ศูนย์ข่าวเชียงใหม่ - เจอตัวแล้ว! ลุงฝรั่งใจดีขนข้าวสารเต็มท้ายกระบะตั้งโต๊ะริมถนนคูเมืองเชียงใหม่ แจกคนเดือดร้อนโควิด-19 ภรรยาเผยเป็นอดีตทหารออสเตรเลีย เกษียณมาอยู่เชียงใหม่แล้ว 7 ปี ชวนเพื่อนต่างชาติลงขันซื้อของแจก หวังจุดประกายสังคม
จากกรณีผู้ใช้โซเชียลมีเดียที่เชียงใหม่ต่างพากันแชร์โพสต์ของผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อ “Vatinee Noy” ที่เมื่อวานนี้ (17 เม.ย. 63) ได้โพสต์เรื่องราวพร้อมภาพและคลิปที่ชายชาวต่างชาติคนหนึ่งที่อาศัยอยู่ในเชียงใหม่ ทราบข่าวความเดือดร้อนของผู้คนจึงชักชวนเพื่อนฝูงชาวต่างชาติด้วยกันรวบรวมเงินซื้อข้าวสาร, ปลากระป๋อง, น้ำปลา และกะปิ นำไปตั้งจุดแจกจ่ายให้แก่ผู้เดือดร้อนบริเวณคูเมืองในตัวเมืองเชียงใหม่ โดยมีคนมาเข้าแถวรอรับเป็นจำนวนมาก ซึ่งผู้ใช้โซเชียลมีเดียต่างยกย่องชื่นชมความมีน้ำใจของชายชาวต่างชาติและเพื่อนฝูงที่แสดงให้เห็นว่ามิตรภาพและน้ำใจนั้นเชื้อชาติและภาษาไม่ใช่ปัญหาอุปสรรคแต่อย่างใด
รายงานจากจังหวัดเชียงใหม่แจ้งว่า วันนี้ (18 เม.ย.) จากการสอบถามผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อ “Vatinee Noy” ทราบว่าคือ นางวาทินี นอย อายุ 48 ปี ชาวอำเภอหางดง จังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งเปิดเผยว่าชายชาวต่างชาติคนดังกล่าวคือนายเดวิด นอย (David Noy) อายุ 72 ปี ชาวออสเตรเลีย ผู้เป็นสามีของตัวเอง มาอาศัยอยู่ที่เชียงใหม่นานกว่า 7 ปีแล้ว ทั้งนี้ สิ่งที่ทำให้สามีเกิดความคิดที่จะนำข้าวสารและอาหารแห้งไปแจกนั้น เริ่มจากที่ได้ดูข่าวแล้วเห็นความเดือดร้อนของผู้คนที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 ทั้งข่าวที่มีคนต้องเอาครกสากไปจำนำเพื่อแลกเงินประทังชีพ หรือคนที่เดือดร้อนแต่กลับไม่ได้รับเงินเยียวยา 5,000 บาท ซึ่งแม้สามีจะไม่ได้ร่ำรวยและอาศัยกินเงินบำนาญ แต่เห็นว่ามีคนที่เดือดร้อนมากกว่า และตัวเองพอจะช่วยอะไรได้บ้าง แม้จะไม่มากก็ตาม
จากนั้นสามีจึงชักชวนกลุ่มเพื่อนชาวต่างชาติที่อยู่อาศัยในเชียงใหม่ ทั้งชาวอเมริกัน และชาวสวีเดน รวบรวมเงินลงขันกันนำไปซื้อของทั้งข้าวสารบรรจุถุงขนาด 5 กิโลกรัมประมาณ 100 ถุง, ปลากระป๋อง, ซีอิ๊ว, น้ำปลา และกะปิ แล้วนำไปแจกให้ผู้เดือดร้อน โดยที่ตัวเองและสามีเป็นตัวแทนนำไปตั้งโต๊ะแจกริมถนนรอบคูเมืองเชียงใหม่ตามที่โพสต์ลงในเฟซบุ๊ก นอกจากนี้ อีกส่วนหนึ่งได้มอบให้กับมูลนิธิที่ดูแลคนชราและเด็กยากไร้ไปด้วย ทั้งนี้ การที่นำของไปแจกนั้นไม่ได้มุ่งหวังอะไรมากไปกว่าการได้ช่วยเหลือคนที่เดือดร้อนให้อย่างน้อยยังพอประทังชีวิตอยู่ได้ และหวังว่าจะเป็นการจุดประกายให้คนอื่นๆ ที่พอจะมีศักยภาพช่วยกันหยิบยื่นความเหลือให้คนที่เดือดร้อนผ่านพ้นสถานการณ์วิกฤตินี้ไปได้ด้วยกัน
ขณะเดียวกัน นางวาทินีบอกว่า หลังจากที่ได้มอบสิ่งของช่วยเหลือให้แก่ผู้ที่เดือดร้อนแล้ว สามีบอกว่ารู้สึกมีความสุขใจอย่างมากที่ได้ช่วยเหลือคนอื่น และหากได้รับเงินบำนาญงวดต่อไปก็จะชักชวนเพื่อนฝูงชาวต่างชาติรวบรวมเงินลงขันกันนำไปซื้อของแจกให้แก่คนที่เดือดร้อนอีก แต่ในครั้งหน้าวางแผนว่าน่าจะนำออกไปแจกจ่ายในพื้นที่รอบนอกตัวเมืองเชียงใหม่ เพื่อเป็นการกระจายความช่วยเหลือให้ทั่วถึงที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ อย่างไรก็ตาม สามีปฏิเสธที่จะให้สัมภาษณ์ใดๆ เพราะตั้งใจทำเนื่องจากต้องการช่วยเหลือผู้คนเท่านั้น ไม่ได้หวังจะเป็นข่าวแต่อย่างใด