ศูนย์ข่าวเชียงใหม่-เครือข่ายนักศึกษา ม.เชียงใหม่ ออกเคลื่อนไหวซ้ำเรียกร้องมหาวิทยาลัยต้องลดค่าธรรมเนียมการศึกษาอย่างน้อย30% เพื่อบรรเทาภาระและความเดือดร้อนของผู้ปกครองและ นศ.ในช่วงโควิด-19 ชี้ลดแค่10%เหมือนไม่ช่วยอะไร
วันนี้(24 เม.ย.63) ที่บริเวณหน้าคณะสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ได้มีกลุ่มตัวแทนเครือข่ายนักศึกษามหาวิทยาลัยเชียงใหม่ นำโดย นางสาวรสริน คุณชม ได้ออกมาแถลงการณ์ เพื่อต้องการให้มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ลดค่าธรรมเนียมการศึกษาลง 30% หลังเกิดวิกฤตเศรษฐกิจ สังคม อย่างหนักจากภาวะไวรัสระบาด และพ.ร.ก.ฉุกเฉิน ซึ่งที่ผ่านมาได้มีการรวมตัวกันเพื่อเรียกร้องสิทธิ์ดังกล่าว ซึ่งทางมหาวิทยาลัยได้ออกมาตรการช่วยเหลือลดค่าเทอมเพียง 10% โดยได้มีการจัดสรรทุนให้เปล่าเฉพาะนักศึกษาที่มีปัญหาเพียงเท่านั้น ซึ่งส่งผลกระทรวงผลกระทบต่อนักศึกษาที่มีรายได้น้อย และนักศึกษาที่ฐานะยากจนอีกหลายราย ที่ไม่ได้รับสิทธิดังกล่าว
นางสาวรสริน ระบุว่าจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโคโรน่าสายพันธุ์ 2019 หรือโควิด19 ส่งผลกระทบในวงกว้างต่อประเทศไทย แม้ว่ารัฐบาลได้มีการดำเนินการเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบบ้างแล้วบางส่วน แต่ก็ไม่เพียงพอต่อการบรรเทาความเดือดร้อน ประกอบกับภาระค่าใช้จ่ายที่เพิ่มสูงขึ้นในขณะที่รายได้ลดลง ส่งผลทำให้ค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับการศึกษา กลายเป็นภาระที่หนักหนาสาหัสกับครอบครัวชนชั้นกลาง ระดับล่างซึ่งเป็นประชากรส่วนใหญ่ แม้ว่า มติที่ประชุมคณะกรรมการบริหารมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ จะมีการยืนยันในการลดค่าธรรมเนียมการศึกษาลง 10% โดยได้มีการจัดสรรทุนให้เปล่าเฉพาะนักศึกษาที่มีปัญหาเพียงเท่านั้น และจัดตั้งกองทุนให้ยืมเงิน 250 ล้านบาท
อย่างไรก็ตามมองว่ายังไม่พอเพียงต่อการใช้จ่ายในยามภาวะวิกฤติเช่นนี้ การที่ทางมหาวิทยาลัยอ้างว่าได้รับเงินอุดหนุนจากรัฐบาลน้อยลง ไม่ได้ถือเป็นข้ออ้างที่สมเหตุสมผลในการที่จะลดค่าธรรมเนียมการศึกษาลงแค่ 10% เพราะรายงานที่ได้จากสำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน พบว่ามหาวิทยาลัยเชียงใหม่ มีรายได้ที่มากกว่ารายจ่ายถึง 2,000 กว่าล้านบาท ซึ่งเงินจำนวนนี้เป็นกำไรที่ทางมหาวิทยาลัยได้รับ และสมควรจะนำเงินตรงส่วนนี้มาช่วยนักศึกษาเป็นอย่างยิ่ง ดังนั้นพวกตนจึงขอเรียกร้องให้มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ดำเนินการลดค่าธรรมเนียมการศึกษาลง 30% จากค่าธรรมเนียมการศึกษาเดิม ตั้งแต่ภาคการเรียนฤดูร้อน ปี 2562 เป็นต้นไป ซึ่งจะเป็นมาตรการบรรเทาความเดือนร้อนอย่างเท่าเทียม และถ้วนหน้าแก่นักศึกษา รวมถึงขอให้สนับสนุนอุปกรณ์ในการเรียนออนไลน์ให้กับนักศึกษาที่ไม่พร้อมอีกด้วย
ด้านนายสวัสดิ์ บัวดอกตูม อายุ 59 ปี หนึ่งในตัวแทนผู้ปกครอง เปิดเผยว่า ตัวเองมีลูกสาว 2 คนศึกษาในมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ในฐานะตัวแทนผู้ปกครองเห็นว่าในเวลานี้ได้มีการแพร่ระบาดของโรคโควิด 19 ส่งผลทำให้หลายสถานประกอบการต้องปิดกิจการชั่วคราวตาม พรก.ฉุกเฉิน ทำให้ประชาชนขาดรายได้ ประกอบกับภาระค่าใช้จ่ายที่ยังคงมีเท่าเดิม แม้ว่าทางมหาวิทยาลัยได้มีการออกมาประกาศมาตรการช่วยเหลือลดค่าเทอม 10% แต่จากสภาวะความเป็นจริงแล้ว ไม่เพียงพอต่อค่าใช้จ่ายในการศึกษา ซึ่งการที่นักศึกษาออกมาเรียกร้องในครั้งนี้ น่าจะส่งผลทำให้สถาบันศึกษาต้องทบทวนใหม่ เพื่อที่จะบรรเทาความเดือดร้อนให้นักศึกษาและผู้ปกครองต่อไป