พะเยา/เชียงราย - คาดเครียดหนักโดนกดดันตามจับ-นัดมอบตัว 2 รอบไม่โผล่ พี่เขยร่วมน้องเมียเคาะกระจก-ปืนจ่อชิงเงินสหกรณ์เชียงแสนพบแขวนคอตายในคอกวัวใกล้บ้านเกิดแล้ว ตร.เร่งแกะเส้นทางใช้เงินก่อนตามยึดคืน
วันนี้ (21 พ.ค.) เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ภูกามยาว จ.พะเยา ได้รับแจ้งว่า นายชื่นใจ๋ ก้อนคำ อายุ 47 ปี ภูมิลำเนาเดิมอยู่บ้านเลขที่ 49 หมู่ 12 ต.ห้วยแก้ว อ.ภูกามยาว จ.พะเยา ซึ่งถูกออกหมายจับ หลังร่วมกับน้องเมียที่ถูกจับกุมไปก่อนคือ นายสิทธิโชค เมืองมา อายุ 33 ปี บ้านเลขที่ 91 หมู่ 8 ต.ศรีดอนมูล อ.เชียงแสน ก่อเหตุเคาะกระจก-ชักปืนจ่อชิงเงินสดสหกรณ์การเกษตรเชียงแสน บริเวณหน้าธนาคารกรุงเทพ สาขาเชียงแสน จำนวน 1,050,000 บาท เมื่อวันที่ 18 พ.ค.ที่ผ่านมา ได้ตัดสินใจฆ่าตัวตายแล้ว
โดยหลังก่อเหตุและแบ่งเงินที่ชิงมาได้กับนายสิทธิโชคที่สุสานเชียงแสนแล้ว นายชื่นใจ๋ได้หลบหนีไปยังภูมิลำเนาเดิม ต.ห้วยแก้ว อ.ภูกามยาว กระทั่งถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจติดตามกดดันอย่างหนัก ก็ได้ติดต่อขอมอบตัวในเวลา 02.00 น. วันที่ 20 พ.ค. ก่อนจะเลื่อนเวลาเป็นช่วงบ่ายวันเดียวกัน ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้เดินทางไปรออยู่ ณ ที่ทำการกำนัน ต.ห้วยแก้ว จนถึงค่ำวานนี้ แต่นายชื่นใจ๋ก็ไม่ได้เดินทางมามอบตัวตามนัดหมาย
กระทั่งเวลาประมาณ 06.30 น. วันนี้ ขณะพี่ชายของนายชื่นใจ๋ได้ออกไปทำงานตามปกติ ก็พบร่างของนายชื่นใจ๋แขวนคอติดกับขื่อคอกเลี้ยงวัวภายในหมู่บ้าน ซึ่งห่างจากบ้านของตัวเองไม่ไกลนัก โดยผู้ตายสวมใส่เสื้อแขนสั้นสีม่วง กางเกงขาสั้นสีขาว คาดว่าเพิ่งเสียชีวิตได้ไม่นานนัก จึงได้แจ้งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ภูกามยาว พร้อมแจ้งญาติร่วมกันไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ
จากการสอบถามเบื้องต้นทราบว่าหลังเกิดเหตุจี้ชิงเงินที่ อ.เชียงแสน นายสิทธิโชคและนายชื่นใจ๋ได้แบ่งเงินกันคนละครึ่ง ได้ทิ้งเสื้อผ้าและหมวกกันน็อกแล้วแยกย้ายกันหลบหนี กระทั่งนายสิทธิโชคถูกจับกุมและสารภาพผิดเนื่องจากจำนนโดยหลักฐานทั้งปืน เสื้อผ้าที่นำไปซ่อนที่บ้านเพื่อน เงินสดซึ่งพบในบ้าน รถยนต์ที่ไถ่ถอนคืน ฯลฯ และรับว่าร่วมกับนายชื่นใจ๋ก่อเหตุดังกล่าว
ตำรวจชุดสืบสวน ภ.เชียงราย-สภ.เชียงแสน และ ภ.5 ได้จัดกำลังติดตามหาตัวนายชื่นใจ๋ที่ อ.ภูกามยาว แต่ไม่พบตัวที่บ้าน กระทั่งพบว่านายชื่นใจ๋ได้เสียชีวิตแล้วดังกล่าว จึงสันนิษฐานว่าเครียดจากการลงมือก่อเหตุและหาทางออกไม่ได้ เจ้าหน้าที่จึงนำศพส่งชันสูตรพลิกศพตามขั้นตอนและมอบศพให้ญาตินำไปจัดการตามประเพณี พร้อมกับเร่งแกะรอยหาเส้นทางเงินที่ทั้งคู่นำไปใช้ ซึ่งกรณีของนายสิทธิโชคได้ตรวจยึดเงินคืนมาได้แล้วบางส่วน
