อ่างทอง - รวบจ่า ยิงเจาะกะโหลกสาวผมทองวัย 33 ปี ทิ้งศพในคลองชลประทาน เมื่อ 13 พ.ย.61 เบื้องต้น ยังให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา แต่รับว่าตนเองรู้จักและมีความสนิทในเชิงชู้สาวกับผู้ตาย
วันนี้ (28 เม.ย.) ที่ห้องประชุม สภ.โพธิ์ทอง จังหวัดอ่างทอง พล.ต.ต.ธนายุตม์ วุฒิจรัสธำรงค์ รอง ผบช.ภ.1 (สส.) ได้เดินทางประชุมเร่งรัดติดตามผลความคืบหน้า พร้อมทำการสอบปากคำผู้ต้องหาของคดีพบศพ น.ส.เพ็ญนภา บุญหนัก อายุ 33 ปี ที่ถูกทิ้งศพลอยน้ำในคลองชลประทานในเขตพื้นที่ สภ.โพธิ์ทอง เหตุเกิดเมื่อวันที่ 13 พ.ย.61 ซึ่งต่อมา จากการรวบรวมพยานหลักฐานสามารถออกหมายจับผู้ต้องหาคือ จ.ส.อ.กิตติศักติ์ หรือหวาน เครือทอง อายุ 45 ปี อยู่บ้านเลขที่ 183/1005 ถ.สรงประภา แขวงสีกัน เขตตอนเมืองกรุงเทพมหานคร ซึ่งเป็นผู้ต้องหาตามหมายจับ ที่ 188/2563 ในความผิดฐาน ฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา
โดยเมื่อเวลา 11.30 น. ของวันที่ 13 พ.ย.61 ร.ต.อ.สมชัย ภูลิลิตร รองสารวัตรสอบสวน สภ.โพธิ์ทอง ได้รับแจ้งจาก นายประดิษฐ์ ผลดี อายุ 60 ปี อยู่บ้านเลขที่ 45 หมู่ที่ 2 ตำบลบ้านกล้วย อำเภอเมือง จังหวัดชัยนาท คนขับรถแบ็็กโฮของกรมชลประทาน ว่าระหว่างที่กำลังขุดลอกวัชพืชในคลองชลประทาน ได้พบศพผู้เสียชีวิตลอยอยู่ในคลองชลประทาน 3 ซ้าย หมู่ที่ 2 ตำบลบางระกำ อำเภอโพธิ์ทอง จังหวัดอ่างทอง
หลังได้รับแจ้งจึงรีบรุดไปตรวจสอบในที่เกิดเหตุ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.โพธิ์ทอง เจ้าหน้าที่แพทย์ พยาบาล โรงพยาบาลโพธิ์ทอง และเจ้าหน้าที่สมาคมวีอาร์กู้ภัยอ่างทอง ที่เกิดเหตุในคลองชลประทาน พบศพผู้เสียชีวิตลอยขึ้นอืดส่งกลิ่นเหม็นเน่าอยู่ในน้ำ ลักษณะลอยคว่ำหน้าอยู่กับวัชพืชที่ขึ้นอยู่ในคลอง
จากการสอบสวน นายประดิษฐ์ ให้การว่า ตนเองเป็นลูกจ้างของกรมชลประทาน ได้นำรถแบ็กโฮมาทำการขุดลอกวัชพืชที่ขึ้นอยู่ในลำคลอง เพื่อเปิดทางน้ำและกำจัดวัชพืชให้ประชาชนในพื้นที่ได้ใช้ประโยชน์ ระหว่างที่ตนเองกำลังขุดลอกวัชพืชในคลองอยู่นั้น ได้สังเกตเห็นว่ามีอะไรลอยอยู่ ในตอนแรกตนเองคิดว่าเป็นถุงขยะ จึงคิดว่าเมื่อใกล้ถึงก็จะตักขึ้นมา เพราะจะต้องตักวัชพืชขึ้นมาอยู่แล้ว เมื่อถึงทางตันได้ตักวัชพืชขึ้นมา ตนเองถึงกับผงะเมื่อเห็นว่าไม่ใช่ถุงขยะอย่างแน่นอน แต่มีลักษณะคล้ายคนหรือหุ่นก็ยังไม่ทราบ จึงได้เรียกชาวบ้านที่มาหาปลาและนำวัชพืชไปใช้ประโยชน์มาช่วยกันดู
จึงพบว่าเป็นศพลอยน้ำ จึงได้ไปแจ้ง อบต. ให้ช่วยแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจเดินทางมาตรวจสอบ ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ให้นำรถแบ็กโฮนำร่างผู้เสียชีวิตขึ้นมาเพื่อชันสูตร จากการตรวจสอบพบว่า ผู้เสียชีวิตเป็นหญิง อายุประมาณ 40-45 ปี สูงประมาณ 165 เซนติเมตร สวมใส่ชุดกีฬาสีขาว ยี่ห้อ FILA ที่นิ้วกลางและนิ้วนางมือซ้ายสวมแหวนทองนิ้วละ 1 วง ที่นิ้วกลางมือขวาสวมแหวนเงิน 1 วง พร้อมอัญมณี ที่เล็บโรยกากเพชรสีเงิน บริเวณศีรษะมีผมเหลืออยู่เพียงเล็กน้อย ที่ขมับซ้ายมีร่องรอยเหมือนถูกอาวุธปืนยิงทะลุหลังใบหูขวา
คาดว่าเสียชีวิตมาไม่ต่ำกว่า 4 -5 วัน เนื่องจากสภาพศพได้เน่าเปื่อยขึ้นอืดส่งกลิ่นเหม็นจนจำสภาพไม่ได้ จึงได้ส่งศพผู้เสียชีวิตไปชันสูตรที่สถาบันนิติเวชวิทยา เพื่อทำการตรวจหาอัตลักษณ์บุคคล และประสานกับเจ้าหน้าที่ตำรวจพื้นที่ใกล้เคียงให้ทำการตรวจสอบว่ามีการแจ้งบุคคลหายไว้หรือไม่
หลังจากนั้น ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ร่วมกันตรวจสอบสถานที่เกิดเหตุ และสืบสวนจนทราบว่า ผู้ตายชื่อ น.ส.เพ็ญนภา หรือ หนิง บุญหนัก อายุ 33 ปี อยู่บ้านเลขที่ 49 หมู่ที่ 2 ตำบลรุ่งระวี อำเภอน้ำเกลี้ยง จังหวัดศรีสะเกษ โดยได้นำสารพันธุกรรม ตรวจเปรียบเทียบกับมารดาของผู้ตาย คอ นางบัวเลียน ภูมิลักษ์
จากนั้นจึงทำการสืบสวนหาข้อมูลและพยานหลักฐานจนกระทั่งสืบทราบว่า คนร้ายที่ก่อเหตุในครั้งนี้คือ จ.ส.อ.กิตติศักดิ์ หรือหวาน เครือทอง พนักงานสอบสวนจึงได้รวบรวมพยานหลักฐานยื่นคำร้องต่อศาลทหารมณฑลทหารบกที่ 13 ในความผิดฐานฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา เพื่อขออนุมัติออกหมายจับ ซึ่งได้มีหนังสือแจ้งไปยังต้นสังกัดของผู้ต้องหาที่รับราชการทหาร และต่อมาต้นสังกัดได้ติดต่อขอส่งตัวผู้ต้องหาต่อพนักงานสอบสวน สภ.โพธิ์ทอง พร้อมกับทนายความ
จากการสอบสวน จ.ส.อ.กิตติศักดิ์ เบื้องต้น ให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา แต่ยอมรับว่าตนเองรู้จักและมีความสนิทสนมในเชิงชู้สาวกับผู้ตาย โดยทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ พอที่จะรู้สาเหตุที่ทำให้ผู้ต้องหาคิดก่อเหตุในครั้งนี้ แต่ยังอยู่ในขั้นตอนของการสอบสวนผู้ต้องหา ซึ่งหลังจากพนักงานสอบสวนทำการสอบสวนเสร็จแล้ว ก็จะนำตัวผู้ต้องหาเดินทางไปฝากขังที่เรือนจำ มทบ.13 จังหวัดลพบุรี เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป