ศูนย์ข่าวขอนแก่น - ชาวบ้านพระยืน ร้องศูนย์ดำรงธรรม “ธนาคารบ้านโต้น” อ้างเป็นธนาคารหมู่บ้านตามแนวพระราชดำริ รับฝากเงินชาวบ้านในตำบลกว่า 800 บัญชี ไม่ยอมให้ถอนเงินหรือปิดบัญชี แต่กลับให้กู้แทน สงสัยมีปัญหาสถานะทางการเงิน วอนผู้ว่าฯ และสภาทนายความขอนแก่นช่วยเหลือด่วน
วันนี้ (8 พ.ค.) ที่ศาลากลางจังหวัดขอนแก่น ตัวแทนชาวบ้านบ้านโต้น ต.บ้านโต้น อ.พระยืน จ.ขอนแก่น จำนวนกว่า 40 คน นำโดย น.ส.กนกวรรณ จันดี เข้ายื่นร้องเรียนนายสมศักดิ์ จังตระกุล ผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น ผ่านศูนย์ดำรงธรรมจังหวัด และร้องเรียนต่อสภาทนายความจังหวัดขอนแก่น กรณีได้รับความเดือดร้อนจากการฝากเงินกับธนาคารหมู่บ้านโต้น ตามแนวพระราชดำริ ซึ่งเป็นธนาคารที่ผู้นำชุมชนตั้งขึ้นเพื่อระดมเงินออมจากชาวบ้านในตำบลมานานเกือบ 20 ปี
แต่มาในช่วงปัญหาแพร่ระบาดเชื้อไวรัสโควิด-19 ชาวบ้านเจ้าของบัญชีต้องการถอนเงินมาใช้จ่าย เพราะต่างก็ลำบากตกงาน ลูกหลานก็ขาดรายได้ แต่ทางประธานธนาคารกลับไม่ยอมให้เบิกหรือให้ถอนปิดบัญชี
นางบุญสาย สีจิวังษา ชาวบ้านบ้านโต้น กล่าวว่า ขณะนี้ชาวบ้านบ้านโต้น ที่ตกเป็นเหยื่อหลงเชื่อ นำเงินไปฝากกับธนาคารบ้านโต้นนานหลายปีกำลังเดือดร้อนหนัก เพราะในช่วง 3-4 เดือนที่ผ่านมา ได้ขอเบิกถอนเงินจากบัญชี กลับไม่ให้ถอนเงิน พนักงานธนาคารพยายามหว่านล้อมให้ทำเรื่องกู้เงินแทน โดยเสียดอกเบี้ยต่ำ แค่ร้อยละ 1 ต่อปีเท่านั้น ซึ่งเป็นเรื่องที่แปลกมาก ชาวบ้านมีเงินฝากแต่กลับไม่ยอมให้ถอนออกมา
เรื่องที่เกิดขึ้นไม่ใช่เฉพาะกับตนเท่านั้น แต่เพื่อนบ้านคนอื่นๆ ช่วงตั้งแต่เกิดการระบาดโควิด-19 ที่ชาวบ้านเดือดร้อน ต้องการเงินไปใช้ แต่ถอนเงินกันไม่ได้สักคน ทำให้ชาวบ้านหวั่นวิตกว่า จะถูกธนาคารโกงเงินหรือไม่ หรือสถานะทางการเงินธนาคารบ้านโต้น มั่นคงพอหรือไม่ กลัวว่าเงินต้นหรือเรือนหุ้นของพวกตนจะหายไปจากบัญชี
สาเหตุที่ชาวบ้าน ต.บ้านโต้น เลือกฝากเงินกับธนาคารบ้านโต้น นั้น เพราะเป็นธนาคารที่ตั้งอยู่ในหมู่บ้าน สะดวกต่อการฝากถอน โดยมีเงื่อนไขการเปิดบัญชีครั้งแรกนั้น ลูกค้าจะต้องลงหุ้นสมาชิกขั้นต่ำ 5,000 หุ้นๆ ละ 10 บาท เป็นเงิน 50,000 บาท ฝากตั้งต้นไว้ หลังจากนั้นจะฝากอีกเท่าไหร่ก็ได้ โดยธนาคารจะให้ผลตอบแทนเป็นดอกเบี้ยร้อยละ 6 ต่อปี ส่วนการกู้เงินคิดดอกเบี้ยต่ำแค่ร้อยละ 1 ต่อเดือนหรือ 12% ต่อปี
ที่สำคัญธนาคารแห่งนี้อ้างว่าเป็นธนาคารของในหลวง เป็นธนาคารหมู่บ้านตามแนวพระราชดำริ ซึ่งสามารถตรวจสอบดูได้ที่ข้อความหน้าปกบัญชี และข้อความปกในบัญชี เขียนไว้ชัดเจน ชาวบ้านจึงเชื่อมั่นว่า น่าจะเป็นที่พึ่งชาวบ้าน จึงเลือกฝากเงินกับธนาคารบ้านโต้น ปัจจุบันมีชาวบ้านเปิดบัญชีรวมแล้ว ไม่ต่ำกว่า 700-800 บัญชี บัญชีละอย่างต่ำ 50,000 บาท ลูกค้าส่วนใหญ่อยู่ใน ต.บ้านโต้น อ.พระยืน ธนาคารหมู่บ้านแห่งนี้ มีคณะกรรมการทั้งหมด 9 คน มีนายนิตย์ ก้อนคำ เป็นประธานธนาคาร มีนายสมพร สมตน เป็นผู้จัดการธนาคาร
ด้าน นายเกรียงศักดิ์ สืบจันดี หนึ่งในลูกค้าธนาคารบ้านโต้น บอกอีกว่าชาวบ้านได้รับผลกระทบจากไวรัสโควิด-19 แพร่ระบาดหนักในช่วง 3 เดือนมานี้ โรงงานอุตสาหกรรม กิจการร้านค้าต่างปิดกิจการกันไปหมดส่งผลกระทบต่อชาวบ้านไม่มีงานทำ จึงต้องการถอนเงินฝาก มาใช้เลี้ยงชีพ รักษาอาการเจ็บป่วย แต่ปรากฏว่าผู้จัดการธนาคารบ้านโต้น ไม่ยอมให้ชาวบ้านถอนเงิน หากอยากได้เงินใช้ก็ให้กู้อย่างเดียว ชาวบ้านจึงเดือดร้อนมาก
นายเกรียงศักดิ์ ระบุว่า จากการตรวจสอบงบกำไรขาดทุนธนาคารบ้านโต้น เมื่อสิ้นสุด 31 ตุลาคม 2562 พบว่า มีรายได้จากดอกเบี้ยรับระยะสั้น ดอกเบี้ยรับระยะยาว ดอกเบี้ยรับกรณีพิเศษ ค่าธรรมเนียมแรกเข้า ดอกเบี้ยรับเงินฝากธนาคารออมสิน รวมรายได้ 1,517,511.41 บาท ขณะที่รายจ่ายเป็นรายจ่ายดอกเบี้ยเงินกู้ ธ.ออมสิน ดอกเบี้ยเงินฝากออมทรัพย์ ดอกเบี้ยเงินฝากประจำ เงินเดือนพนักงาน ค่าน้ำ ค่าไฟฟ้า ค่าใช้จ่ายเบ็ดเตล็ด รวมค่าใช้จ่าย 660,665.94 ซึ่งรายได้สูงกว่ารายจ่าย 856,845.47 บาท
เป็นที่น่าสังเกตว่า รายจ่ายนั้นมีรายจ่ายดอกเบี้ยจ่ายเงินกู้นายสุพิษ ซึ่งเป็นญาติพี่น้องของนายนิตย์ ก้อนคำ ประธานธนาคาร สูงถึง 276,000 บาท ซึ่งไม่รู้ว่าธนาคารไปกู้เงินนายสุพิษ เมื่อไหร่ จำนวนเท่าใด ธนาคารปิดบังข้อมูลมาตลอด ที่สำคัญเคยมีพนักงานหญิงรายหนึ่งยักยอกเงินธนาคารออกไป เมื่อชาวบ้านสอบถามธนาคารก็ไม่ยอมบอกว่ายักยอกไปมากขนาดไหน และไม่มีการฟ้องร้องบังคับคดียึดทรัพย์พนักงานหญิงรายนั้น มาชดใช้คืนให้ธนาคารด้วย จึงเกรงว่าธนาคารจะมั่นคงหรือไม่
“ชาวบ้าน ต.บ้านโต้น มาร้องเรียนวันนี้ ไม่ต้องการค้าคดีความกับธนาคารบ้านโต้น แต่ต้องการถอนเงินที่มีอยู่ในบัญชีเงินฝากธนาคารบ้านโต้นเท่านั้น จึงมาร้องเรียนต่อศูนย์ดำรงธรรมขอนแก่น และสภาทนายความจังหวัดขอนแก่น ให้ช่วยติดตามคณะกรรมการธนาคารบ้านโต้น มาชี้แจงถึงเหตุผลไม่ให้ถอนเงิน รวมถึงสินทรัพย์ของธนาคาร และที่สำคัญต้องการถอนเงินในบัญชีทั้งหมดออกจากธนาคารบ้านโต้น” นายเกรียงศักดิ์ กล่าว
ด้าน นายสุรสิทธิ์ ทุมทา ประธานสภาทนายความจังหวัดขอนแก่น กล่าวว่า สภาทนายความได้รับเรื่องร้องเรียนของพี่น้องชาวบ้านบ้านโต้นไว้แล้ว หลังจากนี้จะตั้งคณะทำงานขึ้นมาตรวจสอบข้อเท็จจริง รวบรวมหลักฐานทั้งหมด หากพบว่ามีการฉ้อโกงประชาชนจริง สภาทนายความจังหวัด จะดำเนินช่วยเหลือในด้านคดีความให้แก่ชาวบ้านอย่างเต็มที่
นอกจากนี้ ตัวแทนจากศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดขอนแก่น ได้แจ้งกับชาวบ้าน ต.บ้านโต้น ว่าจะประสานนัดนายนิตย์ ก้อนคำ ประธานกรรมการธนาคารบ้านโต้น พร้อมด้วยคณะกรรมการธนาคาร อีกฝ่ายคือตัวแทนชาวบ้าน ต.บ้านโต้น กลุ่มลูกค้าผู้เดือดร้อน มาพบกัน พร้อมกับตอบข้อซักถามทั้งหมดที่ชาวบ้านสงสัย และดำเนินการเจรจาให้ธนาคารคืนเงินในบัญชี ทั้งเงินลงหุ้น และเงินฝากแก่ชาวบ้านช่วงสัปดาห์ถัดไป