xs
xsm
sm
md
lg

เข็ดแล้ว! กลุ่มคนหลงป่าทุ่งแสลงหลวง 6 วัน 6 คืนย่างอึ่งกินประทังชีวิต ผวาไม่กล้าเข้าป่าอีก

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



พิษณุโลก - 4 คนหลงป่าทุ่งแสลงหลวงเผยถือเป็นประสบการณ์ ใช้ชีวิตอยู่ในป่า 6 คืนกินอึ่งย่างเป็นอาหาร เด็กวัย 13 ระบุคิดถึงแม่ตั้งแต่คืนแรก ช่วยกันเดินหาทางออกจากป่าอาศัยเดินตามรอยช้างแต่ยิ่งเดินยิ่งลึกเข้าเขตอุทยานแห่งชาติทุ่งแสลงหลวง เผยเข็ดจนตายไม่กล้าเข้าป่าอีกแล้ว


วันนี้ (19 พ.ค. 63) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากเฮลิคอปเตอร์ ฮท.212 และ ฮท.72 รับตัวชาวบ้าน ม.11 บ้านป่ามะกรูด ต.วังนกแอ่น อ.วังทอง คือ นางแดง ชัยชนะ อายุ 43 ปี คนนำทางซึ่งเคยเข้าป่าไปเก็บเห็ดเผาะและลูกตะคล้อ, นายวิโรจน์ ชัยชนะ อายุ 45 ปี, นางทองรัตน์ กัญยาประสิทธิ์ อายุ 45 ปี และ ด.ช.ปัญญา น้อยอินทร์ อายุ 13 ปี พร้อมสุนัขอีก 3 ตัว บริเวณกลางป่าทุ่งแสลงหลวง ห่างจากหมู่บ้านป่ามะกรูดประมาณ 10 กม. โดยทั้งหมดหลงเข้าไปในป่าตั้งแต่บ่ายวันที่ 12 พ.ค จนเจ้าหน้าที่ใช้เฮลิคอปเตอร์ค้นหาจนพบเมื่อช่วงบ่ายวันที่ 17 พ.ค. 63 และรับตัวเช้าวันที่ 18 พ.ค. 63 ที่ผ่านมา

นายวิโรจน์ ชัยชนะ อายุ 45 ปี หนึ่งในผู้หลงป่าทุ่งแสลงหลวง เล่าว่า ตนเพิ่งเข้าป่าไปหาเห็ดครั้งแรก ก็ตามไปกับคนรู้เส้นทางไปหาเห็ดเผาะ หรือเห็ดถอบ ออกจากบ้านป่ามะกรูด 9 โมงเช้าถึงสันเขาก็ประมาณเที่ยงวัน หาเห็ดและลูกตะคล้อได้พอสมควรก็พากันกลับ แต่มารู้ว่ามาผิดทางหรือหลงป่าก็ราว 5 โมงเย็น เพราะทุกครั้งเดินขึ้นอีกเนินแล้วก็ลง แต่คราวนี้เดินขึ้นเนินกลับไม่ได้ลงเหมือนทุกครั้ง


“คืนแรกกินข้าวที่เตรียมมา รุ่งขึ้นอีกวันก็ต้องหาผลไม้กิน โดยใช้มีดที่เหน็บเตรียมมาตัดกระท้อนป่า มะไฟ หัวปลี ฯลฯ มาประทังชีวิต ปกติตนสูบยาเส้นอยู่ ทำให้มีไฟแช็กจุดไฟตอนกลางคืนนอนเรียงกันทั้ง 4 คน ได้ยินเสียงสัตว์ร้องเต็มไปหมด แต่สัตว์ก็ไม่เข้าใกล้ เจอทั้งลมทั้งฝน แต่ก็พอมีต้นไม้ใหญ่หลบฝนได้”

ผู้สื่อข่าวถามต่อไปว่า ชุดค้นหาทั้งร่มบิน และเฮลิคอปเตอร์บินบนท้องฟ้าทำไมหาไม่เจอ นายวิโรจน์บอกไม่ได้ยิน เพราะทราบต่อมาว่าอยู่กันคนละฝั่ง ตอนนั้นพวกตนเดินวนไปวนมาเพราะหลง ต้องนอนป่า 6 คืน กลางวันก็ไม่รู้ว่าจะทำอย่างไรก็เดินตามรอยเท้าช้างไปเรื่อยๆ ส่วนเรื่องน้ำดื่มนั้นทุกคนมีขวดพลาสติกใหญ่พกมา จึงตักน้ำในลำห้วยมาอุ่นไฟเพื่อให้ตกตะกอนก่อนกิน


นายวิโรจน์ยังเล่าถึงความพยายามหาทางออกจากป่าอีกว่า จะเดินไปตามทางไหลของน้ำก็ไม่ได้เพราะน้ำในลำห้วยน้อยมาก นิ่งจนไม่รู้ว่าน้ำไหลลงไปข้างล่าง จะดูพระอาทิตย์ขึ้นในป่าดิบก็ไม่รู้ว่าจะไปทางไหนต่อ โทรศัพท์ที่พกไปเป็นโทรศัพท์รุ่นฮีโร่ เหลือแบตฯ เพียงขีดเดียว โทร.ตอนบ่ายวันที่เริ่มหลงป่าได้เพียงครั้งเดียวเท่านั้นแบต.ก็หมด “เข็ดจนตายไม่เข้าป่าอีกแล้ว” นายวิโรจน์กล่าว

ด้าน ด.ช.ปัญญา น้อยอินทร์ อายุ 13 ปี เล่าเพิ่มเติมว่า ช่วงที่ติดอยู่ในป่าก็กินมะไฟ ผัก อึ่งปิ้ง เป็นอาหาร คืนแรกก็นอนกับดิน ตอนนั้นคิดถึงแม่มากที่สุด วันรุ่งขึ้นก็เดินหาทางกลับบ้านกัน แต่เดินอย่างไรก็ไปไม่ถูก ก็เดินกับน้าไปเรื่อยๆ แต่ก็พอมีน้ำดื่ม อาศัยตักจากลำธาร


อนึ่ง การหลงป่าครั้งนี้ของทั้ง 4 คน เริ่มต้นบ่ายวันที่ 12 พฤษภาคม 2563 ซึ่งชาวบ้านทราบข่าวและข่าวเริ่มแพร่สะพัด กระทั่งวันที่ 14 พ.ค. 63 นายบุญเหลือ บารมี นายอำเภอวังทอง ได้รับแจ้งว่ามีคนขึ้นไปหาของป่าบนเทือกเขาลำพาดหรือชาวบ้านเรียกว่าเขาจอมปลวก หมู่ที่ 11 ตำบลวังนกแอ่น อำเภอวังทอง จังหวัดพิษณุโลก จึงเดินทางไปยังที่เกิดเหตุ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติทุ่งแสลงหลวง เจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยมูลนิธิประสาทบุญสถาน และชาวบ้านร่วมกันวางแผนจัดกำลังส่งคณะค้นหา ซึ่งเป็นทีมค้นหาตลอดช่วงเช้าและกลับช่วงเย็นติดต่อกันถึงวันที่ 15 พ.ค.

วันที่ 16 พ.ค. 63 นายบุญเหลือ บารมี นายอำเภอวังทอง จัดชุดค้นหา 10 ชุด ชุดละ 14-15 นาย ร่วมกับ กองพลพัฒนาที่ 3 ซึ่งจัดกำลังพล 30 นาย กรมรบพิเศษที่ 4 จัดกำลังพล 2 ชุด ชุดละ 6 นาย ในพื้นที่ 10 ตารางกิโลเมตร มอบภารกิจให้ใช้อากาศยานบินประชาสัมพันธ์ผ่านลำโพงกระจายเสียงให้ผู้หลงป่า แต่ก็ยังไม่พบ


กระทั่ง 15.30 น. 17 พ.ค. 2563 ได้รับข่าวดีเมื่อนำ ฮ.บินออกนอกจุดเป้าหมาย พร้อมกับได้พูดผ่านลำโพงลงไปในป่าทึบว่า ถ้าเป็นผู้หลงป่าขอให้ถอดเสื้อแสดงสัญลักษณ์ กระทั่ง ด.ช.ปัญญาเป็นผู้ถอดเสื้อ พร้อมโบกเป็นสัญญาณ หลังจากนั้น เช้า 18 พ.ค.ได้นำตัวทั้ง 4 คน พร้อมสุนัข 3 ตัวออกจากป่าได้สำเร็จ
กำลังโหลดความคิดเห็น