลกล่าวอีกว่า กระทรวงสาธารณสุข และกรุงเทพมหานคร (กทม.) ได้รายงานผลการประเมินกิจการที่ได้รับการผ่อนปรน ระยะที่ 1 ให้ที่ประชุม ศบค.ได้รับทราบ โดยพบว่ามีกิจการร้านค้า 70 กว่าเปอร์เซ็นต์ ปฏิบัติตามข้อกำหนดของ ศบค. เหลือ 20 กว่าเปอร์เซ็นต์ที่ยังต้องปรับปรุง ซึ่งมีทั้งร้านอาหารบุฟเฟต์ และร้านอาหารขนาดเล็กที่ยังมีการเว้นระยะห่างไม่เพียงพอ หรือไม่มีฉากกั้น ทั้งนี้ ร้านใดที่ถูกตรวจพบว่า ฝ่าฝืนหรือถูกตรวจพบว่าไม่ผ่านเกณฑ์การประเมินข้อปฏิบัติด้านสาธารณสุข ผู้ว่าราชการจังหวัดสามารถสั่งปิดร้านนั้นได้ทันที ซึ่งเป็นไปตามพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) โรคติดต่อ และ ศบค.ให้อำนาจผู้ว่าราชการจังหวัดแล้วเช่นกัน อย่างไรก็ตาม หลังจากประเมินไปอีก 14 วันนับจากนี้แล้วพบว่าสถานการณ์เบาลง การผ่อนปรนระยะที่ 3 จะตามมา และถ้าดีขึ้นเรื่อยๆ ก็จะเข้าสู่ภาวะปกติในระยะที่ 4
รมว.วัฒนธรรมเปิดเผยด้วยว่า ที่ประชุม ศบค.สั่งการให้ปิดท่าอากาศยานภูเก็ตต่อไปอีกระยะหนึ่ง ตามที่กระทรวงสาธารณสุขร้องขอให้ชะลอเนื่องจากยังพบมีผู้ติดเชื้อจากจังหวัดภูเก็ต ทั้งนี้ นายกฯ ปรารภในที่ประชุม แสดงความเป็นห่วงว่าหลังจาก จ.ภูเก็ต เปิดเมืองแล้วมีคนจำนวนมากเดินทางเข้าออก และกระจายไปหลายพื้นที่ จึงเป็นห่วงจำนวนผู้ติดเชื้อที่จะออกมาในสัปดาห์หน้า อีกทั้งในการประชุม ศบค.สัปดาห์หน้าจะมีการรายงานผลสถานการณ์ช่วงวันหยุดยาวที่ผ่านมาให้รับทราบด้วย