ศูนย์ข่าวศรีราชา - ค่าไฟเพื่อชาติ? เจ้าของร้านขายวัสดุก่อสร้างใน อ.พานทอง จ.ชลบุรี แทบช็อกหลังเจอบิลเรียกเก็บค่าไฟฟ้าเดือน เม.ย.สูงกว่า 8 หมื่นบาท ทั้งที่ปกติจ่ายค่าไฟเพียงเดือนละ 2 พันบาท สุดงง ใช้อะไรขนาดนี้ นี่หรือมาตรการอยู่บ้าน หยุดเชื้อ เพื่อชาติ
จากกรณีที่มีผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อ maratree mirattanapai ได้โพสต์ภาพบิลเรียกเก็บค่าไฟฟ้าประจำเดือน เม.ย.2563 พร้อมระบุข้อความ “เดือนที่แล้วยอด 2,921 เดือนนี้เล่นตู 83,535.80 คิดกี่เท่าเนี่ย หยุดงานช่วยชาติ เอากันแบบสร้างตึกสร้างบ้านเลยเหรอ” ซึ่งภายหลังจากโพสต์ดังกล่าวได้เผยแพร่ลงในโลกออนไลน์ ได้มีการส่งต่อข้อความเป็นจำนวนมาก นอกจากนั้น ยังมีผู้เข้ามาแสดงความคิดเห็นและวิพากษ์วิจารณ์เกี่ยวกับการคิดอัตราค่าไฟของการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคที่มีหลายคนเจอบิลค่าไฟมหาโหดในหลายจังหวัดอย่างกว้างขวางนั้น
ล่าสุด เมื่อเวลา 15.30 น. วันนี้ (21 เม.ย.) ผู้สื่อข่าวได้เดินทางลงพื้นที่ ม.1 ต.มาบโป่ง อ.พานทอง จ.ชลบุรี เพื่อพบกับ นายชัยมงคล นิรัตนไพร อายุ 52 ปี เจ้าของร้านขายวัสดุก่อสร้างและยังเป็นเจ้าของบิลค่าไฟฟ้าดังกล่าว ซึ่งได้รับการเปิดเผยว่าตนเองได้รับบิลเรียกเก็บค่าไฟฟ้ามาตั้งแต่วันที่ 19 เม.ย.ที่ผ่านมา ซึ่งหลังเจอค่าไฟมหาโหดลูกสาวได้นำเรื่องราวดังกล่าวโพสต์ลงในโลกออนไลน์
ส่วนตนเองได้เดินทางไปสอบถามยังสำนักงานการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค อ.พานทอง ซึ่งเจ้าหน้าที่ประจำสำนักงานรับปากว่าจะเดินทางลงพื้นที่ตรวจสอบให้ โดยในครั้งแรกที่เห็นบิลค่าไฟยอมรับว่า ตกใจมากและไม่คิดว่าจะเจอค่าไฟที่แพงมากเช่นนี้คือค่าไฟฟ้า จำนวน 83,535.80 บาท จากการใช้งาน 13,334.000 หน่วย ทั้งๆ ที่เดือนที่ผ่านมาเสียค่าไฟเพียง 2,919 บาท
และจากการสังเกตของผู้สื่อข่าว พบว่า จุดที่ติดตั้งมิเตอร์ไฟไม่ใช่บ้านคนแต่เป็นโครงการหมู่บ้านจัดสรรที่ยังไม่มีสำนักงาน โดยไฟฟ้าที่ใช้เป็นการขอใช้ชั่วคราวเพื่อให้คนงานได้ทำงาน เช่น ตัดเหล็ก เชื่อมเหล็ก และยังได้รับการเปิดเผยจากชาวบ้านในพื้นที่ว่าตั้งแต่รัฐบาลออก พ.ร.ก.ฉุกเฉิน คนงานในไซต์งานก็ไม่ได้ทำงานมากว่า 3 สัปดาห์แล้ว
อย่างไรก็ดี หลังเกิดเหตุเจ้าหน้าที่จากบริษัทที่รับงานจากการไฟฟ้าพานทอง ได้เดินทางเข้าพบ นายชัยมงคล พร้อมนำเจ้าหน้าที่ซึ่งทำการจดมิเตอร์ไฟฟ้า เข้าขอโทษต่อนายชัยมงคล พร้อมอ้างว่าในวันและเวลาดังกล่าวเป็นช่วงเที่ยงวันจึงทำให้มองหน่วยค่าไฟผิดพลาด ทั้งที่ในความเป็นจริงแล้วค่าไฟฟ้าประจำเดือน เม.ย.ของร้านดังกล่าวคิดเป็นหน่วยหน่วยได้ 1,334.000 แต่พนักงานได้จดเลข 3 เพิ่มมาอีกตัว จึงกลายเป็น 13,334.000
และสามารถเปลี่ยนหน่วยงานใช้งานจากหลักพันเป็นหลักหมื่นได้ในพริบตา ผลที่ตามมาคือ ยอดค่าใช้ไฟฟ้าที่พุ่งไปถึง 83,535.80 บาท
ทั้งนี้ ตัวแทนจากบริษัทซึ่งรับงานจากการไฟฟ้าพานทอง อ้างว่าการกระทำผิดของพนักงานจะต้องมีบทลงโทษตามกฎของบริษัทคือ การลดเบี้ยขยัน และจะหักค่าแรง 500 บาท และในเดือนนี้จะพิจารณาว่าควรให้พนักงานรายดังกล่าวหยุดพักงานหรือไม่
ด้าน นายชัยมงคล ได้กล่าวฝากไปยังเจ้าหน้าที่การไฟฟ้าว่า การปฏิบัติหน้าที่จะต้องพิจารณาเรื่องต่างๆ ให้ถี่ถ้วนโดยเฉพาะการจดมิเตอร์ไฟ เพราะหากเป็นตาสีตาสา หรือคนแก่ที่ไม่รู้เรื่องราวหากเจอเหตุการณ์เช่นตนเองจะทำอย่างไร เพราะแม้แต่ตนเองยังตกใจจนแทบช็อกและหากเป็นคนแก่ก็อาจตกใจจนเสียชีวิตได้