สุโขทัย - คณะกรรมการโรคติดต่อฯ สุโขทัย ออกประกาศฉบับใหม่ ขยายเวลาคุมเข้มสกัดโควิดถึงสิ้นเดือนเมษาฯ-สั่งทุกคนใส่มาสก์ก่อนออกนอกบ้าน ขู่ฝ่าฝืนมีสิทธิ์โดนปรับสูงถึง 2 หมื่น
วันนี้ (13 เม.ย.) นายไมตรี ไตรติลานันท์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสุโขทัย เป็นประธานประชุมคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดสุโขทัย ครั้งที่ 11/2563 และคณะอำนวยการศูนย์ปฏิบัติการฉุกเฉินด้านการแพทย์และสาธารณสุข กรณีโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ซึ่งขณะนี้มีผู้ป่วยเป็น 0 แล้ว
ที่ประชุมมีมติสำคัญ คือ ให้ทุกคนที่อยู่ในจังหวัดสุโขทัยได้สวมใส่หน้ากากตลอดเวลาที่ออกจากบ้าน เพราะหน้ากากอนามัย หรือหน้ากากผ้า สามารถป้องกันการแพร่กระจายของโรคติดต่อทางเดินหายใจได้มากมาย ไม่ว่าจะเป็นโรคไข้หวัดธรรมดา ไปจนถึงเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 โรคไข้หวัดใหญ่ ไข้หัด คออักเสบ ปอดบวม ปอดอักเสบ หลอดลมอักเสบ และโรคติดต่อจากเชื้อไวรัสผ่านการไอและจาม
นอกจากจะเป็นโรคที่ติดต่อกันผ่านการไอ จาม ละอองน้ำลายเข้าสู่จมูกหรือปากโดยตรงแล้ว การไอจามใส่มือแล้วเอามือไปจับต้องของสาธารณะ เช่น ที่โหนรถเมล์ ราวบันได ปุ่มลิฟต์ ฯลฯ ก็ทำให้เกิดการแพร่เชื้อจากคนสู่คนได้อีกทางหนึ่งด้วย ฉะนั้นจึงควรสวมหน้ากากอนามัยออกจากบ้านทุกครั้ง เพื่อลดการแพร่กระจายของเชื้อโรค
นอกจากนี้ จังหวัดสุโขทัยยังมีประกาศฉบับที่ 9 เรื่อง มาตรการเร่งด่วนป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ลงวันที่ 13 เมษายน พ.ศ. 2563 กำหนดให้ร้านอาหาร เปิดเฉพาะการจำหน่ายอาหารเพื่อนำกลับไปบริโภคที่อื่น สามารถเปิดให้บริการได้ตั้งแต่เวลา 04.00 น. และให้ปิดให้บริการในเวลา 22.00 น.ของทุกวัน
ร้านสะดวกซื้อ ร้านค้าสินค้าจำเป็นต่อการดำรงชีวิต ร้านยา สถาบันการเงิน ร้านโทรศัพท์มือถือ ร้านขายของชำ ร้านค้าทั่วไป สามารถเปิดให้บริการได้ตั้งแต่เวลา 04.00 น. และให้ปิดให้บริการในเวลา 22.00 น.ของทุกวัน
ขยายระยะเวลาการบังคับใช้ประกาศจังหวัดสุโขทัย (ฉบับที่ 8) ลงวันที่ 10 เมษายน พ.ศ. 2563 กรณีการห้ามจำหน่าย จ่าย แจก หรือแลกเปลี่ยน สุรา สุราแช่ สุรากลั่น หรือเครื่องดื่มที่ผสมแอลกอฮอล์ทุกประเภท ในเขตพื้นที่จังหวัดสุโขทัย และกรณีห้ามผู้ใดดื่มสุรา สุราแช่ สุรากลั่น หรือเครื่องดื่มที่ผสมแอลกอฮอล์ ภายนอกเคหสถานโดยเด็ดขาด จนถึงวันที่ 30 เมษายน 2563
ผู้ฝ่าฝืนต้องระวางโทษตาม พ.ร.บ.โรคติดต่อ พ.ศ. 2558, ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 368 และ/หรืออาจมีคมามผิดตามมาตรา 18 พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ ส่วนกรณีไม่สวมหน้ากากครั้งแรกจะมีการตักเตือนก่อน แต่ถ้าบังคับใช้มา 2-3 วันแล้วก็คงต้องบังคับใช้กฎหมาย ซึ่งมีรายงานว่าอาจจะมีโทษปรับ 200-20,000 บาทด้วย
หลังจากการประชุม ผู้ว่าราชการจังหวัดสุโขทัยพร้อมด้วยหน่วยงานเกี่ยวข้อง ได้เดินทางไปยังโรงแรมสุโขทัยแกรนด์ รีสอร์ทแอนด์สปา ซึ่งเป็นสถานที่กักตัวเฝ้าระวังของรัฐในจังหวัดสุโขทัย เพื่อตรวจเยี่ยมการทำงานของเจ้าหน้าที่ พร้อมพูดคุยสอบถามให้กำลังใจผู้ที่กลับมาจากต่างประเทศที่มากักตัวเฝ้าดูอาการ 14 วัน
จากการพูดคุยและสอบถามเจ้าหน้าที่ที่ดูแลทั้ง 17 คน ซึ่งทุกคนมีอาการปกติดี มีบางรายที่รู้สึกกังวลบ้าง เมื่อกักตัวครบ 14 วันแล้วกลับไปอยู่บ้านเกรงเพื่อนบ้านจะไม่เข้าใจและรังเกียจ ซึ่งผู้ว่าฯบอกว่าอย่าได้กังวลในเรื่องนี้ เพราะทางจังหวัดจะมีการทำความเข้าใจกับคนในชุมชนให้ และมีใบรับรองจากทางราชการออกให้ด้วย
ทั้งนี้ จังหวัดสุโขทัยได้จัดเตรียมสถานที่กักตัวกลุ่มเสี่ยง หรือกลุ่มที่ต้องเฝ้าดูอาการจากการแพร่ระบาดของ COVID-19 ไว้แล้ว 3 แห่ง คือ โรงแรมสุโขทัยแกรนด์รีสอร์ทแอนด์สปา โรงแรมไพลินสุโขทัย และค่ายลูกเสือรามคำแหงสุโขทัย