ลำปาง - ศึก ขรก.ประจำ-นักการเมืองเทศบาลนครลำปางลามแล้ว..หลังผู้รับเหมาบุกทวงเช็คค่าจ้างถึงห้องจนหวิดมีเรื่อง ล่าสุดปลัดฯ โดนชง ก.ท.จ.สั่งแขวนครึ่งปี สะพัดขัดงบจ่ายย้ายสายไฟลงดิน ขณะที่เจ้าตัวเดินหน้าชน ลั่นไม่ย้าย-ไม่หนี
กรณีผู้รับเหมารายหนึ่งยกพวกรวม 4 คน บุกเข้าห้องทำงานของนายชาตรี สุขารมณ์ ปลัดเทศบาลนครลำปาง เมื่อบ่ายแก่ๆ ก่อนเวลาเลิกงานวันศุกร์ที่ 10 เม.ย.ที่ผ่านมา นัยว่าเพื่อตามเช็คค่าจ้างเหมางานที่เจ้าหน้าที่เพิ่งส่งถึงโต๊ะปลัดเทศบาลฯ ตามขั้นตอนได้ไม่ถึงครึ่งชั่วโมง ทั้งยังมีการกล่าวหาว่ากักเช็ค-ถ่วงเวลา-ข่มขู่ จนทำให้เกือบเกิดเรื่องขึ้นกลางเทศบาลฯ
หลังเกิดเหตุ ปลัดเทศบาลฯ ได้มีการประชุมและตั้งกรรมการสอบเรื่องที่เกิดขึ้นเพื่อให้ทราบว่าความผิดพลาดของระบบการส่งมอบงานและการจ่ายเงินให้ผู้รับเหมาอยู่ตรงไหน พร้อมกับลงบันทึกประจำวันไว้ที่ สภ.เมืองลำปาง เพราะเห็นว่าการกระทำของผู้รับเหมารายดังกล่าวไม่เหมาะสมและไม่ควรกระทำการอุกอาจเช่นนั้นเพราะเป็นสถานที่ราชการ พร้อมเปิดอกว่าเรื่องที่เกิดขึ้นไม่มีเรื่องของการเรียกรับผลประโยชน์ใดๆ ทั้งสิ้น และพร้อมให้ตรวจสอบ หลังมีบางคนบางกลุ่มออกมาระบุว่าเหตุที่ผู้รับเหมามาตามเช็คและเกือบจะเกิดเหตุเพราะมีการดึงเช็คเพื่อหวังประโยชน์อะไรบางอย่าง
อย่างไรก็ตาม..ปัญหาในเทศบาลนครลำปางไม่ได้จบลงหลังปลัดเทศบาลฯ เซ็นเช็คจ่ายค่าจ้างให้ผู้รับเหมากลุ่มดังกล่าวก่อนเวลาเลิกงานเล็กน้อย และมีการส่งให้นายกเทศมนตรีนครลำปางเซ็นต่อหลังจากนั้น
ในการประชุมประจำเดือนของ ก.ท.จ.เมื่อ 22 เม.ย.ที่ผ่านมา ได้มีการนำเรื่องนายกเทศมนตรีนครลำปาง ขอให้แขวนปลัดเทศบาลนครลำปาง เป็นเวลา 6 เดือนเข้าในวาระด้วย ซึ่งเบื้องต้นคณะกรรมการยังไม่ให้ความเห็นชอบตามข้อเสนอ และได้ตั้งคณะกรรมการขึ้นมาสอบสวนเรื่องดังกล่าวเพื่อให้ผู้ร้องได้มีโอกาสเข้ามาชี้แจง โดยมีรองผู้ว่าราชการจังหวัดลำปางเป็นประธานฯ
สำหรับข้อหาที่นายกเทศมนตรีเสนอให้แขวนปลัดเทศบาลนครลำปาง สรุปย่อคือ ปลัดเทศบาลนครลำปางไม่มีความรู้ด้านบริหาร มีแต่ความรู้ด้านข่าว ขาดความรับผิดชอบต้องให้ติดตามงานตลอด ปล่อยปละละเลยจนงบประมาณตกไปในบางโครงการ ไม่มีปฏิสัมพันธ์ที่ดีกับผู้บริหารซึ่งเป็นผู้บังคับบัญชา
และระบุว่ากรณีการตรวจรับงานเก็บขนมูลฝอยก็มีมูลกรณีว่านายชาตรี สุขารมย์ ปลัดเทศบาลฯ ไม่ลงนามผ่านเอกสารเพื่อเสนอนายกเทศมนตรีอนุมัติเบิกจ่ายเงินแก่ผู้รับจ้าง มีการเรียกผู้บริหารกองสาธารณสุขเข้าพบและพูดจามีนัยส่อไปในทางเรียกรับประโยชน์
ด้านนายชาตรียอมรับว่าบางเรื่องตนไม่สามารถทำตามคำสั่งของผู้บังคับบัญชาได้หากคำสั่งนั้นไม่ชอบด้วยกฎหมาย ซึ่งตนเป็นข้าราชการ รับราชการมากว่า 30 ปี ลูกๆ ก็ทำการทำงานเรียบร้อยหมดไม่มีอะไรต้องห่วง ขอแค่หลังเกษียณได้รับแค่บำเหน็จบำนาญก็พอแล้ว อะไรที่ทำแล้วจะต้องก้าวขาเข้าไปอยู่ในคุกตนคงไม่ทำและไม่เคยมีประวัติในเรื่องลักษณะนี้
“เมื่อนายกเทศมนตรีไม่พอใจในบางเรื่องที่ตนไม่เห็นด้วย จะด้วยเหตุที่ผิดระเบียบหรืออาจจะไปขวางประโยชน์อะไรใครก็ตาม ก็เพราะต้องการรักษาผลประโยชน์ของประชาชนทั้งสิ้น ซึ่งนายกก็มีสิทธิที่จะดำเนินงานใดๆ กับตนก็ได้ ที่ผ่านมาก็มีการพยายามสร้างเรื่องราวต่างๆ เพื่อจะให้ตนหยุดปฏิบัติหน้าที่ มีการตั้งกรรมการสอบหลายเรื่องเรื่อยมา แต่ตนก็พร้อมสู้ทุกเรื่องพร้อมให้ตรวจสอบ เพราะเชื่อว่าไม่ได้ทำอะไรผิดระเบียบ และอยากบอกว่าตนไม่ใช่นักการเมืองแต่เป็นข้าราชการ ไม่จำเป็นต้องหาเสียง งานข้าราชการคือการบริการประชาชนให้ดีที่สุดอย่างเท่าเทียมกัน”
แหล่งข่าวในเทศบาลนครลำปางได้ให้ข้อมูลว่า ที่ผ่านมาข้าราชการ เจ้าหน้าที่ทำงานด้วยความกดดัน หลายคนพยายามขอย้าย รวมถึง ผอ.กองช่างก็ขอย้ายกลับบ้าน ขณะที่นายกเทศมนตรีนครลำปางก็ถูก ส.ท.ร้องเรียนเกี่ยวกับการปฏิบัติหน้าที่ การใช้งบประมาณในโครงการต่างๆ ที่ฝ่ายบริหารเสนอต่อสภาฯ เพื่อดำเนินการ
ล่าสุดได้มีการร้องศูนย์ดำรงธรรม, ป.ป.ช., กฟภ. ถึงเรื่องที่อาจเข้าข่ายลักไก่ทำประชาพิจารณ์โครงการสายไฟลงดินเฟส 1 ถนนพหลโยธิน ซึ่งตามกำหนดจะต้องมีการจ่ายเงินก้อนโตให้ กฟภ.รวม 53 ล้านบาท แต่ขณะนี้ปลัดเทศบาลนครลำปางยังไม่อนุมัติการเบิกจ่าย เนื่องจากยังมีการร้องเรียนที่เกิดขึ้น และ ส.ท.ได้มีหนังสือให้ชะลอการอนุมัติการเบิกจ่ายเงินออกไปจนกว่าการสอบสวนจะสิ้นสุด รวมทั้งร้องเรียนไปยัง สตง.ให้ตรวจสอบงบประมาณที่นำมาใช้ในโครงการปรับปรุงถนนดวงรัตน์อีกกว่า 14 ล้านบาทด้วย
ขณะเดียวกัน นายกิตติ จิวะสันติการ ประธานสภาเทศบาลนครลำปาง พร้อม ส.ท.ได้เข้าให้กำลังใจปลัดเทศบาลนครลำปางเพื่อให้เดินหน้าต่อสู้และทำงานต่อไป พร้อมกับฝากบอกถึงนักการเมืองว่าอย่าได้รังแกข้าราชการเพราะข้าราชการไม่ใช่นักการเมืองจะทำตามใจนักการเมืองไม่ได้