พ.อ.หญิง ศิริจันทร์ งาทอง รองโฆษกกองทัพบก เปิดเผยว่า พล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ ผู้บัญชาการทหารบก ประชุมผ่านระบบวิดีโอคอนเฟอร์เรนซ์ กับผู้บังคับหน่วยทั่วประเทศ ที่กองบัญชาการกองทัพบก มีการรายงานผลการปฏิบัติของกองทัพภาคโดยกองกำลังป้องกันชายแดนกองทัพบก ในการสนับสนุนมาตรการของรัฐบาล ที่อนุญาตให้มีการเดินทางกลับเข้ามาในราชอาณาจักรจากประเทศเพื่อนบ้าน ผ่านจุดผ่านแดนถาวร ตั้งแต่วันที่ 18 เมษายน ที่ผ่านมา ซึ่งกองทัพบกได้จัดกำลังเข้าดูแลพื้นที่จุดผ่านแดนถาวรทั้ง 21 แห่งทั่วประเทศ โดยระหว่าง 18-19 เมษายน มีคนไทยเดินทางกลับเข้าประเทศตามจุดผ่านแดนถาวร จำนวน 1,228 คน เป็นทั้งผู้ที่เข้าเมืองผ่านระบบลงทะเบียน และไม่ได้ลงทะเบียน ซึ่งกองกำลังป้องกันชายแดนได้ประสานอำนวยความสะดวกและบริหารจัดการร่วมกับส่วนราชการในพื้นที่ ทำการคัดกรองและส่งไปยังสถานที่กักตัวตามมาตรการของภาครัฐได้อย่างเรียบร้อย
นอกจากนี้ ผู้บัญชาการทหารบกได้ย้ำให้ทุกกองทัพภาค จัดกำลังพลประจำจุดผ่านแดนถาวรร่วมกับตำรวจ เจ้าหน้าที่สาธารณสุขและจังหวัดในทุกพื้นที่ ให้อำนวยความสะดวกประชาชนอย่างต่อเนื่อง พร้อมปฏิบัติตามข้อกำหนดของภาครัฐในการผ่านแดนอย่างรัดกุม รอบคอบ มีความเข้มงวดในทุกขั้นตอน รวมถึงมาตรการในการป้องกันตนเอง เนื่องจากในช่วงต่อจากนี้จะมีคนไทยทยอยกลับเข้ามาทางด่านชายแดนอีกเป็นจำนวนมาก รวมทั้งให้พิจารณานำเทคโนโลยีระบบการยืนยันตัวบุคคลด้วยเครื่องสแกนใบหน้ามาติดตั้งประจำด่านตรวจ เพื่อสะดวกในการบันทึก เชื่อมโยงข้อมูล อันจะเป็นประโยชน์ต่อการคัดกรองและควบคุมโรคในภาพรวมต่อไป
ขณะเดียวกัน ผู้บัญชาการทหารบก ด้สั่งการให้ทุกกองทัพภาคให้ความสำคัญกับการเฝ้าตรวจ การลาดตระเวน ป้องกันมิให้มีการลักลอบข้ามแดนตามช่องทางธรรมชาติ เพราะจะทำให้เกิดความเสี่ยงในเรื่องของการแพร่กระจายของเชื้อ โดยเฉพาะแนวชายแดนทางภาคใต้ทั้งทางทะเลและทางบก ตั้งแต่ จ.สตูล จนถึง จ.นราธิวาส โดยเฉพาะตามแม่น้ำสุไหงโก-ลก ให้กองทัพภาคที่ 4 ประสานการปฏิบัติร่วมกับกองทัพเรือและเจ้าหน้าที่ตำรวจน้ำ ในการควบคุมและผลักดัน เพื่อให้การกลับเข้าประเทศเป็นไปตามมาตรการลงทะเบียนและเข้าสู่ระบบการคัดกรองและควบคุมโรคตามที่รัฐบาลกำหนด