พระนครศรีอยุธยา - แม่ค้ากุ้งตลาดกลางฯ พระนครศรีอยุธยา วอนประชาชนเสพข่าวโซเชียลอย่างรอบคอบ หลังข่าวแม่ค้าใช้ดินน้ำมันอุดก้นตะกร้าโกงตราชั่งแพร่สะพัด ทั้งที่ไม่เป็นความจริง ด้านผู้ว่าฯ อยุธยา เผยเหตุการณ์ภาพที่เกิดขึ้นเป็นการตรวจตั้งแต่เดือนเมษายน ไม่พบการกระทำความผิด ฝากนักท่องเที่ยวสบายใจได้ และมีการสุ่มตรวจอย่างต่อเนื่อง
จากกรณีโชเชียลมีมีการแชร์ภาพและข้อความว่า #เสียชื่อหมด (กุ้ง) (กุ้ง) กุ้งเผาอยุธยา งานเข้า โกงลูกค้ามานาน เอาดินน้ำมันขดไว้ที่ก้นตะกร้าเพิ่มน้ำหนัก โดนจับเกือบทุกร้าน จนกลายเป็นกระแสวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก รวมถึงสร้างผลกระทบกับพ่อแม่ค้า
วันนี้ (12 พ.ค.) ผู้สื่อข่าวเดินทางไปยังตลาดกลางเพื่อการเกษตร ริมถนนคู่ขนาน ถนนสายเอเชีย ช่วงพื้นที่ ตำบลหันตรา อำเภอพระนครศรีอยุธยา จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ซึ่งตลาดแห่งนี้เป็นแหล่งขึ้นขื่อ มีนักท่องเที่ยวให้ความสนใจเดินทางมารับประทานอาหาร ของทะเลต่างๆ มากมาย โดยเฉพาะกุ้งเผา คนที่อยากรับประทานกุ้งจะต้องเดินทางมาที่แห่งนี้ พบว่าหลายร้านมีการใช้ตะกร้าแบบมีรูทั้งใบ การชั่งมีการทอนตะกร้าตามระเบียบเรียบร้อย
วันนี้ร้านต่างๆ ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์เชื้อไวรัสโควิด-19 ระบาด ทำให้ยอดขายลดลงไปมาก และยังต้องมาได้รับผลกระทบกับกระแสวิพากษ์วิจารณ์จากโซเซียลที่มีการโพสต์ข้อความดังกล่าว ทำให้หลายร้านที่มีรูปภาพเผยแพร่ออกไปต้องรับผลกระทบถูกตกเป็นผู้ต้องหาของสังคม เช่น ที่ร้าน ป.เป้ากุ้งเผา 1 ในหลายร้านมีรูปภาพทางโซเซียล ผู้สื่อข่าวได้พบกับ น.ส.บุญสร้าง รักรัง และน.ส.จอย ยาดี เจ้าของร้าน กล่าวว่า ได้รับผลกระทบอย่างหนัก ภาพลักษณ์เสียหาย เสียความรู้สึก ยอดขายตก เครียดมากกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ซึ่งกำลังจะเดินเรื่องขอความช่วยเหลือจากทางราชการ เสียใจ เสียความรู้สึก อยากฝากถึงทุกคนที่รู้ไม่จริง อย่าทำออกไป เข้ามาสอบถามกันก่อน ไม่ใช่ต่างคนต่างพูด แต่คนที่เสียหายคือทางร้าน ไหนจะลูกน้อง ไหนจะค่าเช่า ค่าน้ำ ค่าไฟ เหมือนมีแต่คนมาด่า และตบหัวเรา ทั้งที่เราไม่ได้เป็นคนสร้าง
จากสถานการณ์โควิด-19 ร้านก็ได้รับผลกระทบอยู่แล้ว มาเจอแบบนี้อีกกลายเป็นเรื่องใหญ่โตมากเลย อยากฝากคนดู ขอให้พิจารณาหน่อยว่า ร้านไหนทำ ร้านไหนไม่ทำ เพราะว่าที่ร้านไม่ได้เป็นอย่างที่กล่าวอ้าง ทางเจ้าหน้าที่ของจังหวัดมาตรวจสอบความเป็นจริงไปแล้วไม่พบการกระทำผิด คนที่เอาภาพไปแอบอ้างไปโยงกันเลยทำให้เสียชื่อทางร้าน ทำให้ลูกค้าไม่มี เหตุการณ์ในภาพที่มีการแชร์กันคือ ทางจังหวัดมาตรวจตราชั่งกับตะกร้า เขาบอกว่ามีคนไปร้องเรียน ทางราชการเขาก็มาตรวจตลาดกลาง ตามหน้าที่ แต่ว่าทุกร้านไม่มี เป็นบางร้านอย่ามาว่าร้านใดร้านหนึ่ง แต่ที่ร้านโดนคือรูปที่ร้านออกไป ทุกคนก็เพ่งเล็งมาเป็นที่ร้าน อยากวอนให้ลูกค้า หรือประชาชนที่ดูอยู่ ให้เข้าใจตรงนี้ด้วยว่าร้านไหนทำไม่ทำ หรือถ้าร้านไหนทำขอให้คนที่ซื้อพบให้โวยวายที่ร้านได้เลย ระบุเป็นร้านๆ จะได้ไม่พาดพิงไปร้านอื่น ร้านอื่นพาเดือดร้อน จะได้จับร้านที่ผิดในขณะนั้นไปเลย
ผู้สื่อข่าวเดินทางไปสอบถาม นายภานุ แย้มศรี ผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้นทางโซเชียล ว่า เรื่องราวดังกล่าวมีมาตั้งแต่กลางเดือนเมษายนที่ผ่านมา ว่ามีคนมาซื้อกุ้งที่ตลาดกลาง กุ้ง ของพระนครศรีอยุธยา ซึ่งอยู่ในการดูแลขอองค์การบริหารส่วนจังหวัดพระนครศรีอยุธยา วันที่ 21 เม.ย. ตนองได้สั่งการให้ศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดบูรณาการหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ประกอบด้วย พาณิชย์จังหวัด อำเภอพระนครศรีอยุธยา องค์การบริหารส่วนจังหวัด ตำรวจภูธรจังหวัดพระนครศรีอยุธยา กอ.รมน. อย. และสำนักงานกลางชั่งตวงวัด ลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีมีสื่อสังคมออนไลน์ร้องเรียน
ผลการตรวจสอบ คือไม่พบว่ามีการเอาดินน้ำมันมาอุดในตะกร้าที่ชั่งกุ้ง แม้แต่ร้านเดียว แต่เราพบสิ่งที่อาจจะสร้างความไม่มั่นใจ อย่างน้อย 2 เรื่อง คือ ตราชั่ง ซึ่งพบว่าหมดสภาพแล้ว อันนี้สำนักชั่งตวงวัด ได้ยึดไป 3 เครื่อง และพบว่าตะกร้าที่ใช้ชั่งน้ำหนักกุ้งประมาณ 50 กว่าใบ ที่เป็นตะกร้าไม่มีการเจาะรูด้านล่าง อาจจะมีน้ำขังทำให้ผู้ซื้อไม่สบายใจในเรื่องน้ำหนักกุ้ง ได้ตรวจยึดมาทั้งหมด แต่ว่าไม่พบการกระทำผิด ตามที่มีข้อร้องเรียน
เพราะฉะนั้นสิ่งเหล่านี้ได้ฝากให้ศูนย์ดำรงธรรม และทางอำเภอพระนครศรีอยุธยา องค์การบริหารส่วนจังหวัด ต้องเร่งสร้างความมั่นใจ เพราะว่าตลาดกลางเป็นแหล่งขายกุ้ง ของจังหวัดพระนครศรีอยุธยา มีชื่อเสียงมาก ทางจังหวัดพระนครศรีอยุธยายินดีรับฟังขอร้องเรียนทุกเรื่อง และหากพบความไม่ปกติอย่างไรเราจะดำเนินการขั้นเด็ดขาดทุกกรณี จะกำชับผู้ประกอบการจะต้องเร่งสร้างความมั่นใจให้เกิดขึ้นโดยเร็ว ที่ไปตรวจล่าสุด ไม่พบการกระทำผิดใดๆ แต่จะมีการออกสุุมมตรวจเป็นระยะ
พร้อมฝากถึงประชาชน นักท่องเที่ยวที่เดินทางมาจังหวัดพระนครศรีอยุธยา อยากเชิญชวนทุกท่านให้มาอุดหนุนเหมือนเดิม ขณะนี้ตลาดกลางนั้น นอกจากมาตรการสร้างความมั่นใจ ว่าเราไม่มีการเอารัดเอาเปรียบผู้ซื้อแล้ว เรายังเสริมในมาตรการป้องกันโควิด-19 ตอนนี้มีการกำชับให้ตั้งเครื่องวัดอุณหภูมิ ให้มีระยะห่าง จุดที่จะทำไม่ให้ประชาชนมารวมกัน สิ่งเหล่านี้น่าจะทำให้ตลาดกลาง สร้างความมั่นใจให้แก่ผู้บริโภค ทั้งในเรื่องไม่เอารัดเอาเปรียบ และขณะเดียวกัน เป็นตลาดกลางมีส่วนสำคัญในการป้องกันการแพร่ระบาดให้ดียิ่งขึ้น