xs
xsm
sm
md
lg

วิน จยย.รับจ้างพ้อ รับลูกค้าได้แค่ค่าข้าว ไม่กลัวไวรัสแล้วแต่กลัวอดตายมากกว่า

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์

นครปฐม - กลุ่มผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์รับจ้าง นครปฐม พ้อรายได้หดเหลือเพียงขี่รถแลกข้าวมื้อต่อมื้อ ลงทะเบียนเยียวยาไปแล้ว 70 คน ได้มาเพียง 3 คน หวั่นรถถูกยึดเพราะเงินจะกินยังไม่มี วอนรัฐเร่งตรวจสอบก่อนที่จะเป็นปัญหาอื่นตามมา โดยหมดกำลังใจกับอาชีพ พ้อไม่กลัวติดเชื้อไวรัสแต่กลัวอดตายมากกว่า

วันนี้ (14 เม.ย.) ผู้สื่อข่าวออกติดตามการลงทะเบียนรับการเยียวจากรัฐบาล ในโครงการ www.เราไม่ทิ้งกัน.com ในพื้นที่จังหวัดนครปฐม หลังได้รับแจ้งว่าที่ท่ารถจักรยานยนต์รับส่งผู้โดยสารท่านา-นครชัยศรี สี่แยกตลาดท่านา อ.นครชัยศรี จ.นครปฐม ยังมีผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์รับจ้างกว่า 70 คน ยังไม่ได้รับสิทธิในการได้เงินเยียวยาเดือนละ 5,000 บาท หลังจากมีการเปิดให้ลงทะเบียนผ่านเว็บไซต์ www.เราไม่ทิ้งกัน.com และกำลังมีกระแสถึงปัญหาในการลงทะเบียน รวมถึงการยังไม่ได้รับสิทธิและปฏิเสธการได้รับสิทธิทั่วประเทศจนเกิดกระแสความไม่พอใจของผู้เดือดร้อนในขณะนี้


จากการสำรวจ พบว่า บริเวณดังกล่าวเป็นสี่แยกใหญ่อยู่ทางเข้าตลาดท่านา ซึ่งเป็นชุนชนใหญ่และเก่าแก่ และเป็นจุดศูนย์รวมหลักของอำเภอนครชัยศรี ซึ่งพบว่าท่ารถจักรยานยนต์รับจ้างดังกล่าวมีผู้ขับขี่มาจอดรอรับผู้โดยสารอยู่ประมาณ 10 กว่าคัน แต่บรรยากาศเป็นไปอย่างเงียบเหงา มีผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์รับจ้างบางรายนอนเอาแรงกับพื้น บางรายกำลังนั่งติดตามข่าวสารของสถานการณ์ไวรัสโควิด-19 และค้นแนวทางในการประกอบอาชีพเสริมหรืออาชีพใหม่

ขณะที่ตั้งของท่ารถซึ่งเดิมเป็นร้านจำหน่ายรถจักรยานยนต์ ก็เพิ่งปิดตัวไปไม่กี่วันหลังจากรับสภาพของการแบกภาระต้นทุนไม่ไหว ซึ่งส่งผลให้รายได้ของผู้ประกอบอาชีพขับขี่รถจักรยานยนต์รับจ้างนั้นลดลงไปหลายเท่าตัว ตอนนี้มีผู้ขับขี่ถึง 40 รายจาก 70 ราย ถึงกับต้องหยุดทำงานเพราะออกมาแล้วไม่มีลูกค้าจึงเลือกที่จะอยู่บ้านเพื่อประหยัดรายจ่ายในสถานการณ์ล่าสุด


นายอนุวัต เณรทอง อายุ 54 ปี อยู่บ้านเลขที่ 12/11 ม.3 ต.บางแก้ว อ.นครชัยศรี บอกว่า ตนเองขับขี่รถจักรยานยนต์รับจ้างเป็นอาชีพหลัก ซึ่งวันนี้ประสบปัญหากับรายได้ที่ลดลงจนแทบไม่เหลือ เพราะจากรายได้ที่เคยมีเฉลี่ยวันละ 400 กว่าบาท หดหายเหลือเพียง 100 บาท หรือบางวันก็ไม่ถึง 100 บาทก็มี ซึ่งต้องแบ่งการทำงานแบบลุ้นทีละครึ่งวัน เช่น เช้าวันนี้ ได้รับลูกค้ามีเงิน 40 บาทก็เอาไปซื้อข้าวหมดแล้ว มาจอดรอคิวรับลูกค้าช่วงบ่ายอีกถ้าได้ถึง 40 บาทก็ถึงจะมีเงินไปซื้อข้าวกิน ไหนจะต้องดูแลพ่ออายุ 70 ปีที่บ้าน โดยตอนนี้ใช้วิธีขี่รถหาเงินกินข้าวเท่านั้น ส่วนเงินเก็บติดตัวมีไม่ถึง 1 พันบาท ถ้าไม่ออกมาเงินเก็บจะอยู่ไม่ถึง 5 วัน ต้องหมดแน่นอน ทุกวันนี้บางวันมีคนที่เอาข้าวไปบริจาคที่อื่นแล้วเหลือมาก็จะมาจอดรถเอามาแบ่งบ้าง โดยชีวิตตอนนี้หมดกำลังมีพลังแค่ออกมาหากินเท่านั้น ซึ่งตอนนี้ไม่กลัวติดเชื้อโควิด-19 แต่กลัวอดตายมากกว่า

นายอนุวัต บอกอีกว่า ตนเองได้ลงทะเบียนในการเยียวยาของรัฐบาลไปแล้วที่เว็บไซต์ www.เราไม่ทิ้งกัน.com ตั้งแต่วันที่ 30 มีนาคม แต่วันนี้ยังได้รับคำตอบว่าตรวจสอบสิทธิอยู่ และเพื่อนๆ ร่วมท่ารถได้มาคุยกัน ตอนนี้ 70 คน มีเพียง 3 คนที่ได้รับเงินแล้ว ส่วนที่เหลือก็เหมือนลอยคออยู่ว่าจะได้รับหรือไม่ เมื่อไหร่ ซึ่งขอบอกว่าระบบที่ให้ลงทะเบียนใช้ไม่ได้เลยแย่มาก และตั้งแต่มีสถานการณ์เกิดขึ้นก็ต้องมาต่อสู้กันเองไม่เคยมีหน่วยงานใดมาสอบถาม และต้องมานั่งรอว่าจะได้รับชื่อในการรับเงินเมื่อไหร่ เหมือนเป็นการรอการจับฉลากเพื่อให้ได้เงิน ใครได้บ้างไม่ได้บ้าง


“ผมมีชื่อลงทะเบียนถูกต้องยังไม่ได้เลย ตรวจสอบง่ายที่สุดแล้วแต่ก็ยังไม่ได้ และตอนนี้มองอะไรไม่เห็นเลยว่าจะไปทางไหน ขอให้รอดไปวันๆ กลัวที่สุดคืออด ไม่ได้กลัวติดโรคแล้ว วันนี้มาทำงานกันเพื่อค่าข้าว และค่าวินที่วิ่งที่นี่ถูกมาก 15-20 บาท วิ่งได้ 5 เที่ยวยังไม่พอเลย ยิ่งตอนนี้มีเคอร์ฟิวคนก็หายหมด 1 ทุ่มก็ไม่มีใครออกจากบ้านแล้ว อยากให้เจ้าหน้าที่ออกมาดูบ้าง บางคนที่ได้เงินไปแล้วที่ฟังมา มีแต่คนมีเงินทั้งนั้นที่ได้คุยกันมา” นายอนุวัต พูดปิดท้าย

โดยสถานการณ์ดังกล่าว ผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์รับจ้างได้เรียกร้องว่าตอนนี้พยายามดิ้นรนในการดำรงชีพด้วยการทำงาน โดยมีค่าผ่อนรถต่อคัน คือ 2-3 พันบาท และหลายคนก็ถึงช่วงชนงวดแล้ว โดยกำลังจะมีการเตรียมไปขอเจรจากับไฟแนนซ์ เพื่อให้ผ่อนผันซึ่งหลายรายไปคุยแล้วไม่สำเร็จก็ถูกยึดรถไปแล้ว และหากสถานการณ์เป็นแบบนี้และยังไม่ชัดเจนสำหรับผู้รอรับการเยียวยาอาจจะประสบปัญหาอื่นมากขึ้นตามมาเช่นกัน


กำลังโหลดความคิดเห็น