กาฬสินธุ์ - ชาวบ้านในจังหวัดกาฬสินธุ์ให้ความสนใจโรงสีข้าวปิกนิกราคาประหยัด น้ำหนักเบา สามารถเคลื่อนย้ายได้ คาดในยุคผลกระทบโควิด-19 ได้รับความสนใจเป็นอย่างมาก เพราะประหยัด พอเพียง ได้ประโยชน์ทุกส่วนของเมล็ดข้าวเปลือก ทั้งเมล็ดข้าวสวย ได้ทั้งปลายข้าว รำข้าว และไม่มีแกลบ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากการติดตามบรรยากาศการประกอบอาชีพและความเป็นอยู่ของประชาชนชาว จ.กาฬสินธุ์ ในช่วงได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ทั้งในส่วนของการทำมาหากิน การครองชีพ และในกลุ่มผู้ที่รอรับเงินเยียวยา และกลุ่มที่ได้รับเงินเยียวยาจากรัฐบาล ซึ่งมีความหลากหลาย แตกต่างกันไป
โดยที่ร้านซ่อมเครื่องยนต์การเกษตรแห่งหนึ่ง หน้าหมู่บ้านดอนอุดม ต.บัวบาน อ.ยางตลาด จ.กาฬสินธุ์ ถนนสายปากทาง-เขื่อนลำปาว ผู้สื่อข่าวพบชาวบ้านจำนวนหนึ่งให้ความสนใจเครื่องยนต์ชนิดหนึ่งซึ่งกำลังทดสอบสมรรถภาพการทำงาน จากการสอบถามทราบว่าเครื่องยนต์ดังกล่าวเป็นเครื่องสีข้าวปิกนิกที่ใช้สำหรับสีเมล็ดข้าวเปลือก
ถือเป็นยนตรกรรมตัวใหม่ที่ได้จากภูมิปัญญาช่างโรงงาน น้ำหนักเบา เคลื่อนย้ายง่าย ประหยัดไฟ ที่เพิ่งนำมาเปิดตัวเป็นครั้งแรกในท้องถิ่นนี้
นายธวัชชัย ดีจันทร์ อายุ 52 ปี บ้านเลขที่ 16 หมู่ 17 บ้านดอนอุดม ต.บัวบาน เจ้าของร้านเปิดเผยว่า เครื่องสีข้าวปิกนิกดังกล่าวตนรับมาจากช่างโรงงานแห่งหนึ่งในตัวเมืองขอนแก่น เพื่อเป็นทางเลือกใหม่ให้แก่ชาวบ้านใช้ในการสีข้าวสารไว้กินในครัวเรือน ซึ่งจะเหมาะสมมากในช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 ที่ชาวบ้านจะได้ไม่ต้องนำข้าวเปลือกไปสีตามโรงสีทั่วไปที่ทำให้เกิดภาวะเสี่ยงต่อการได้รับเชื้อโควิด-19 และที่สำคัญคือ ประหยัด คุ้มค่าที่สุด
เครื่องสีข้าวปิกนิกดังกล่าวสีด้วยพลังงานไฟฟ้า เพียงเสียบปลั๊กก็สามารถเดินเครื่องได้ ประหยัดไฟ ประหยัดเวลา ไม่เกิดเขม่าควัน เมล็ดข้าวเปลือก 1 กระสอบหรือประมาณ 30 กก. ใช้เวลาสีประมาณ 20 นาทีเสร็จ จากเมล็ดข้าวเปลือก ก็จะถูกแปรสภาพเป็นข้าวสารที่ขาวสวย ไม่แตกหัก
โดยระบบของโรงสีจะคัดแยกออกมาเป็นข้าวสาร ข้าวปลาย และรำข้าว ไม่มีแกลบ ทั้งนี้ ตนเห็นว่าน่าจะเป็นยนตรกรรมที่จะได้รับความนิยมเป็นอย่างมากในอนาคต
ตนจึงติดต่อนำมาจำหน่ายและทดสอบประสิทธิภาพการใช้งาน ซึ่งได้รับความสนใจจากชาวบ้านเป็นอย่างดี ที่สำคัญราคาไม่แพง เริ่มต้นเพียง 12,000 บาทเท่านั้น โดยทุกส่วนของเมล็ดข้าวเปลือกไม่มีส่วนใดต้องทิ้งเลย
ด้านนางดวงใจ ชาญประเสริฐ อายุ 51 ปี ชาวบ้านร่วมเย็น หมู่ 15 ต.บัวบาน บอกว่า วันนี้ตนนำเครื่องตัดหญ้ามาซ่อม เห็นเจ้าของร้านทดสอบการใช้งานเครื่องสีข้าวปิกนิก เห็นเข้าท่าดีจึงสนใจอยากจะได้ เพราะสีเมล็ดข้าวออกมาขาวสวย ได้ทั้งปลายข้าว และรำ ซึ่งถือเป็นความบังเอิญที่ลงตัวพอดี เพราะที่บ้านตนก็เลี้ยงไก่ เลี้ยงปลาด้วย ซึ่งจากการสีข้าวด้วยเครื่องสีข้าวปิกนิกดังกล่าวได้ทั้งข้าวสารในปริมาณที่มากกว่านำไปสีตามโรงสีทั่วไป และนอกจากจะได้เมล็ดข้าวสวยแล้ว ยังจะได้ปลายข้าว รำข้าว ไว้เลี้ยงไก่ เลี้ยงปลาอีกด้วย
นางดวงใจกล่าวอีกว่า จากประสิทธิภาพของเครื่องสีข้าวปิกนิกถือว่าเป็นสินค้าดี มีคุณภาพ ประหยัดและประโยชน์คุ้มค่าตามวิถีพอเพียง ทั้งนี้ สำหรับเงินที่นำมาซื้อโรงสีปิกนิกดังกล่าวเป็นเงินที่ได้รับการเยียวยาจากรัฐบาลพอดี ก็ต้องขอขอบคุณรัฐบาล พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ที่มอบเงินเยียวยาจากผลกระทบโควิด-19 ให้ และเป็นโอกาสดีที่ตนจะได้มีเครื่องสีข้าวปิกนิกไปใช้สีข้าวในครัวเรือนอีกด้วย