นครสวรรค์ - ตำรวจตามรวบคาเทศบาลลาดยาว..ผู้กำกับเก๊ ชอบแต่งเครื่องแบบตำรวจยศ พ.ต.อ. แถมติดเข็มพระราชทาน ขับรถหรูจีบสาวจนเชื่อ-รอไปสู่ขอหมั้นหมายและแต่งงาน แต่เพื่อนสงสัยส่งรูปตรวจสอบจนเรื่องแดง
วันนี้ (20 เม.ย.) พล.ต.ท.อภิชาต ศิริสิทธิ์ ผบช.ภ.6 พร้อมด้วย พล.ต.ต.สุกฤษฎิ์ บุญทรง ผบก.ภ.นครสวรรค์ รวมถึงเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนทั้งจากภูธรจังหวัด และตำรวจ สภ.ลาดยาว ร่วมกันแถลงผลการจับกุมตัว นายกฤตภาส หรือกิต อำภูธร อายุ 50 ปี ชาว ต.ลาดแค อ.ชนแดน จ.เพชรบูรณ์ ผู้ต้องหาแต่งเครื่องแบบตำรวจโดยไม่มีสิทธิ มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนไว้ในความครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต และพาอาวุธปืนติดตัวไปในเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาต
หลังเจ้าหน้าที่สามารถจับกุมตัวผู้ต้องหาได้ที่บริเวณสำนักงานเทศบาลตำบลลาดยาว อ.ลาดยาว จ.นครสวรรค์ ขณะขับรถเบนซ์ รุ่น E250 สีขาว ติดป้ายทะเบียนปลอม สว 7667 กรุงเทพมหานคร มาหาเพื่อนสาว และจากการตรวจค้นภายในรถพบอาวุธปืนพกสั้นขนาด 11 มม.ยี่ห้อ Glock30 บรรจุกระสุนภายในแมกกาซีน 6 นัด จึงยึดไว้ตรวจสอบ
นอกจากนี้ยังได้ขยายผลไปตรวจสอบห้องเช่าแห่งหนึ่งในพื้นที่หมู่ 6 ต.ลาดยาว พบเครื่องแบบข้าราชการตำรวจกากีแขนยาว พร้อมหมวก รองเท้าแก้ว 1 ชุด โดยที่ชุดมีการติดยศพันตำรวจเอก และติดเข็มพระราชทาน พระรูป พระเจ้าหลานยาเธอ พระองค์เจ้าทีปังกรรัศมีโชติ เอาไว้ด้วย
สำหรับพฤติกรรมของผู้ต้องหารายนี้ ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจภูธรภาค 6 ได้รับเบาะแสว่านายกฤตภาสซึ่งมีพฤติการณ์ชอบแอบอ้างตนเองเป็นตำรวจระดับผู้กำกับการ และมักจะชอบแต่งกายในเครื่องแบบเต็มยศไปอวดโฉมตามที่ต่างๆ รวมถึงยังไปหลอกลวงหญิงสาวรายหนึ่ง ระบุตัวตนนอกจากจะเป็นตำรวจยศใหญ่ระดับมีเข็มพระราชทานแล้วยังมีอาชีพทำรับเหมาก่อสร้างด้วย จนหญิงสาวรายนั้นหลงเชื่อและเตรียมให้ฝ่ายชายมาทำพิธีหมั้นสู่ขอเพื่อแต่งงานกันในเร็วๆ นี้
แต่เนื่องจากเพื่อนผู้ร่วมงานของหญิงสาวคนดังกล่าวเกิดความสงสัยเพราะดูมีพิรุธหลายอย่าง จึงได้ก๊อปปี้ภาพของนายกฤตภาสที่โพสต์บนเฟซบุ๊กส่วนตัว พร้อมกับนำประวัติส่งไปให้ตำรวจภูธรภาค 6 ตรวจสอบ จึงพบความจริงว่า นายกฤตภาสไม่ได้เป็นตำรวจอย่างที่กล่าวอ้าง ถือเป็นการกระทำให้เสื่อมเสียต่อสำนักงานตำรวจแห่งชาติเป็นอย่างมาก จึงประสานตำรวจภูธร จ.นครสวรรค์ และตำรวจภูธรท้องที่ ให้ร่วมกันสืบสวนก่อนจะดำเนินการจับกุมตัว
สอบสวนในเบื้องต้นนายกฤตภาสให้การระบุว่าตนเองมีอาชีพรับเหมาก่อสร้าง มีบริษัทจดทะเบียนในนามอริสรากรุ๊ป จำกัด ได้เข้ามารับเหมาก่อสร้างในพื้นที่ อ.ลาดยาว จ.นครสวรรค์ นานหลายเดือนแล้ว และเนื่องจากตัวเองมีความใฝ่ฝันอยากเป็นตำรวจมาตั้งแต่เด็กแต่ไม่มีโอกาส ประกอบกับเห็นว่าชุดเครื่องแบบตำรวจน่าจะช่วยอำนวยความสะดวกให้แก่ตน ทั้งเรื่องธุรกิจรับเหมาก่อสร้าง การเดินทาง หรือแม้กระทั่งเอาไว้อวดเพื่อเกี้ยวพาราสีหญิงสาว จึงไปหาซื้อเครื่องแบบตำรวจมาใส่ พร้อมกับติดยศตั้งตนเป็นพันตำรวจเอกระดับผู้กำกับ และมักจะใส่ชุดตำรวจเดินทางไปทำงานเป็นประจำ แต่หากไม่ได้สวมใส่ก็จะเอาแขวนไว้ในรถ จะได้สะดวกเวลาเดินทางไปไหนแล้วเจอด่านตำรวจก็ใช้อวดอ้างเพื่อความสะดวกในการผ่านด่านฯได้
“เครื่องหมายตราสัญลักษณ์พระราชทานได้มาจากนายบุญเหลือ จันทร์ศร ซึ่งเขามีเครื่องหมายสัญลักษณ์ดังกล่าวอยู่ 2 อัน เขาเห็นว่าผมชอบจึงได้แบ่งให้มา 1 อัน เพื่อเก็บเอาไว้บูชา แต่ผมก็เอาเครื่องหมายสัญลักษณ์นี้มาติดไว้ที่ชุดตำรวจเพื่อหวังเพิ่มบารมี ซึ่งก็สามารถอวดอ้างว่ารู้จักคนใหญ่คนโตเยอะเพื่อสร้างความน่าเชื่อถือให้กับผู้ที่รู้จัก และในเร็วๆ นี้ ก็เตรียมจะทำพิธีไปสู่ขอหญิงสาวที่ชอบเพื่อขอแต่งงาน แต่สุดท้ายความดันมาแตกถูกจับกุมเสียก่อน”
อย่างไรก็ตาม ในระหว่างที่ตำรวจคุมนายกฤตภาสไปสอบปากคำ ปรากฏว่ามีบุตรสาวของเจ้าตัวรีบเดินทางมาที่โรงพักด้วยสีหน้าตื่นตกใจ สอบถามทราบว่ามีคนมาแจ้งข่าวว่าบิดาถูกจับในข้อหาแต่งกายเป็นตำรวจเก๊ไปหลอกแต่งงานกับหญิงสาว รู้สึกตกใจและแปลกใจที่ไม่เคยทราบว่าบิดามีพฤติกรรมแบบนี้มาก่อน ซึ่งบิดาได้หย่าร้างกับมารดามานานกว่า 5 ปี ถึงแม้จะเลิกกันแล้วแต่ก็ยังติดต่อไปมาหาสู่กันอยู่ ด้วยความห่วงใยจึงรีบลางานที่ทำอยู่ในอำเภอเมืองนครสวรรค์ แล้วรีบเดินทางมายังโรงพักที่บิดาถูกจับเพื่อประกันตัว