ศูนย์ข่าวเชียงใหม่ - โซเชียลมีเดียชื่นชมลุงฝรั่งชวนเพื่อนต่างชาติลงขันซื้อข้าวสารอาหารแห้งตั้งโต๊ะริมถนนคูเมืองเชียงใหม่ แจกคนเดือดร้อนโควิด-19 ขณะที่จังหวัดเชียงใหมเร่งจัดระเบียบแจกของต้องเข้มงวดเว้นระยะห่าง-จำกัดไม่เกิน 100 คน ลดเสี่ยงเชื้อ
วันนี้ (18 เม.ย. 63) รายงานจากจังหวัดเชียงใหม่แจ้งว่า จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ที่มีผู้เดือดร้อนจำนวนมากจากการต้องขาดรายได้หรือตกงาน อย่างไรก็ตาม ท่ามกลางช่วงเวลาเลวร้ายนี้ยังสะท้อนให้เห็นแง่มุมดีงามของผู้คนในสังคม ดังจะพบเห็นได้จากการที่มีผู้มีจิตศรัทธาจำนวนมากหยิบยื่นความช่วยเหลือให้แก่คนที่เดือดร้อนด้วยการแบ่งปันแจกจ่ายอาหาร และปัจจัยที่จำเป็นต่อการดำรงชีวิตประจำวันให้กันเป็นประจำทุกวันตามจุดต่างๆ ทั่วตัวเมืองเชียงใหม่
ล่าสุดผู้ใช้โซเชียลมีเดียต่างพากันแชร์โพสต์ของผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อ “Vatinee Noy” ที่โพสต์เรื่องราวพร้อมภาพและคลิปที่ชายชาวต่างชาติคนหนึ่งที่อาศัยอยู่ในเชียงใหม่ ทราบข่าวความเดือดร้อนของผู้คนจึงชักชวนเพื่อนฝูงชาวต่างชาติด้วยกันรวบรวมเงินซื้อข้าวสาร, ปลากระป๋อง, น้ำปลา และกะปิ นำไปตั้งจุดแจกจ่ายให้แก่ผู้เดือดร้อนบริเวณคูเมืองในตัวเมืองเชียงใหม่ โดยมีคนมาเข้าแถวรอรับเป็นจำนวนมาก เมื่อวานนี้ (17 เม.ย.) ซึ่งผู้ใช้โซเชียลมีเดียต่างยกย่องชื่นชมความมีน้ำใจของชายชาวต่างชาติและเพื่อนฝูงที่แสดงให้เห็นว่ามิตรภาพและน้ำใจนั้นเชื้อชาติและภาษาไม่ใช่ปัญหาอุปสรรคแต่อย่างใด
ขณะเดียวกัน รายงานข่าวแจ้งว่า จากการที่ปัจจุบันมีผู้มีจิตศรัทธาเป็นจำนวนมากที่ตั้งจุดแจกอาหารและความช่วยเหลือต่างๆ ให้กับผู้เดือดร้อนในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ โดยที่กลายเป็นการรวมกลุ่มคนจำนวนมากและไม่มีการจัดระเบียบมาตรการป้องกันการแพร่เชื้อไวรัสโควิด-19 โดยเฉพาะอย่างยิ่งกรณีล่าสุดที่มีคลิปภาพฝูงชนจำนวนมากวิ่งกรูกันเข้าไปรับอาหารและของบริจาคที่บริเวณลานประตูท่าแพ หรือกรณีชายหนุ่มที่นำเงินสดไปแจกคนเดือดร้อนที่บริเวณแยกรวมโชคในตัวเมืองเชียงใหม่ ทำให้หลายฝ่ายเกิดความกังวลใจอย่างยิ่งว่าเสี่ยงที่จะเกิดการแพร่เชื้อ เพราะไม่มีการเว้นระยะห่าง และมีการรวมตัวกันมากกว่า 100 คนนั้น ล่าสุดวานนี้ (17 เม.ย.) นายเจริญฤทธิ์ สงวนสัตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ ได้ลงนามหนังสือแจ้งถึงนายอำเภอ และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เรื่องการอำนวยความสะดวกสำหรับผู้มีจิตศรัทธาที่ต้องการบริจาคอาหารหรือสิ่งของช่วยเหลือ
ทั้งนี้ หนังสือดังกล่าวมีใจความว่า ให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นประสานงานกับผู้มีจิตศรัทธา และอำนวยความสะดวกนำไปมอบให้ผู้ที่ได้รับผลกระทบถึงครัวเรือนเพื่อไม่ต้องเป็นภาระในการเดินทางมารับ ในกรณีที่ผู้มีจิตศรัทธาต้องการมอบให้ด้วยตัวเอง ให้จัดหายานพาหนะและเจ้าหน้าที่นำไปมอบให้ที่ครัวเรือนของผู้ได้รับผลกระทบ หรือจัดเตรียมสถานที่และนัดหมายผู้ที่ได้รับผลกระทบให้กัแก่ผู้มีจิตศรัทธา โดยพื้นที่ดังกล่าวควรอยู่บริเวณที่พักของผู้ได้รับผลกระทบ และสามารถรองรับคนได้ตามมาตรการเว้นระยะห่าง และต้องปฏิบัติตามข้อปฏิบัติในการป้องกันโรค รวมทั้งต้องจำกัดจำนวนครั้งละไม่เกิน 100 คน ขณะเดียวกัน ให้ทำการสำรวจข้อมูลผู้ได้รับผลกระทบทั้งคนไทยและต่างด้าวเพื่อเป็นข้อมูลในการดำเนินการต่อไป
