เรืออากาศโทสัมพันธ์ ขุทรานนท์ ผู้อำนวยการท่าอากาศยานดอนเมือง เปิดเผยถึงการเตรียมความพร้อมที่สายการบินจะเปิดทำการบินเพิ่มเติมที่ท่าอากาศยานดอนเมืองในวันที่ 1 พฤษภาคมนี้ โดยสายการบินไทยแอร์เอเชีย และสายการบินไทยไลอ้อนแอร์ จะกลับมาทำการบินเส้นทางในประเทศเช่นกัน
ส่วนการเตรียมความพร้อมของสถานที่ อาคารผู้โดยสาร ท่าอากาศยานดอนเมืองได้ติดตั้งเครื่องเทอร์โมสแกนเพิ่มเติม โดยวันที่ 1 พฤษภาคมนี้ จะมีเครื่องเทอร์โมสแกนจุดทางเข้า 2 ประตู คือประตูทางเข้าที่ 10 และ 14 เพื่อทำการคัดกรองผู้โดยสารที่จะเข้ามาในอาคาร จะต้องมีอุณหภูมิไม่เกิน 37.5 องศาฯ รวมทั้งขณะนี้ประกาศของสำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย (กพท.) ก็มีผลบังคับใช้แล้ว กำหนดให้ผู้โดยสารทุกคนต้องใส่หน้ากากอนามัยตลอดเวลาที่อยู่ในอาคารผู้โดยสาร รวมถึงมาตรการเว้นระยะห่างทางสังคม ตั้งแต่การรอเช็กอินตั๋วโดยสาร จนถึงการรอขึ้นเครื่อง ณ ประตูทางออกของสายบินอย่างเคร่งครัด
สำหรับเที่ยวบินขาออกจะมีไฟลต์ตั้งแต่เวลา 07.00 น. และในส่วนของเที่ยวบินขาเข้า ช่วงเย็นก็จะมีตารางการเดินทางมาถึงท่าอากาศยานดอนเมืองไม่เกินเวลา 18.00 น. ดังนั้น การเดินทางทั้งเที่ยวบินขาไปและกลับจะไม่รับผลกระทบจากการเดินทางก่อนและหลังเวลาเคอร์ฟิว 22.00-04.00 น. แน่นอน
นอกจากนี้ ท่าอากาศยานดอนเมืองยังได้มีการประสาน ทั้งในส่วนของผู้ประกอบการแท็กซี่ให้ทราบว่าตั้งแต่วันที่ 1 พฤษภาคมนี้ จะเริ่มมีผู้โดยสารเดินทางเพิ่มขึ้นแล้ว เพื่อให้ผู้ประกอบการหมุนเวียนเข้ามารับผู้โดยสาร รวมถึงการแจ้งผู้ค้าหรือร้านค้าต่างๆ ในอาคารผู้โดยสารท่าอากาศยานฯ ทราบถึงการเพิ่มขึ้นของสายการบิน หากร้านค้าใดมีความประสงค์ที่จะกลับมาเปิดทำการค้าขายก็สามารถเริ่มดำเนินการได้เช่นเดียวกัน
ทั้งนี้ เส้นทางบินของสายการบินไทยแอร์เอเชีย จะเริ่มบินบางเส้นทางภายในประเทศ อาทิ เส้นทางดอนเมืองสู่ เชียงใหม่ เชียงราย ขอนเเก่น อุดรธานี อุบลราชธานี นครพนม ร้อยเอ็ด นครศรีธรรมราช ตรัง หาดใหญ่ สุราษฎร์ธานี และเส้นทางข้ามภาค เชียงใหม่-หาดใหญ่ เป็นต้น ส่วนสายการบินไทยไลอ้อนแอร์ จะบินในเส้นทางดอนเมือง สู่เชียงใหม่ อุบลราชธานี ขอนแก่น สุราษฎร์ธานี หาดใหญ่ นครศรีธรรมราช วันละ 1 เที่ยวบิน