ศูนย์ข่าวเชียงใหม่ - “วอชด็อก” โพสต์ประมวลผลชี้ชัด “เตี้ย มช.” ถูกฆ่าตายอย่างทรมาน ระบุโดนปลิดชีพย่ำยีซ้ำช่วง 10 นาทีที่หายจากกล้องวงจรปิดก่อนโยนทิ้งข้างทาง ชี้อำมหิตเกินมนุษย์ ประกาศลั่นต้องเอาคนชั่วเข้าคุกให้ได้
วันนี้ (20 พ.ค. 63) เพจเฟซบุ๊ก “มูลนิธิวอชด็อก ไทยแลนด์ Watchdog Thailand – WDT” โพสต์ภาพพร้อมแจ้งความคืบหน้ากรณีการตายของ “เตี้ย มช.” โดยระบุว่า #WDTเขียนโพสต์นี้ด้วยน้ำตาหลังประมวลผลแน่ชัดว่าเตี้ยถูกฆ่าให้ตายทรมาน #ด้วยวิธีการที่โหดเหี้ยมอำมหิตเพียงใด! WDT เขียนโพสต์นี้ด้วยน้ำตา…เปิด…สิบนาทีเงาตะคุ่มจากกล้องวงจรปิดที่เตี้ยต้องเจ็บปวดทุกข์ทรมาน ก่อนทิ้งร่างไร้ลมหายใจให้นอนเดียวดายกลางป่าเหนือในคืนวันอันมืดมิด
พี่เตี้ยเอย… ผลการสืบสวนจากกล้องวงจรปิดชี้ชัด สิบนาทีที่พี่หายไปจากกล้องหน้าปากซอยข้างมหาวิทยาลัยราชมงคลล้านนา คือสิบนาทีของชีวิตที่หายไปบนความทรมานแสนสาหัสกว่าจะสิ้นลมหายใจของพี่ เงาตะคุ่มในกล้องวงจรปิดที่มีบุคคลเวียนวนอยู่ที่เดิมเป็นเวลาสิบนาที คาดพี่เตี้ยต้องถูกถีบลงรถอย่างไม่รู้เนื้อรู้ตัวเมื่อถึงจุดเป้าหมายที่เตรียมการณ์ไว้แล้ว หลังหลงไว้ใจขึ้นรถมากับเขาเพราะนึกว่าเขาจะพาไปเที่ยว
ยังไม่ทันจะรู้ตัวว่า เขาเอาพี่มาอยู่แห่งหนไหนกลางถนนในป่าอันมืดมิด พี่ก็ถูกทุบหัวจนกะโหลกแตกเพื่อหยุดการเคลื่อนไหวของพี่ให้ได้ ก่อนจะย่ำยีร่างไร้สติของพี่ด้วยการขี่รถเข้าเหยียบซ้ำ แข้งขาของพี่จึงถลอกปอกเปิก กระเพาะปัสสาวะฉีกขาดเพราะแรงกระแทกและแรงกดเหยียบอย่างรุนแรง แม้เมื่อพี่แน่นิ่งไปแล้ว…เขาก็ลากพี่ไปทิ้งข้างถนนในป่า แล้วก็มีเสียงปืนดังขึ้นถึงสี่นัดเพียงเพื่อให้แน่ใจว่าตายสนิทแล้วจริงๆ
ยังไม่พอ…พรรคพวกที่มารอดูผลงานคงบอกกันว่าเอาให้แน่ใจ กระสุนที่เหลืออีกสองนัดในรังเพลิงจึงดังขึ้นซ้ำอีกครั้งในเวลาห่างกันไม่กี่นาที…แล้วเขาก็พากันขี่รถจากไป ทิ้งซากร่างของพี่ให้นอนเดียวดาย มีเพียงแสงจันทร์ริบหรี่กลางฤดูร้อนเท่านั้น ที่เป็นเพื่อนปลอบประโลมและเป็นพยาน! นี่คือบทสรุปสิบนาทีแห่งความทุกข์ทรมานของเตี้ยจากการประมวลผลของทีมงาน WDT เท่านั้น โดยเทียบเคียงจากสภาพศพของพี่และผลชันสูตร
เป็นสิบนาทีจากกล้องวงจรปิดที่ไม่มีใครรู้เห็นว่าพี่ถูกสังหารด้วยวิธีการอย่างไร นอกจากฆาตกรและพวกจะรับสารภาพ ซึ่งก็อาจไม่มีวันนั้น เป็นสิบนาทีที่สอดคล้องต้องกันกับเสียงปืนสี่นัดที่ชาวบ้านได้ยินโดยได้รับการยืนยันซ้ำ จนจุกในหัวอกว่ายังมีเสียงปืนดังขึ้นอีกสองนัด และไม่ได้ยินเสียงหมาร้องแม้แต่แอะเดียว ก่อนที่มอเตอร์ไซค์สองคันนั้นจะขับขี่ตามกันจากไป
#ก็หมาที่ไหนจะยืนนิ่งให้รถพุ่งเข้าเหยียบถ้าไม่ถูกทำให้หมดสติหรือเคลื่อนไหวไม่ได้เสียก่อน
#หรือต่อให้พี่ยืนนิ่งก็เพราะความไร้เดียงสาและไว้ใจในมนุษย์
#ก่อนที่พี่จะรู้ตัวก็ถูกรถพุ่งเข้าเหยียบแล้วตีซ้ำหรือเหยียบซ้ำจนกะโหลกของพี่แตก
#และเพราะพี่สิ้นใจไปแล้วถ้าถูกยิงซ้ำจริงถึงหกนัด
#ก็เพียงเพราะจะให้มั่นใจว่าพี่ตายสนิทไม่มีวันที่จะลุกขึ้นมาอ้อนขอขึ้นรถหรือวิ่งขึ้นดอยอีกต่อไป
ความเป็นไปได้มันก็มีเท่านี้แหละ ไม่มีทางที่จะเป็นอย่างอื่นตามคำให้การโง่ๆ และไร้ตรรกะของผู้ต้องหา ที่คิดว่าจะมีอำนาจอิทธิพลใดมาคุ้มครองปกปิดความชั่วช้าได้
20 พฤษภาคม 2563 WDT เข้าให้ปากคำในฐานะผู้กล่าวหา ตชด.ระดับนายสิบ กระทำการทารุณกรรมอย่างโหดเหี้ยมอำมหิตต่อพี่เตี้ย มช. พร้อมพยานบุคคลร่วมยืนยันอย่างเป็นทางการหลายปากที่ได้ยินเสียงปืน และได้รับรู้เรื่องราวที่สุดแสนอำมหิตและลึกลับซับซ้อน กว่าที่ WDT จะขุดคุ้ยเรื่องราวมาได้ บนความเหนื่อยยากและความเสียใจอย่างสุดซึ้ง เมื่อได้สำนึกตระหนักแน่ว่าพี่ต้องถูกกระทำย่ำยีอย่างโหดเหี้ยมแค่ไหนกว่าจะสิ้นใจ
#บนความไว้ใจมนุษย์อย่างที่สุดมาตลอดชีวิตที่มีแต่หัวใจบริสุทธิ์และใสซื่อของพี่
#มันเป็นการกระทำที่โหดเหี้ยมอำมหิต
#ชนิดที่กลุ่มคนทำต้องการให้แน่ใจอย่างที่สุดว่าเตี้ย…#ตายแล้วจริงๆ
ติดตามผลพิสูจน์คราบเลือดในกองใบไม้ ในสถานที่ซึ่งเป็นที่ทอดร่างของเตี้ย
ติดตามผลการตรวจหากระสุนปืนของเจ้าหน้าที่ตำรวจพิสูจน์หลักฐานในบริเวณที่คาดว่าพี่จะถูกฆ่าอย่างโหดเหี้ยม หลังการตรวจกล้องวงจรปิดเพิ่มและการยืนยันหนักแน่นของพยานที่ได้ยินเสียงปืนดังถึงสี่นัด และอีกสองนัดต่อมาในเวลาใกล้เคียงกัน
ติดตามผลการสอบสวนทีมสัตวแพทย์ผู้ทำหน้าที่ชันสูตรร่างของพี่ แล้วบอกได้เพียงว่า …"พบแผลถลอกของผิวหนังบริเวณหลัง ปลายขาหลัง และส่วนโคนของหาง ชั้นใต้ผิวหนังบริเวณดังกล่าว #พบการคั่งเลือดและการบวมน้ำ
#บริเวณต้นคอมีแผลหลุมขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 0.5 ซม.#ลึกประมาณ 1 เซนติเมตร
#จำนวน 4 แผล
#แต่ยืนยันไม่ได้ว่าเป็นรอยกระสุนปืนหรือไม่เพราะไม่พบลูกกระสุน
WDT มั่นใจมากที่จะลากคอคนชั่วคนเดียวคนนี้เข้าคุก และขอสัญญาว่าจะทำหน้าที่ต่ออย่างเข้มแข็งเพื่อเป้าหมายสุดท้ายที่สำคัญที่สุด คือลากคอผู้ร่วมขบวนการฆ่าและผู้บงการออกมาให้ได้! หลับให้สบายและมีความสุข อย่ากังวลใดๆ เลยนะพี่ รออีกแป๊บนะ อีกนิดเดียว…”
