พิษณุโลก - นักรบโควิด อสม.พิษณุโลกบ่นกันทั้งเมือง..เสี่ยงลุยตรวจคัดกรองคนทั้งหมู่บ้านสกัดไวรัส ในมือมีแต่เครื่องวัดอุณหภูมิ ส่วนชุดป้องกัน-เจลแอลกอฮอล์ ยันกระดาษจด-น้ำมันรถ ต้องหาเองไม่พอ ค่าแรงยังโดนเบียดบังเกือบครึ่ง จี้ผู้ว่าฯ ตรวจสอบด่วน
เพจเฟซบุ๊กอยากดังเดี๋ยวจัดให้ V.Plus+ ได้โพสต์ข้อความระบุว่า “จาก อบจ.ลำพูน มา อบจ.สระบุรี มาถึง จ.พิษณุโลก อสม.ซึ่งเป็นด่านหน้า เป็นนักรบโควิดคนแรกๆ เข้าดูแลปกป้องให้ความรู้ตลอดจนคัดกรองคนในชุมชน แต่กลับถูกเบียดบังค่าแรง ขาดการดูแลสนับสนุนด้านต่างๆ พวกผู้ใหญ่ในจังหวัดทำไรอยู่ ฝากผู้ว่าราชการจังหวัดตรวจสอบด้วย ฝากสื่อสารกันออกไปด้วย ปล.อยากให้อ่าน ที่คนร้องส่งเรื่องมา อ่านละจุก..
โดยมีใจความจากสมาชิก อสม.ส่งข้อมูลมายังเพจสรุปเบื้องต้นว่าได้รับเลือกให้ไปพบชาวบ้านในหมู่บ้านที่ตัวเองอยู่ สัดส่วน 100 หลังคาเรือน ต่อ อสม. 1 คน เพื่อไปวัดอุณหภูมิคัดกรองโควิด-19 ต้องไปทำทุกวัน บันทึกแล้วส่งผลผ่านแอปฯ ที่ทางจังหวัดจัดทำ ก่อนทำบอกให้ค่าตอบแทน 240/วัน (20 วัน เริ่ม 12-30 เม.ย.) ไม่มีอุปกรณ์ป้องกันใดๆ ให้ทั้งสิ้น ถุงมือหากันเอง มาสก์หากันเอง แอลกอฮอล์เจลไม่มีให้ ค่าน้ำมันออกเอง มีให้แค่เครื่องยิงตรวจวัดอุณหภูมิเครื่องเดียว กระดาษจดไม่มี ต้องตีตารางเอง ออกค่าทำค่าถ่ายเอกสารเอง ไปขอตรวจตามบ้าน บางบ้านต้อนรับดีก็ดีไป บางบ้านไม่ต้อนรับ แถมต่อว่าส่งสายตาดูถูกว่าเป็นแค่ อสม.อย่ามาเยอะ อสม.ส่วนใหญ่โดนหมากัดด้วย ค่ายาออกเองอีกค่ะ อบจ.เคยสนใจไหม!? ไม่เคยสนใจเลย..”
ล่าสุดทางเพจออกมาอัปเดตว่า ทาง อบจ.พิษณุโลกไม่ใช่ผู้เบิกจ่ายการดำเนินงานของ อสม.แต่อย่างใด
ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่สอบถามข้อเท็จจริงกับกลุ่ม อสม.ต.สมอแข อ.เมืองพิษณุโลก ที่ทำหน้าที่เป็นตัวแทนรับผิดชอบเรื่องดังกล่าว เปิดเผยว่า อสม.ที่เป็นตัวแทนของหมู่บ้านนั้นๆ จะทำหน้าที่ร่วมกับผู้นำท้องที่ ผู้นำท้องถิ่น และเจ้าหน้าที่ของ รพ.สต. โดยจะคัดเลือกตัวแทนเข้ามาทำหน้าที่ออกตรวจคัดกรองไวรัสโควิด-19 ตามหมู่บ้านและบ้านเรือนประชาชนทุกวัน
ทาง ปภ.จังหวัดพิษณุโลกได้มอบเครื่องยิงตรวจวัดอุณหภูมิมาให้ มีการจดบันทึกข้อมูลลงในกระดาษที่หากันมาเอง แล้วไปว่าจ้างให้คนลงคีย์ข้อมูลอีกที ถือว่าเป็นงานที่หนักมากเพราะต้องออกทำงานทุกวัน ต้องเสี่ยงโรคเสี่ยงสารพัด เครื่องยิงตรวจวัดอุณหภูมิที่ได้มาบางครั้งก็ขัดข้องวัดไข้ไม่ได้ ค่าที่ออกมาก็เพี้ยนมาก
ส่วนเรื่องค่าตอบแทน 240/วัน (20 วัน เริ่ม 12-30 เม.ย.) ถ้าคิดเป็นเงินจะได้ 5,040 บาท แต่สุดท้ายกลับเบิกจ่ายไม่ได้ตามที่แจ้งเจ้าหน้าที่ อสม.ไว้ ทุกคนก็เสียความรู้สึกมาก ถ้าถามว่าเดือดร้อนหรือไม่ก็ไม่ได้เดือดร้อน เพราะทุกคนอาสามาทำงานด้วยใจจริง แต่ขอให้หน่วยงานของรัฐหรือหน่วยงานของจังหวัดที่มีหน้าที่รับผิดชอบโดยตรงออกมาชี้แจงให้ความกระจ่างถึงเรื่องที่เกิดขึ้นในครั้งนี้ด้วย
ผู้สื่อข่าวรายงานอีกว่า มีผู้เข้ามาแสดงความคิดเห็นในสื่อโซเชียลมีเดีย และแชร์ต่อ เพื่อให้ตรวจสอบถึงความโปร่งใสของเรื่องดังกล่าว และอยากให้หน่วยงานที่รับผิดชอบออกชี้แจงให้ประชาชนรับทราบ
ขณะที่ตัวแทนของ อสม.ใน จ.พิษณุโลกเข้าร่วมประชุมระหว่างสาธารณสุขจังหวัดพิษณุโลกกับกลุ่ม อสม. ระบุว่าเบี้ยเลี้ยงที่แจ้งว่าจะได้รับ 240/วัน ไม่สามารถเบิกได้ แต่จะจ่ายเป็นค่าอาหารให้มื้อละ 50 บาท 2 มื้อ เป็นเงิน 100 บาท แต่มติ อสม.ไม่ขอรับ เนื่องจากอาจเป็นการสร้างหลักฐานเท็จ และที่ประชุมมีมติเสนอให้ผู้ว่าราชการจังหวัดพิษณุโลกพิจารณาดำเนินการต่อไป