ศูนย์ข่าวเชียงใหม่-รองผู้ว่าฯเชียงใหม่และ ผอ.ท่าอากาศยานเชียงใหม่ พร้อมคณะสังเกตการณ์มาตรการเข้มเฝ้าระวังคัดกรองผู้โดยสารสกัดโควิด-19 หลัง4สายการบินเริ่มกลับมาบริการเที่ยวบินในประเทศเพิ่มเป็น18เที่ยวบินต่อวัน พบภาพรวมราบรื่น
วันนี้(1พ.ค.63) ที่ท่าอากาศยานเชียงใหม่ นายรัฐพล นราดิศร รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ และนายอมรรักษ์ ชุมสาย ณ อยุธยา ผู้อำนวยการท่าอากาศยานเชียงใหม่ ในฐานะหัวหน้าคณะทำงานย่อยศูนย์ปฏิบัติการภาวะฉุกเฉินกรณีการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ณ ท่าอากาศยานเชียงใหม่ พร้อมด้วยคณะทำงาน ร่วมกันติดตามและสังเกตการณ์การปฏิบัติงานคัดกรองผู้โดยสาร ณ ท่าอากาศยานเชียงใหม่ ภายหลังสายการบินต่างๆ เริ่มทยอยกลับมาให้บริการ เพื่อประเมินและทบทวนกระบวนการตรวจคัดกรองให้เกิดความสะดวกรวดเร็ว และปลอดภัยสูงสุดต่อผู้โดยสารและเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติการ
ซึ่งเบื้องต้นพบว่ามีความติดขัดเล็กน้อยในขั้นตอนการกรอกเอกสารยอมรับการกักตัว อย่างไรก็ตามในภาพรวมถือว่าเป็นไปด้วยความเรียบร้อยดี
ทั้งนี้ผู้อำนวยการท่าอากาศยานเชียงใหม่ เปิดเผยว่า มาตรการเฝ้าระวังและตรวจคัดกรอง ณ ท่าอากาศยานเชียงใหม่ในปัจจุบัน ดำเนินการทั้งขาเข้าและขาออก โดยกำหนดให้ผู้โดยสาร ผู้ใช้บริการทุกคน ต้องสวมหน้ากากอนามัยตลอดเวลา มีอุณหภูมิร่างกายไม่เกิน 37.3 องศาเซลเซียส โดยได้ติดตั้งเครื่องเทอร์โมสแกนเพื่อตรวจวัดอุณหภูมิ ตั้งแต่ก่อนเข้าอาคารผู้โดยสารทุกช่องทาง และกำหนดระยะห่างของพื้นที่ให้บริการทุกขั้นตอน ซึ่งในส่วนของผู้โดยสารขาเข้าเมื่อเดินทางมาถึง นอกจากจะตรวจวัดอุณหภูมิร่างกายด้วยเครื่องเทอร์โมสแกนแล้ว จะต้องกรอกข้อมูลสำหรับติดตามตัวในเอกสาร ชม.1 และรับแจกเอกสารคำแนะนำการเฝ้าสังเกตอาการ
ส่วนกรณีผู้โดยสารชาวต่างชาติ หรือผู้โดยสารคนไทยที่เดินทางมาจากพื้นที่เสี่ยงที่มีการแพร่ระบาดของโรคไวรัส COVID-19 ตามประกาศของกระทรวงสาธารณสุข อาจต้องกรอกเอกสารยอมรับการกักตัวเป็นเวลา 14 วัน ซึ่งเจ้าหน้าที่สาธารณสุขประจำจุดคัดกรองจะเป็นผู้พิจารณาและให้คำแนะนำ อย่างไรก็ตามจากจำนวนเที่ยวบินและผู้โดยสารที่เพิ่มขึ้นจากเดิมในเดือน เม.ย.63 ที่มีเที่ยวบินเข้าออกรวมวันละ 4 เที่ยวบิน จำนวนผู้โดยสาร 300 คน ขณะที่ตั้งแต่ 1 พ.ค.63 มีเที่ยวบินเข้าออกเพิ่มเป็นวันละ 18เที่ยวบิน จำนวนผู้โดยสารประมาณ 1,600 คน ทำให้อาจจะเกิดการติดขัดบ้างในขั้นตอนการกรอกเอกสารของผู้โดยสารเที่ยวบินขาเข้า ซึ่งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะพิจารณาหาวิธีปฏิบัติหรือช่องทางการดำเนินการ อาทิ ขอความร่วมมือจากสายการบินให้ผู้โดยสารกรอกเอกสารตั้งแต่ต้นทางหรือบนอากาศยาน หรือใช้ Application ที่เข้าถึงได้ง่าย เพื่อให้เกิดความสะดวกรวดเร็ว และปลอดภัยสูงสุดต่อไป
สำหรับการให้บริการของสายการบิน เส้นทางการบินภายในประเทศในวันที่ 1 พ.ค.63 ของท่าอากาศยานเชียงใหม่ นั้น มีสายการบินเปิดให้บริการ 4 สายการบิน ได้แก่ ไทยแอร์เอเชีย, นกแอร์, ไทยไลอ้อนแอร์ และสายการบินไทยเวียตเจ็ท ในเส้นทางเชียงใหม่ - ดอนเมือง สุวรรณภูมิ และหาดใหญ่ รวมจำนวน 18 เที่ยวบินต่อวัน แบ่งเป็น ขาเข้า 9 เที่ยวบิน และขาออก 9 เที่ยวบิน โดยการท่าอากาศยานจังหวัดเชียงใหม่ ได้ดำเนินการตามมาตรการป้องกันโรค โควิด-19 อย่างเคร่งครัด ตลอดจนเพิ่มความถี่การทำความสะอาดพื้นที่ภายในอาคารผู้โดยสาร และเขตปฏิบัติการเขตการบิน โดยเฉพาะจุดที่ผู้โดยสารหรือเจ้าหน้าที่ต้องสัมผัสใช้งาน ขณะที่ผู้ประกอบการต่างๆ อาทิ ร้านจำหน่ายอาหารและเครื่องดื่ม ตลอดจนรถรับจ้างสาธารณะ ก็จะเริ่มทยอยเปิดให้บริการเช่นกัน