เชียงราย - ออกหมายจับล่าพี่เขยแสบคนพะเยาแล้ว ร่วมน้องเมียเคาะกระจก-ชัก 9 มม.จ่อ ชิงเงินล้านสหกรณ์เชียงแสนล้างหนี้การพนัน
ความคืบหน้าคดีคนร้าย 2 คนก่อเหตุเคาะกระจก-ชักปืนขู่ชิงเงินที่เจ้าหน้าที่สหกรณ์การเกษตรเชียงแสน จำกัด เพิ่งเบิกออกมาหน้าธนาคารกรุงเทพ สาขาเชียงแสน จ.เชียงราย จำนวน 1,050,000 บาท ช่วงสายวันที่ 18 พ.ค.ที่ผ่านมา และเจ้าหน้าที่ได้จับกุมนายสิทธิโชค เมืองมา อายุ 33 ปี อยู่บ้านเลขที่ 91 หมู่ 8 ต.ศรีดอนมูล อ.เขียงแสน อดีตเจ้าหน้าที่สหกรณ์ฯ ซึ่งสารภาพหลังถูกเค้นสอบทั้งคืนว่าร่วมกับพี่เขยก่อเหตุเพื่อนำเงินไปใช้หนี้พนันดังกล่าวมาดำเนินคดีข้อหา "ร่วมกันชิงทรัพย์โดยมีอาวุธ โดยใช้ยานพาหนะ เพื่อกระทำความผิด เพื่อการพาทรัพย์นั้นไปหรือเพื่อให้พ้นจากการจับกุม ร่วมกันมีอาวุธปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต และพาอาวุธปืนไปในเมือง หมู่บ้านหรือทางสาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาต" ไปแล้วนั้น
ล่าสุดเจ้าหน้าที่สืบสวนสอบสวนขยายผลแล้วได้ขอศาลฯ อนุมัติออกหมายจับที่ 119/2563 เพื่อติดตามจับกุมนายชื่นใจ๋ ก้อนคำ อายุ 47 ปี บ้านเลขที่ 49 หมู่ 12 ต.ห้วยแก้ว อ.ภูกามยาว จ.พะเยา พี่เขยของนายสิทธิโชค ซึ่งในชั้นสอบสวนถูกระบุว่าเป็นคนขับขี่รถจักรยานยนต์พานายสิทธิโชคไปก่อเหตุ และหลังชิงเงินสดมาได้แล้วได้เป็นผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์พากันหลบหนีไปก่อนจะแบ่งเงินสดที่จี้ชิงมาได้คนละครึ่ง
ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ทราบว่าหลังก่อเหตุนายชื่นใจ๋เป็นคนขี่รถจักรยานยนต์พาผู้ต้องหา (นายสิทธิโชค) หลบหนีและได้ไปแบ่งเงินที่ชิงมาได้คนละครึ่งบริเวณป่าช้าเชียงแสน ห่างจากจุดเกิดเหตไม่มากนักก่อนแยกย้ายกันหลบหนี ซึ่งเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนทั้ง สภ.เชียงแสน, กก.สส.ภ.จว.เชียงราย และ ภ.5 ได้ออกแกะรอยไปยังสถานที่ต้องสงสัยหลายจุด รวมทั้งนำกำลังไปตรวจสอบที่บ้านพักของนายชื่นใจ๋ที่ จ.พะเยา ด้วย
โดยนายสิทธิโชคขับขี่รถจักรยานยนต์หลบหนีไปทาง ต.ป่าสัก อ.เชียงแสน แล้วเอาปืนที่ห่อด้วยเสื้อยืดสีดำไปฝากไว้ที่บ้านเพื่อน ก่อนนำเงินสดไปไถ่คืนรถยนต์เก๋งของตนที่ติดจำนำไว้ที่ อ.แม่สาย และใช้หนี้การพนัน เหลือเงินติดตัวจำนวนหนึ่ง กระทั่งเจ้าหน้าที่ตำรวจสืบทราบและจับกุมตัวได้
พ.ต.อ.ศตศักดิ์ พิมลทิพย์ ผกก.สภ.เชียงแสน ระบุว่า ผู้ต้องหาเป็นอดีตเจ้าหน้าที่ของสหกรณ์ฯ แต่ได้ถูกให้ออกจากงานเพราะขาดงานเป็นประจำ จึงรู้เส้นทางการเงินของสหกรณ์เป็นอย่างดี และตอนแรกดื้อดึงมาก ไม่ยอมรับสารภาพ กระทั่งเจ้าหน้าที่สืบสวนจนพบช่วงเวลาที่ผู้ต้องหานำปืนไปฝากเพื่อน ซึ่งถือว่าเวลาสอดคล้องกับเวลาเกิดเหตุจึงได้สอบปากคำจนสารภาพ
สำหรับสาเหตุของการก่อเหตุนั้น จากกการสอบสวนทราบว่าเกิดจากเรื่องการเงินส่วนตัว คือติดการพนันทำให้เป็นหนี้สิน รวมทั้งจะนำไปไถ่ถอนรถยนต์ที่นำไปจำนำเอาไว้ด้วย ซึ่งเมื่อนำไปใช้หนี้สินต่างๆ แล้ว ผู้ต้องหาเหลือเงินติดตัวประมาณ 150,000 บาท ขณะที่คนที่หลบหนีนั้น เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างติดตามจับกุมซึ่งก็คาดหวังว่าจะได้ตัวมาดำเนินคดีในเร็วๆ นี้