นครสวรรค์ - ทั้งภัยแล้งกระหน่ำข้ามปีข้าวแห้งตายคานาไม่พอ หันไปรับจ้างโดนพิษโควิดระบาดถูกเลิกจ้างอีก.. ชาวนาชุมแสงต้องขนเครื่องรถไถเดินตามคู่ชีพจำนำแบบลืมไถ่ถอนจนแทบล้นโรงตึ๊งแล้ว บางรายแม้แต่เครื่องนวดไฟฟ้าก็ต้องขอจำนำด้วย
ขณะนี้บริเวณตั้งแต่ปากทางประตูไปจนถึงซอกหลืบบันได โกดังเก็บของรับจำนำของสถานธนานุบาลเทศบาลเมืองชุมแสง จ.นครสวรรค์ เต็มไปด้วยหัวเครื่องรถไถเดินตาม รวมกันเกือบ 100 เครื่อง จนแทบจะเต็มพื้นที่ของสถานธนานุบาลเทศบาลเมืองชุมแสง หรือโรงรับจำนำในพื้นที่ อ.ชุมแสง หลังมีรายงานว่าสถานธนานุบาลหรือโรงรับจำนำที่นี่ มีผู้นำเครื่องรถไถแบบหัวลากมาจำนำกันเป็นจำนวนมาก มีเกษตรกรที่ประสบกับปัญหาภัยแล้งมายาวนานตั้งแต่ปีที่แล้วมาจนถึงปีนี้ หนำซ้ำเมื่อต้องปรับเปลี่ยนอาชีพแล้วหันไปหางานรับจ้างชั่วคราวตามที่ต่างๆ ก็ต้องมาได้รับผลกระทบจากปัญหาการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 จนทำต้องถูกยกเลิกจ้างงานอีก
นอกจากจะทำให้ขาดรายได้แล้ว เงินที่เหลือเก็บก็ต้องเอามาใช้จ่ายในชีวิตประจำวันและเลี้ยงครอบครัว จนกระทั่งเงินเก็บหมด จึงต้องจำเป็นนำสิ่งของมีค่าไปจำนำเพื่อนำมาไว้ใช้จ่าย โดยที่ยังไม่รู้ว่าทั้งปัญหาภัยแล้งและการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 จะคลี่คลายลงเมื่อไหร่แน่
นางเปรมจิตต์ ชูเลิศ ผู้จัดการสถานธนานุบาลเทศบาลเมืองชุมแสง เปิดเผยว่า ปีนี้ทางสถานธนานุบาลได้เตรียมสำรองเงินทุนไว้กว่า 72 ล้านบาท รองรับบริการผู้ที่เดือดร้อนต้องนำของมาจำนำ คิดดอกเบี้ยในอัตราร้อยละ 0.125 บาท สำหรับเงินต้นไม่เงิน 5,000 บาท แต่หากเงินต้นเกิน 5,000 จะคิดดอกเบี้ยในอัตราร้อยละ 1 บาท
โดยข้าวของที่ชาวบ้านผู้เดือดร้อนมักจะเอามาจำนำกันมากที่สุดจะเป็นทองรูปพรรณ รองลงมาก็เป็นเครื่องรถไถ และเครื่องใช้ไฟฟ้า แต่ก็พบด้วยว่ายังมีชาวบ้านบางรายนำสิ่งของอย่างอื่นที่ไม่รับจำนำมาขอจำนำ ซึ่งทางเราก็เข้าใจถึงความเดือดร้อนจึงรับจำนำไว้ อย่างเช่นวันนี้ก็มีชาวบ้านนำเครื่องนวดไฟฟ้ามาจำนำ เราก็รับจำนำในราคา 200 บาท อย่างน้อยก็เป็นการช่วยบรรเทาความเดือดร้อนให้แก่พวกเขาไปก่อน
ส่วนการจำนำเครื่องรถคันไถนั้น เป็นเพราะเกษตรกรทั้งในพื้นที่ อ.ชุมแสง และ อ.ใกล้เคียง ต่างต้องประสบกับปัญหาภัยแล้งมาอย่างยาวนาน หลายรายต่างลงทุนทำนาแต่ก็ไม่สามารถเก็บเกี่ยวผลผลิตได้ เพราะขาดน้ำจนต้นข้าวยืนต้นแห้งตาย หมดเงินที่ลงทุนไปมากมาย ก็ต้องนำของมีค่าอย่างเช่นทองรูปพรรณมาจำนำเพื่อนำมาเป็นเงินทุนสำรองไว้เลี้ยงชีพ และหันไปหาทำกินอย่างอื่นชั่วคราว แต่ก็ไม่วายต้องมาได้รับผลกระทบกับปัญหาการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 จนทำให้ขาดรายได้อีก
เมื่อของที่เคยเอามาจำนำแล้วยังไม่ได้ไถ่คืน แถมยังต้องหาเงินมาต่อดอกทุกเดือน รวมถึงยังต้องมีค่าใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน จึงทำให้พวกเขาเหล่านั้นไม่มีทางเลือก ต้องนำเครื่องมือการเกษตรที่ใช้เลี้ยงชีพอย่างเครื่องรถไถเดินตามมาจำนำ เพื่อนำเงินมาใช้จ่ายในช่วงที่ขาดรายได้ โดยทางสถานธนานุบาลจะรับจำนำไว้ในราคาตั้งแต่ 9,000 บาทขึ้นไป ตามสภาพความเก่าใหม่และขนาดความแรงของเครื่องยนต์ แต่ไม่เกิน 20,000 บาท และมีกำหนดไถ่คืนเครื่องละไม่เกิน 4 เดือน เนื่องหากรับจำนำไว้นานกว่านี้จะทำให้สถานที่ไม่มีที่เก็บ เพราะขณะนี้ได้รับจำนำเครื่องรถไถไว้รวมกันถึง 96 เครื่องแล้ว