xs
xsm
sm
md
lg

“เงินฝาก-สลาก ธอส.” ตัวเลือกยุคดอกเบี้ยต่ำ!

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์

ส่องช่องทางเงินออมยุคดอกเบี้ยต่ำ ธอส.ออกสลากพิมานมาศ หน่วยละ 5 หมื่นบาท รับดอกเบี้ย 1% หากมีโชครับผลตอบแทนสูง ด้านเงินฝากมีตัวเลือกอย่างกรุงไทยเบิร์ธเดย์ 7 เดือน ดอกเบี้ย 1.4% แต่ต้องเสียภาษี ส่วนออมทรัพย์ไร้ภาษี มีออมสิน 7 เดือนดอกเบี้ย 1.2% ธนชาตอัลตร้าเซฟวิ่ง 1.5% แต่ต้องวัดดวงหากแบงก์ลดดอกเบี้ยลง นักการเงินชี้สภาพดอกเบี้ยต่ำยังอีกนาน ผู้มีเงินออมต้องทำใจรับสภาพ


เมื่อวันวาเลนไทน์ 14 กุมภาพันธ์ 2563 ที่ผ่านมา ธนาคารอาคารสงเคราะห์ได้เริ่มเปิดจำหน่าย สลากออมทรัพย์ ธอส. รุ่นที่ 3 ชุดพิมานมาศ นับเป็นสลากรุ่นที่น่าจะทำให้ผู้คนส่วนใหญ่มีความสามารถพอที่จะเข้าถึงสลากของธนาคารอาคารสงเคราะห์ได้ ด้วยราคาต่อหน่วยที่ 50,000 บาท ขณะที่ชุดแรกขายคือชุดวิมานเมฆ หน่วยละ 1 ล้านบาท ชุดที่ 2 ชุดพราวพิมาน ขายหน่วยละ 10 ล้านบาท

วงเงินในการออกสลากชุดพิมานมาศอยู่ที่ 50,000 ล้านบาท จำหน่ายหน่วยละ 50,000 บาท รวม 1 ล้านหน่วย แบ่งออกเป็น 10 หมวด ๆ ละ 100,000 หน่วย อายุสลาก 3 ปี ออกรางวัลทุกเดือน รวม 36 ครั้ง เดือนละ 100 รางวัล มูลค่ารางวัลละ 50,000 บาท

เริ่มออกรางวัลครั้งแรกวันที่ 16 มีนาคม 2563 และมีรางวัล Jackpot มูลค่ารางวัลละ 500,000 บาท จำนวนถึง 20 รางวัลทุกไตรมาส ฝากครบ 3 ปี รับดอกเบี้ย 1.0% ต่อปี

ธนาคารอาคารสงเคราะห์ได้ทำโปรโมชั่นพิเศษหากซื้อสลากในวันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2563 ในหมวดแรกจำนวน 1 แสนหน่วยแรก ฝากครบ 3 ปีจะได้รับดอกเบี้ยเป็น 1.1% ส่วนหมวดอื่น ๆ จะเปิดจำหน่าย 17 กุมภาพันธ์เป็นต้นไป

ทุกหน่วยมีโอกาสในการถูกรางวัล 0.01% สูงกว่าสลากทั่วไป และยังมีโอกาสลุ้นรางวัลพิเศษ หรือ Jackpot มูลค่ารางวัลละ 500,000 บาท จำนวนถึง 20 รางวัลทุกไตรมาส (หมวดละ 2 รางวัล) ทำให้ผู้ที่ซื้อสลากเพียง 1 หน่วย หากถูกรางวัลพิเศษ 1 ครั้ง จะได้รับผลตอบแทนสูงถึง 10 เท่าของจำนวนเงินฝาก

กรณีฝากครบ 3 ปี รับเงินต้นพร้อมดอกเบี้ยหน่วยละ 51,500 บาท หรือคิดเป็นผลตอบแทนเฉลี่ย 1.0% ต่อปี ฝากครบ 24 เดือน แต่ไม่ครบ 36 เดือน รับเงินต้นพร้อมดอกเบี้ยหน่วยละ 50,500 บาท ฝากครบ 12 เดือน แต่ไม่ครบ 24 เดือนได้รับเงินต้นพร้อมดอกเบี้ยหน่วยละ 50,250 บาท ฝากครบ 3 เดือนแต่ไม่ครบ 12 เดือน ได้รับคืนเฉพาะเงินต้น และกรณีฝากไม่ครบ 3 เดือน ได้รับเงินต้นคืน 49,500 บาท กรณีถูกรางวัลมูลค่า 50,000 บาท จำนวน 1 ครั้ง จะทำให้ผู้ซื้อได้รับผลตอบแทน 34.33% หรือถูก 3 ครั้ง ผลตอบแทนเท่ากับ 101% และถูกรางวัล 5 ครั้ง ผลตอบแทนเท่ากับ 167.67% ซึ่งผู้ที่เคยถูกรางวัลแล้วยังมีโอกาสถูกซ้ำได้อีกในทุก ๆ เดือน อีกทั้งยังได้รับการยกเว้นภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาสำหรับดอกเบี้ยและเงินรางวัล

ผู้ที่สนใจสามารถติดต่อเปิดบัญชีเงินฝาก ออมทรัพย์รับโชค พร้อมสมัคร Application GHB ALL สำหรับซื้อสลากออมทรัพย์ ธอส.ได้แล้วตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป ณ ที่ทำการสาขาของธนาคารทุกแห่งทั่วประเทศ ขณะที่สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาลจะเป็นผู้ดำเนินการออกรางวัล

ทั้งนี้ ธอส.จะนำเงินที่ได้จากการจำหน่ายสลากฯ ชุดพิมานมาศ ไปจัดทำเป็นผลิตภัณฑ์สินเชื่อบ้านอัตราดอกเบี้ยต่ำวงเงิน 50,000 ล้านบาท สำหรับปล่อยกู้ให้แก่ประชาชนทุกระดับรายได้ต่อไป


รางวัลตามหมวด+รางวัลพิเศษ

นับว่าเป็นสลากของธนาคารรัฐรายล่าสุดที่ได้รับอนุญาตให้จำหน่ายต่อจากสลาก ธ.ก.ส.และสลากออมสิน สลากของ ธอส.ชุดพิมานมาศ เสนอขาย 1 ล้านหน่วย แยกเป็น 10 หมวด หมวดละ 1 แสนหน่วย มี 10 รางวัลของแต่ละหน่วย หรือ 100 รางวัลสำหรับสลากทั้งหมดใน 1 งวด ทำให้โอกาสในการถูกรางวัลจึงมีค่อนข้างมากกว่าสลากของ 2 ธนาคารรัฐอย่างของ ธ.ก.ส. และออมสิน

อีกทั้งมูลค่ารางวัลกำหนดไว้อัตราเดียวคือ 50,000 บาท หากถูกรางวัล 1 ครั้ง ก็เท่ากับได้ผลตอบแทนเท่ากับ 33.33% บวกดอกเบี้ยอีก 1% หากถูกมากกว่า 1 ครั้ง ผลตอบแทนก็จะสูงขึ้นตามไปอีก

นอกจากนี้ยังมีรางวัลพิเศษมูลค่ารางวัลละ 500,000 บาท จำนวนถึง 20 รางวัลทุกไตรมาส (หมวดละ 2 รางวัล) ทำให้ผู้ที่ซื้อสลากเพียง 1 หน่วย หากถูกรางวัลพิเศษ 1 ครั้ง จะได้รับผลตอบแทนสูงถึง 10 เท่าของจำนวนเงินฝาก
ทั้งหมดอยู่ที่โชคของแต่ละคน แต่หากไม่ถูกรางวัลเลยใน 3 ปี เมื่อครบกำหนดจะได้ดอกเบี้ย ที่ 1,500 บาทต่อหน่วย(ปีละ 500 บาท) ตรงนี้คงต้องขึ้นอยู่กับความพร้อมของผู้ออมเงินว่าจะตัดสินใจเลือกออมผ่านสลากของ ธอส.หรือไม่


กรุงไทยเบิร์ธเดย์ 1.4%

สำหรับผู้ที่พลาดหวังจากการซื้อสลากของ ธอส. หรือคิดว่าตัวเองอาจไม่มีโชคในการถูกรางวัล ซึ่งจะได้ผลตอบแทนที่ 1% ยังมีทางเลือกอีกช่องทางหนึ่งนั่นคือมีบัญชีเงินฝากประจำพิเศษกรุงไทยเบิร์ธเดย์ ธนาคารกรุงไทย ให้อัตราดอกเบี้ย 1.4%

บัญชีเงินฝากประจำพิเศษกรุงไทยเบิร์ธเดย์ เป็นบัญชีฝากประจำระยะฝาก 7 เดือน เป็นบัญชีเงินฝากสำหรับลูกค้าบุคคลธรรมดา ไม่ต้องฝากทุกเดือน อัตราดอกเบี้ยคงที่ ให้ดอกเบี้ยสูง จ่ายดอกเบี้ยทุกเดือน วงเงินเปิดบัญชีขั้นต่ำ 50,000 บาท การฝากเงินแต่ละครั้งไม่ต่ำกว่า 50,000 บาท และห้ามถอนเงินฝากบางส่วน

ธนาคารจะจ่ายดอกเบี้ยทุกเดือน โดยโอนเงินดอกเบี้ยเข้าบัญชีคู่โอน (บัญชีเงินฝากออมทรัพย์ หรือกระแสรายวัน) ที่ผู้ฝากแจ้งไว้กับธนาคาร กรณีเงินฝากที่ไม่ถึง 3 เดือน ธนาคารจะไม่จ่ายดอกเบี้ย สำหรับดอกเบี้ยที่ธนาคารจ่ายล่วงหน้าไปแล้วทุกเดือน ธนาคารจะหักคืนจากเงินต้นที่ฝากไว้กับธนาคาร

เงินฝากที่ฝากมาแล้วไม่น้อยกว่า 3 เดือน หากถอนเงินก่อนครบกำหนดธนาคารจะจ่ายดอกเบี้ยให้สำหรับระยะเวลาที่ฝากไว้จริงในอัตราดอกเบี้ยเงินฝากออมทรัพย์ตามประเภทผู้ฝาก ณ วันถอน และหักภาษี ณ ที่จ่าย สำหรับดอกเบี้ยที่ธนาคารจ่ายเกินไป ธนาคารจะหักคืนจากเงินต้นที่ฝากไว้กับธนาคาร

“เงินฝากกรุงไทยเบิร์ธเดย์ดอกเบี้ย 1.4% กับระยะเวลาฝาก 7 เดือน ตัวนี้ต้องเสียภาษี 15% ดังนั้นตัวดอกเบี้ยสุทธิจะอยู่ที่ 1.19% โอนดอกเบี้ยให้ทุกเดือน แต่ควรฝากให้ครบตามเงื่อนไขเพราะหากถอนออกมาก่อนครบกำหนดท่านย่อมเสียสิทธิที่พึงได้และดอกเบี้ยที่รับไปก่อนหน้านี้ก็จะถูกหักออกจากเงินต้น”

ออมสินเผื่อเรียกไม่เสียภาษี

ขณะที่เงินฝากของธนาคารออมสินมีเงินฝากเผื่อเรียกพิเศษ 7 เดือน และ 4 เดือนให้เลือก โดยธนาคารให้อัตราดอกเบี้ย 1.2% และ 1.1% เงินฝากตัวนี้ถือเป็นกลุ่มเงินฝากออมทรัพย์ไม่เสียภาษี(กรณีดอกเบี้ยรับไม่เกิน 2 หมื่นบาท)มีความยืดหยุ่น สามารถถอนได้ เปิดบัญชีขั้นต่ำ 10,000 บาท ฝากเพิ่มครั้งละไม่ต่ำกว่า 1,000 บาท

เมื่อฝากครบกำหนดนับตั้งแต่วันที่ฝาก ธนาคารจะโอนยอดเงินฝากและดอกเบี้ยเข้าบัญชีเงินฝากประเภทเผื่อเรียกที่เป็นบัญชีคู่โอนที่ผู้ฝากแจ้งไว้ การถอนหรือปิดบัญชีก่อนครบระยะเวลาฝากนับตั้งแต่วันที่ฝาก จำนวนเงินที่ถอนจะได้รับดอกเบี้ยในอัตราดอกเบี้ยเงินฝากประเภทเผื่อเรียกตามที่ธนาคารประกาศกำหนด ณ วันถอน รับฝากถึงสิ้นเดือนมีนาคม 2563

เงินฝากเผื่อเรียกพิเศษตัวนี้ไม่เสียภาษีตามเงื่อนไขของกรมสรรพากร เงินฝาก 7 เดือนผลตอบแทน 1.2% สูงกว่ากรุงไทยเบิร์ธเดย์เล็กน้อย มีจุดแตกต่างกันบ้างคือของออมสินรับดอกเบี้ยเมื่อครบกำหนด ส่วนของกรุงไทยได้เป็นรายเดือน


ธนชาต อัลตร้า-ประจำ

ขณะที่เงินฝากอัลตร้าเซฟวิ่งของธนาคารธนชาตยังมีอยู่ เริ่มต้นฝากที่ 2 หมื่นบาท ดอกเบี้ยสูงสุด 1.5% ไม่เสียภาษี(ดอกเบี้ยไม่เกิน 2 หมื่นบาท) คิดดอกเบี้ยให้ทุกวัน ถอนได้ 2 ครั้งต่อเดือน หากเกินจะเสียค่าธรรมเนียม ครั้งละ 50 บาท ตัวดอกเบี้ยที่ 1.5% นี้ สามารถเปลี่ยนแปลงได้ทันทีตามประกาศของธนาคาร ดังนั้นผู้ที่ต้องการฝากต้องพร้อมยอมรับเงื่อนไขดังกล่าว

นอกจากนี้ยังมีเงินฝากประจำพิเศษ 8 เดือน เริ่มที่ 1 หมื่นบาท ดอกเบี้ย 1.5% และบัญชีเงินฝากประจำพิเศษ 5 เดือน สำหรับยอดฝากที่ 1 แสนบาทขึ้นไป ดอกเบี้ย 1.35% ซึ่งเงินฝากประจำจะต้องเสียภาษี 15% ดังนั้นผลตอบแทนสุทธิของ 8 เดือนจึงอยู่ที่ 1.275% และ 5 เดือนอยู่ที่ 1.1475%

ตัวเลือกน้อย-ทำใจรับสภาพ

นักบริหารเงินรายหนึ่งกล่าวว่า ตอนนี้คงหาแหล่งเงินออมที่ให้ผลตอบแทนดี ๆ ยาก อีกทั้งสถาบันการเงินที่ออกโปรโมชั่นเงินฝากก็มีน้อยด้วยเช่นกัน และตัวอัตราดอกเบี้ยมักอิงกับผลตอบแทนในตลาดซื้อขายพันธบัตรขณะนั้น ซึ่งอยู่ในระดับต่ำ ไม่มีรายใดที่ให้อัตราดอกเบี้ยที่สูงกว่าตลาด ด้วยสภาพเศรษฐกิจที่เป็นอยู่ในเวลานี้ สถาบันการเงินระมัดระวังเรื่องการปล่อยสินเชื่อ ทำให้ความต้องการที่จะระดมเงินฝากน้อยลงตามไปด้วย โปรโมชั่นเงินฝากจึงแทบไม่มีในตลาดเวลานี้

สถานการณ์ที่เป็นอยู่ในเวลานี้ผู้ออมเงินมีทางเลือกน้อยมาก คงต้องจำใจรับสภาพกับอัตราดอกเบี้ยต่ำไปอีกนาน ช่วงปลายปีมีการออกพันธบัตรให้กับผู้สูงอายุอายุ 5 ปี ดอกเบี้ย 2% หักภาษีแล้วจะได้ดอกเบี้ยที่ 1.7% สูงกว่าพันธบัตร 7 ปี รุ่นก่อนหน้าเพียงเล็กน้อย ที่ให้ดอกเบี้ย 1.95% หักภาษีแล้วเหลือดอกเบี้ยสุทธิ 1.6575%

ส่วนพันธบัตรรัฐบาลรุ่นต่อไปนั้น เชื่อว่าตัวอัตราดอกเบี้ยคงอยู่ในระดับนี้คือต่อไปอีกนาน อาจมีการปรับขึ้นลงได้บ้างเพียงเล็กน้อยตาม Yield Curve ของตลาดซื้อขายพันธบัตร แต่ในทิศทางโดยรวมของอัตราดอกเบี้ยนั้นประเมินว่าไม่ปรับเพิ่มมากไปจากนี้ เว้นแต่มีสถานการณ์ที่จะช่วยฉุดเศรษฐกิจโลกให้ฟื้นตัวขึ้น ซึ่งเวลานี้เป็นไปได้ยาก ทั้งจากเศรษฐกิจทั่วโลกที่ซบเซา การระบาดของไข้หวัดโคโรนา ยิ่งทำให้ทุกอย่างไม่เอื้อต่อการฟื้นตัว

ดังนั้นผู้มีเงินออมคงต้องยอมรับกับสภาพดังกล่าวทำได้เพียงประคองสถานการณ์ต่อไป เลือกหาโปรโมชั่นเงินออมที่ดีที่สุดในแต่ละช่วงเวลาเท่านั้น แบ่งเงินออมแล้วเลือกออมเท่าที่โอกาสมี กระจายไปตามโปรโมชั่นเพื่อเฉลี่ยตัวผลตอบแทน



กำลังโหลดความคิดเห็น