จันทบุรี - สมาคมการค้าชายแดนทั่วประเทศ จับมือสภาหอการค้า สภาอุตสาหกรรม และผู้ประกอบการกัมพูชา ผนึกกำลังต้านคำสั่งปลัดคมนาคม เรื่องกำหนดเวลาส่งสินค้าจากไทยไปประเทศเพื่อนบ้านให้เสร็จใน 7 ชม. ชี้ทำไม่ได้ ยันทำหนังสือคัดค้านแน่ หากไม่เป็นผลพร้อมเคลื่อนไหว
จากกรณีที่กระทรวงคมนาคม โดยปลัดกระทรวงคมนาคม ได้มีคำสั่งเรื่องการขนส่งสินค้าระหว่างประเทศเพื่อให้สอดคล้องต่อมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 โดยเฉพาะการออกคำสั่งว่าด้วยว่าการขนส่งสินค้า ที่กำหนดให้รถบรรทุกขนส่งสินค้าจากไทยไปประเทศเพื่อนบ้านที่จะต้องกลับเข้าไทยภายใน 7 ชั่วโมง นับตั้งแต่นาทีแรกที่เข้าสู่ประเทศเพื่อนบ้านและหากกลับเข้ามาช้ากว่าเวลาที่กำหนดจะต้องถูกกักตัวเป็นเวลา 14 วันนั้น
วันนี้ (28 เม.ย.) ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่ตรวจสอบบรรยากาศการขนส่งสินค้าจากไทยไปยังประเทศกัมพูชา ณ บริเวณจุดผ่านแดนถาวรไทย-กัมพูชา บ้านแหลม ม.4 ต.เทพนิมิต อ.โป่งน้ำร้อน จ.จันทบุรี พบว่า มีทั้งรถบรรทุก 10 ล้อมีพ่วง รถเทรลเลอร์ และรถกระบะลำเลียงสินค้าหลากหลายชนิดเข้าคิวรอที่จะเข้าสู่ประเทศกัมพูชาเป็นจำนวนมาก
โดยคนขับรถบรรทุกสินค้า และผู้ช่วยได้นำรถมาจอดรอที่จุดผ่านแดนตั้งแต่ช่วงคืนที่ผ่านมาก่อนถึงช่วงเวลาเคอร์ฟิว โดยทุกคนได้พากันนอนในรถกระทั่งเช้าจึงนำรีบส่งสินค้าเพื่อให้ทันเวลา
ขณะที่ ดร.รัฐวิทย์ ตั้งเกียรติพชร นายกสมาคมการค้าและการท่องเที่ยวชายแดนไทย-กัมพูชา จ.จันทบุรี ได้ให้ความเห็นต่อคำสั่งของกระทรวงคมนาคม ที่กำหนดให้รถบรรทุกสินค้าจะต้องเดินทางกลับเข้าไทยภายในเวลา 7 ชั่วโมง นับตั้งแต่นาทีแรกที่เข้าสู่ประเทศเพื่อนบ้าน และหากกลับเข้ามาช้ากว่าเวลาที่กำหนดจะต้องถูกกักตัวเป็นเวลา 14 วัน ว่าเป็นคำสั่งที่ผู้ประกอบการไม่สามารถปฏิบัติตามได้
ทั้งนี้ เนื่องจากการบรรทุกสินค้าไปส่งยังประเทศเพื่อนบ้านบางครั้งต้องใช้เวลาในการนำสินค้าลงจากรถนานถึง 3 ชั่วโมง และยังไม่นับรถเรื่องการทำเอกสาร และเวลาในการเดินทาง รวมถึงปัญหาและอุปสรรคอื่นๆ
ดร.รัฐวิทย์ ยังเผยอีกว่า หากกระทรวงคมนาคม และรัฐบาลไม่มีความเข้าใจในบริบทของการขนส่งสินค้าระหว่างประเทศ ก็ย่อมเกิดผลกระทบต่อการขนส่งสินค้าระหว่างไทยกับประเทศเพื่อนบ้าน เนื่องจากปัจจุบัน ทางการกัมพูชา ได้อำนวยความสะดวกให้รถบรรทุกสินค้าจากไทยสามารถขนส่งสินค้าได้อย่างเต็มที่แล้ว เพราะเข้าใจว่าประชาชนในกัมพูชามีความต้องการสินค้าไทยค่อนข้างมาก
แต่เมื่อไทยได้รับโอกาสนี้แล้ว กลับมีการออกคำสั่งที่ไม่เอื้อต่อการส่งออกสินค้าและอ้างเพียงการดำเนินงานเพื่อให้เป็นไปตามมาตรการป้องกันปัญหาการแพร่ระบาดของโควิด-19 ถือเป็นเรื่อน่าเสียดายและยังถือเป็นความสูญเสียโอกาสทางเศรษฐกิจอีกด้วย
ทั้งนี้ สมาคมการค้าชายแดนทั่วประเทศยังขอเรียกร้องให้รัฐบาลพิจารณาเรื่องการเปิดด่านชายแดนโดยเร็วแต่ให้คงไว้เรื่องการดำเนินมาตรการป้องกันโวรัสโควิด-19 ไว้เช่นเดิม