บรรยากาศทำบุญบังสุกุลอัฐิสงกรานต์วัดในจังหวัดนครปฐมเงียบเหงา

นครปฐม - บรรยากาศทำบุญอัฐิอุทิศส่วนกุศลให้บรรพบุรุษเงียบเหงา ทุกวัดในจังหวัดนครปฐมไม่มีการจัดงาน มีเพียงลูกหลานนำอาหารคาวหวาน ดอกไม้ประดับให้สวยงามตามสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ซึ่งหน่วยงานภาครัฐมีข้อห้ามไม่ให้วัดจัดกิจกรรมนอกจากกิจของสงฆ์

วันนี้ (14 เม.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศเนื่องในเทศกาลสงกรานต์ ประจำปี 2563 ซึ่งจะมีกิจกรรมหนึ่งในกิจกรรมหลักคือ การรวมกันของญาติพี่น้อง เพื่อทำบุญบังสุกุลอัฐิให้บรรพบุรุษที่ล่วงลับ และมีการทำความสะอาดหรือพัฒนาสถานที่เพื่อให้เกิดความสวยงามและนิมนต์พระภิกษุสงฆ์ เพื่อจะมาทำการสวดเจริญพระพุทธมนต์ และชักบังสุกุลอัฐิ ซึ่งกิจกรรมนี้เป็นประเพณีที่มีสืบสานกันมายาวนาน และเป็นหนึ่งในสัญลักษณ์ของการต้อนรับเทศกาลปีใหม่ของไทย

แต่สำหรับปีนี้ บรรยากาศในการจัดกิจกรรมในวัดต่างๆ ในจังหวัดนครปฐมต่างเงียบเหงาเนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ที่เกิดขึ้นทั่วทุกมุมโลก โดยปีนี้ในพื้นที่วัดต่างๆ ในจังหวัดนครปฐม ได้มีการปฏิบัติตามหนังสือ ที่ พศ 0006/03432 เมื่อวันที่ 10 เมษายน 63 ที่ลงนามโดย นายสิปป์บวร แก้วงาม ผู้ตรวจราชการ ปฏิบัติราชการแทนผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ที่มติมหาเถรสมาคม ให้ทุกวัดงดการจัดกิจกรรมทุกประเภทยกเว้นการจัดกิจของสงฆ์ ซึ่งทำให้ทุกวัดไม่มีการจัดงานในเทศกาลสงกรานต์ทุกวัดตามมติ ซึ่งเป็นช่วงที่ประชาชนต่างไม่เดินทางข้ามพื้นที่ต่างจังหวัดกันมากนัก ไม่มีการรวมตัวของกลุ่มเครือญาติภายในสถานที่วต่างๆ โดยเป็นครั้งแรกที่เกิดสถานการณ์ที่ไม่มีการสืบสานตามประเพณีดังที่เคยปฏิบัติสืบต่อกันมาอย่างยาวนาน

โดยที่วัดไผ่ล้อม ต.พระปฐม อ.เมือง จ.นครปฐม ที่บรรจุอัฐิของผู้ล่วงลับที่มีการบรรจุไว้ที่กำแพงวัดและกำแพงพระอุโบสถ ไม่พบการนิมนต์พระสงฆ์มาเพื่อสวดบังสุกุลอัฐิ บรรยากาศเป็นไปอย่างเงียบสงบ มีเพียงบางครอบครัวที่ได้เดินทางมาเพื่อนำดอกไม้ธูปเทียนและนำอาหารคาวหวานและผลไม้มากราบไหว้บรรพบุรุษอย่างเรียบง่ายและมีการนำดอกไม้มาจัดตั้งที่หน้าช่องบรรจุอัฐิ เพื่อให้เกิดความสดชื่นแก่ผู้ล่วงลับ โดยมีการเดินทางมาเพียง 1-2 คนเท่านั้น

ส่วนที่วัดบางพระ (หลวงพ่อเปิ่น) ต.บางแก้วฟ้า อ.นครชัยศรี พบว่าไม่ได้มีการจัดงานใดๆ โดยศาลาที่มีการจัดให้มีการทำบุญบังสุกุลได้มีการปิดทำการไม่รับจัดงานในวันนี้ ส่วนที่กำแพงพระอุโบสถที่บรรจุอัฐิ ไม่มีการรวมตัวหรือมีญาติ หรือบุตรหลานมาประกอบพิธี

สุดท้ายที่วัดบางแก้ว อ.นครชัยศรี ซึ่งเป็นวัดเก่าแก่ริมแม่น้ำนครชัยศรี ซึ่งปกติช่วงเช้าจะมีการจัดตลาดนัดช่วงเช้าก็ได้มีการยุติการจัดไปแล้วก่อนหน้า โดยที่บรรจุอัฐิ ริมกำแพงพระอุโบสถ พบว่าเงียบเหมาเช่นกันมีบางครอบครัวนำดอกไม้มาวางไว้ที่ยอดเจดีย์ทองคำ และมีบางครอบครัวเป็นคุณพ่อมากับลูกชายเพื่อมาทาสีให้แก่เจดีย์บรรจุอัฐิบรรพบุรุษ โดยเป็นการมาทำบุญอย่างเรียบง่ายในช่วงสถานการณ์นี้

โดย พระพงษ์สิน หรือหลวงตา พระลูกวัดบอกว่า ก่อนหน้าวันที่ 12-13 เมษายน ก็มีมาทำบุญ 2-3 ราย แต่มาวันนี้แทบไม่มีคนมาทำบุญบังสุกุลเลย ซึ่งส่วนหนึ่งทราบข่าวมาว่าทางการไม่ให้ทางวัดจัดงาน และรวมตัวโดยกลัวว่าจะมีเจ้าหน้าที่มาซุ่มดูและถูกจับก็ไม่กล้ามา ซึ่งไม่เคยเจอแบบนี้มาก่อนเลยแต่ก็เป็นไปตามสถานการณ์บ้านเมืองที่จะต้องเป็นไปตามกลไก ซึ่งตรงนี้วัดก็ปฏิบัติตามหลักการที่หน่วยงานราชการสั่งการมา