กาฬสินธุ์ - ผู้เลี้ยงกุ้งก้ามกรามกาฬสินธุ์เร่งจับกุ้งขายหน้าบ้าน เหตุหวั่นน็อกจากปัจจัยลบรอบด้าน ทั้งอากาศร้อนจัด แห้งแล้ง ขณะที่เขื่อนลำปาวหยุดส่งน้ำ ซ่อมคูคลอง ไม่มีน้ำเปลี่ยนในบ่อกุ้ง ขณะตลาดระบายกุ้งยังสะดุดจากพิษโควิด-19
วันนี้ (14 พ.ค. 63) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สภาพอากาศที่จังหวัดกาฬสินธุ์ยังร้อนจัดและแห้งแล้งเนื่องจากฝนทิ้งช่วง พืชเสียหายเป็นบริเวณกว้าง ขณะที่ผู้เลี้ยงกุ้งก้ามกรามได้เร่งจับกุ้งจำหน่าย นำมาวางขายหน้าบ้านในหมู่บ้าน และตามจุดต่างๆ เพื่อลดความแออัดในบ่อป้องกันปัญหากุ้งน็อกตาย เพราะกุ้งได้อายุจับจำหน่าย แต่ตลาดยังฝืดเคืองจากการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 นอกจากนี้ยังไม่มีน้ำสำหรับเปลี่ยนถ่ายเนื่องจากอยู่ในช่วงปิดการส่งน้ำเพื่อซ่อมแซมคูคลองของโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาลำปาว
นายประวิทย์ ภูนาชัย ชาวนากุ้ง หมู่ 4 ต.บัวบาน อ.ยางตลาด จ.กาฬสินธุ์ กล่าวว่า ชาวนากุ้งยังได้รับผลกระทบจากไวรัสโควิด-19 ไม่มีพ่อค้ากุ้งมารับซื้อกุ้ง กุ้งจึงเหลือตกค้างแออัดในบ่อจำนวนมาก ประกอบกับอากาศที่ร้อนจัดและแห้งแล้ง ทั้งเขื่อนลำปาวหยุดส่งน้ำ จึงไม่มีน้ำเปลี่ยนถ่าย เป็นสาเหตุทำให้กุ้งเสี่ยงเกิดน็อกตาย จึงจับกุ้งขึ้นมาวางขายหน้าบ้านเพื่อลดความหนาแน่น และป้องกันกุ้งน็อกตายยกบ่อ
ด้านนายฤาชัย จำปานิล ผู้อำนวยการโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาลำปาว กล่าวว่า ปัจจุบันปริมาณน้ำในเขื่อนลำปาวมีประมาณ 680 ล้านลูกบาศก์เมตร จากความจุอ่าง 1,980 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือคิดเป็น 34% ทั้งนี้ ได้ระบายเพื่อหล่อเลี้ยงระบบนิเวศวันละ 3-4 แสนลูกบาศก์เมตร ยืนยันปริมาณน้ำมีเพียงพอสำหรับให้เกษตรกรทำการเพาะปลูกข้าวนาปี และเพื่อการอุปโภคบริโภค
จากเดิมมีแผนที่จะปิดการส่งน้ำเป็นระยะเวลา 2 เดือน แต่เนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 ยังส่งผลกระทบต่อกลุ่มอาชีพผู้เลี้ยงกุ้งก้ามกราม ทำให้บรรยากาศการจำหน่ายกุ้งยังไม่คล่องตัว กุ้งจึงเหลือในบ่อจำนวนมาก ทางโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาลำปาวจึงลดเวลาปิดน้ำเหลือเพียง 1 เดือน ขณะนี้กำลังเร่งซ่อมแซมคูคลองเพื่อให้แล้วเสร็จตามกำหนด ให้สามารถส่งน้ำได้ในต้นเดือนมิถุนายน และส่งน้ำเต็มระบบในเดือนกรกฎาคมที่จะถึงแน่นอน