ตัวอย่างชาวนานักปฏิรูปผู้ไม่ยอมจำนนต่อการทำนาเคมีแล้วมองไม่เห็นอนาคต ลุกขึ้นมาค้นหาสาเหตุแห่งความยากจนของชาวนา จนทุกวันนี้เขากลายเป็นผู้บริหารคนหนึ่งของบริษัทบัญญัติไรซ์ ซึ่งได้ลงมือทำนาคุณภาพ จนได้รับการสนับสนุนจาก SME Development Bank ขยายกำลังการผลิตของโรงสีให้สูงถึง 400 ตันต่อวัน รองรับตลาดคนรักสุขภาพและการส่งออกในอนาคต
คุณภูมิพัฒน์ เหมือนแดง เจ้าของธุรกิจข้าวอินทรีย์ แบรนด์ “บัญญัติไรซ์” เผยถึงแนวคิดในการปลูกข้าวปลอดสารเคมีว่า ในฐานะคนรุ่นใหม่ที่หันมาสนใจวิถีเกษตรอย่างการปลูกข้าวโดยมองเห็นปัญหาหลายด้านของชาวนาที่ยังไม่สามารถลืมตาอ้าปากได้เนื่องจากต้นทุนหมดไปกับการใช้ปุ๋ยเคมี ในขณะที่ข้าวก็ขายไม่ได้ราคาทำให้เขาต้องการเปลี่ยนแนวคิดชาวนาใหม่ให้หันมาทำเกษตรอินทรีย์ โดยเริ่มจากการทำให้ดูเป็นตัวอย่างแม้ต้องทนกับคำครหามาก่อนก็ตาม
“ผมมองว่าการเป็นชาวนานอกจากการปลูกข้าวแล้วจะต้องมีการนำมาแปรรูปและศึกษาตลาดว่าผู้บริโภคต้องการอะไรเพื่อจะได้ผลิตให้ตรงต่อความต้องการ โดยผมมองว่าการปลูกข้าวไรซ์เบอร์รี ข้าวสังข์หยด ข้าวกล้อง ข้าวหอมมะลิแดง หรือแม้กระทั่งข้าวปลอดสารเคมี กำลังเป็นเทรนด์ของคนรักสุขภาพ และเชื่อว่าจะกลายเป็นตลาดใหญ่ของผู้บริโภคในอนาคต ดังนั้นผมจึงเน้นด้านการผลิตข้าวให้มีคุณภาพ เริ่มต้นตั้งแต่การปลูกเองและเพื่อให้มีกำไรมากขึ้นก็ต้องสีข้าวเองด้วย รวมถึงลดการใช้ปุ๋ยเคมีที่นับวันจะมีราคาสูงขึ้น ซึ่งนั่นถือเป็นต้นทุนที่ชาวนาหนีไม่พ้น”
เขาจึงปรึกษานักวิชาการเพื่อหาแนวทางการปลูกข้าวอินทรีย์ที่ชัดเจน และมีข้อมูลที่เชื่อถือได้ โดยได้แนวคิดหนึ่งที่ทำให้เขาเดินตามมาตลอดนั่นคือ ‘บำรุงดินให้ดินเลี้ยงพืช’ เป็นการบำรุงดินโดยใช้ปุ๋ยแห้งสลับปุ๋ยน้ำ ไม่ทำลายฟางข้าวด้วยการเผาแต่จะเลือกใช้วิธีการย่ำและหมักประมาณ 1-2 สัปดาห์เพื่อให้ฟางข้าวกลายเป็นปุ๋ยธรรมชาติ และกลับไปบำรุงดินได้อีกทางหนึ่ง ซึ่งผลลัพธ์ที่เห็นได้ชัดคือจะมีไส้เดือนและแมลงตามกลไกของธรรมชาติอยู่ครบ ทำให้ดินดีโดยไม่ต้องพึ่งสารเคมี และประหยัดค่าปุ๋ยไปได้กว่าครึ่ง
“ทุกอย่างที่อยู่ในพื้นนาหรือในที่ดินของเราถูกนำมาใช้ให้เกิดประโยชน์โดยเฉพาะการหมักทำปุ๋ยอินทรีย์ ไม่ว่าจะเป็นอะไร ปลายข้าว มูลไก่ มูลวัว ซึ่งถูกนำมาหมักและใช้แทนปุ๋ยเคมีอย่างได้ผล และยังเป็นการช่วยฟื้นฟูดินคืนแร่ธาตุในดินให้กลับคืนมาตามความสมดุลของธรรมชาติ”
ในช่วงแรกคุณภูมิพัฒน์ยอมรับว่าเป็นเรื่องยากที่จะไปปรับเปลี่ยนแนวคิดของชาวนาให้เลิกใช้ปุ๋ยเคมีหันมาพึ่งปุ๋ยหมักจากธรรมชาติแทน แต่เมื่อเขาเป็นผู้นำร่องและทำให้ดูเป็นตัวอย่างแม้ในช่วงหนึ่งปีแรกผลผลิตจะได้ไม่มากนัก ประมาณ 20-30 ถังต่อไร่ เมื่อเทียบกับการใช้ปุ๋ยเคมี แต่ผลผลิตเพิ่มขึ้นทุกปีจนกระทั่งเข้าปีที่ 5 ได้ผลผลิตสูงถึง 70-80 ถังต่อไร่ ซึ่งเขาก็พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่า การปลูกข้าวอินทรีย์ก็ให้ผลผลิตเทียบเท่าการใช้สารเคมีแถมยังทำให้ข้าวนุ่มและหอมมากขึ้นด้วย
ปัจจุบันข้าวภายใต้แบรนด์ 'บัญญัติ' มีกลุ่มเกษตรกรที่เข้าร่วม 12 ครอบครัว สามารถผลิตข้าวได้ 500 ตันต่อปี ซึ่งยังไม่ค่อยเพียงพอต่อความต้องการของตลาดมากนัก โดยเฉพาะเครื่องสีข้าวที่ยังมีขนาดเล็กทำให้กำลังการผลิตไม่เพียงพอต่อความต้องการ ดังนั้นเขาจึงได้รับการสนับสนุนจากธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย หรือ SME Development Bank ให้เงินทุนสินเชื่อในการขยายโรงสีเพื่อให้มีกำลังการผลิต 40 ตันต่อวัน จากเดิมสีข้าวได้แค่ 2 ตันต่อวันเท่านั้น ซึ่งไม่เพียงพอสำหรับการสั่งซื้อในประเทศ ทั้งการผลิตภายใต้แบรนด์ของตัวเองและรับจ้างผลิตรวมถึงเพื่อรองรับตลาดส่งออกที่จะเกิดขึ้นในอนาคตอีกด้วย
ติดต่อ Line id : @banyatrice
E-mail : Nhongsun@gmail.com
โทร. 08-4917-8514, 09-0915-3642
* * * คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า “SMEs ผู้จัดการ” รับข่าวสารในแวดวงธุรกิจเอสเอ็มอีที่สมบูรณ์แบบที่สุด และร่วมสนุกกับกิจกรรมลุ้นรับของรางวัลมากมาย คลิกที่นี่เลย!! * * *