อุบลราชธานี - หนุ่มกุลีรับจ้างแบกข้าวสารอ้างเครียดลงทะเบียนรับเงินเยียวยา 5,000 บาทไม่ผ่าน ตอนแรกหาที่แขวนคอแต่พระมาเจอไล่กลับบ้าน เดินผ่านหนองน้ำเตรียมกระโดดน้ำหวังฆ่าตัวตายซ้ำ แต่กู้ภัยตำรวจมาพบนำตัวไปสงบสติอารมณ์ก่อนปล่อยตัวกลับ
เมื่อช่วงค่ำวันที่ 14 เม.ย.ที่ผ่านมา ร.ต.อ.วิชัย โคตรหลักคำ รองสารวัตรป้องกันปราบปราม สภ.เมืองอุบลราชธานี พร้อมเจ้าหน้าที่กู้ภัยช่วยกันวิ่งไล่จับนายสมบูรณ์ (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 50 ปี ที่พยายามกระโดดน้ำฆ่าตัวตายในอ่างเก็บน้ำห้วยวังนอง ต.ปทุม อ.เมืองอุบลราชธานี และช่วยกันดึงลากเอาตัวนายสมบูรณ์มาสงบสติอารมณ์ที่สถานีตำรวจ
จากการสอบถามนายสมบูรณ์เล่าถึงสาเหตุที่พยายามกระโดดน้ำฆ่าตัวตายครั้งนี้เนื่องจากตนมีอาชีพรับจ้างแบกข้าวสารอยู่ที่โรงสีแห่งหนึ่ง มีรายได้เป็นรายวันจากการรับจ้างแบกข้าวสารวันละ 300-400 บาท โดยพักอาศัยอยู่กับแม่ยาย ลูกเขย ลูกสาว และภรรยา รวม 5 คน ที่ผ่านมาตนได้รับความช่วยเหลือจากรัฐบาลเป็นเงินผู้พิการทางการเคลื่อนไหวเดือนละ 800 บาท
ต่อมาเริ่มได้รับผลกระทบจากการระบาดของโรคโควิด-19 มีงานให้ทำเป็นบางวัน ทั้งครอบครัวจึงได้พากันลงทะเบียนขอรับเงินเยียวยา 5,000 บาทจากรัฐบาลในฐานะผู้ประกอบอาชีพอิสระ เพื่อจะได้นำมาเป็นค่าใช้จ่าย ค่าเช่าบ้าน ค่าน้ำ ค่าไฟ ค่างวดรถ และหนี้สินที่มีอยู่ตั้งแต่วันที่ 8 เมษายน
หลังลงทะเบียนไปแล้วระบบแจ้งว่าไม่ผ่าน ทำให้ตนรู้สึกเครียดมากกับค่าใช้จ่ายที่มีอยู่ ไม่รู้จะหาเงินที่ไหนมาใช้จ่าย
จึงได้เดินไปด้านหลังวัดแถวบ้านเพื่อผูกคอตาย แต่มีพระมาพบจึงไล่ให้กลับบ้าน จากนั้นตนก็เดินออกมากระโดดน้ำฆ่าตัวตายบริเวณอ่างเก็บน้ำห้วยวังนอง จนมีเจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยและตำรวจเข้ามาช่วย
หลังเจ้าหน้าที่พูดคุยสอบถามนายสมบูรณ์จนสงบสติอารมณ์ลงได้ จึงได้มอบเงินให้ไปใช้จ่าย 500 บาท ก่อนให้กลับบ้านก่อนถึงเวลาเคอร์ฟิว