น่าน - เมืองน่านเดินหน้ามาตรการสกัดโควิด-19 เข้มทุกมิติป้อง จว.ปลอดเชื้อ..ตั้งด่านสกัดทุกเส้นทางเข้าออก คนมาต้องกักตัว สินค้าต้องถ่ายลำ
“เมืองน่าน” ยังคงเดินหน้าสกัดกั้นการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 อย่างเข้มข้น จนเป็นจังหวัดหนึ่งเดียวในภาคเหนือตอนบนที่ยังเป็นจังหวัดปลอดเชื้อจนถึงวันนี้ (10 เม.ย.) ซึ่งคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดฯ ได้มีคำสั่งระงับการเดินทางเข้าจังหวัดน่านเป็นการชั่วคราวบริเวณรอยต่อจังหวัดใกล้เคียง 3 จุด คือ ทล.101 จังหวัดแพร่ ถึงจังหวัดน่าน กม.310+800 บริเวณด่านห้วยน้ำอุ่น ประตูทางเข้าออกหลักของจังหวัดน่าน, ทล.1091 จังหวัดน่าน ถึงจังหวัดพะเยา กิโลเมตรที่ 79+650 บริเวณด่านบ้านหลวง และ ทล.1148 จังหวัดน่าน ถึงจังหวัดพะเยา กม.ที่ 65+177 ตั้งแต่ 5-30 เม.ย. เพื่อลดการแพร่ระบาดของโรคเข้าสู่จังหวัดน่าน
นายสัมฤทธิ์ สวามิภักดิ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดน่าน ย้ำว่าคำสั่งฉบับดังกล่าวต้องการห้ามบุคคลเข้าจังหวัดเป็นสำคัญ เว้นแต่บางกรณี เช่น เพื่อการปฏิบัติงานด้านการแพทย์ การธนาคาร การขนส่งสินค้าอุปโภคบริโภค ผลผลิตทางการเกษตร ยา เวชภัณฑ์เครื่องมือแพทย์ หนังสือพิมพ์ การขนส่งน้ำมันเชื้อเพลิง การขนส่งพัสดุภัณฑ์ การขนส่งสินค้าเพื่อการนำเข้าหรือส่งออก การขนย้ายประชาชนไปส่งที่เอกเทศเพื่อกักตัวตามกฎหมายว่าด้วยโรคติดต่อ การขนส่งสินค้าอุปโภคบริโภค อุปกรณ์ทางการแพทย์ ไปรษณีย์ ยานพาหนะทางราชการ โดยผู้ใช้เส้นทางต้องผ่านการตรวจคัดกรองตามมาตรฐานการป้องกันโรคที่ทางราชการกำหนด
ส่วนประชาชนที่พักอาศัยประจำอยู่ในจังหวัดน่าน แต่ได้เดินทางออกนอกเขตจังหวัดน่าน และต่อมามีความจำเป็นต้องกลับเข้ามาในจังหวัดน่านในช่วงของการประกาศห้าม ก็ต้องผ่านการตรวจคัดกรองตามมาตรฐานการป้องกันโรคและกักตัวอยู่ภายในบ้านหรือที่พักของตนเป็นเวลา 14 วันตามมาตรฐานการป้องกันโรคที่ทางราชการกำหนด และต้องรายงานการกักตัวให้เจ้าหน้าที่ควบคุมโรคทราบตลอดระยะเวลาของการกักตัว
นายสัมฤทธิ์กล่าวว่า หลังการประกาศใช้คำสั่งระงับการเดินทางเข้าจังหวัดน่านเป็นการชั่วคราว พบว่ามีปัญหาในทางปฏิบัติบ้างบางประการ โดยเฉพาะเรื่องการพิจารณาตัดสินการอนุญาตให้เข้าจังหวัดน่านในหลายกรณี เช่น การขอนำรถเข้ามาค้าขาย หรือรับซื้อผลิตผลทางการเกษตรของผู้ประกอบการรายย่อย, การขอกลับเข้าบ้านของคนที่ออกไปทำงานต่างจังหวัด, การขนส่งสินค้าที่ไม่มีเอกสารยืนยันการนำส่งสินค้า หรือการนำรถเปล่าพร้อมบรรทุกคนเข้ามาเพื่อขอเข้าไปรับซื้อผลิตผลทางการเกษตรในพื้นที่ ทำให้เจ้าหน้าที่ประจำด่านตรวจอาจตัดสินวินิจฉัยคลาดเคลื่อนได้
ต่อมา นายวรกิตติ ศรีทิพากร ผู้ว่าราชการจังหวัดน่าน จึงได้เรียกประชุมหลายฝ่ายที่เกี่ยวข้อง ประกอบด้วย ฝ่ายปกครอง การคมนาคมขนส่งการพาณิชย์ สินค้าเกษตร สินค้าอุปโภคบริโภค เพื่อให้ร่วมกันกำหนดหลักเกณฑ์ รายละเอียดเงื่อนไขการอนุญาตเข้าจังหวัดของแต่ละหน่วยที่รับผิดชอบ เพื่อใช้เป็นหลักเกณฑ์สำหรับการพิจารณาของด่านตรวจคัดกรอง นอกเหนือจากการตรวจคัดกรองด้านสุขภาพของเจ้าหน้าที่สาธารณสุขที่ดำเนินการร่วมกับฝ่ายปกครองในพื้นที่อยู่แล้ว ทั้งนี้เพื่อไม่ให้เกิดผลกระทบการขาดแคลนสินค้าอุปโภค บริโภคที่จำเป็นต่อประชาชน และให้เป็นไปตามหลักการของคำสั่งจังหวัดน่านด้วย
ที่ประชุมได้มีมติมอบหมายให้นายอำเภอพื้นที่ด่านตรวจแต่ละด่านตรวจของจังหวัดน่านเป็นผู้วินิจฉัย จากสาเหตุความจำเป็นในการขอเข้าจังหวัดน่านเป็นรายกรณี และเมื่อได้รับการอนุญาตแล้ว ผู้ได้รับอนุญาตจะต้องเข้าสู่กระบวนการคัดกรองสุขภาพ กรอกข้อมูลส่วนบุคคล แจ้งเส้นทาง จุดหมายการเดินทางในพื้นที่ และต้องยอมถูกกักตัว 14 วันตามมาตรฐานสาธารณสุข เพื่อป้องกันการแพร่เชื้อสู่คนอื่นๆ ต่อไป
กรณีด่านตรวจห้วยน้ำอุ่น ซึ่งเป็นด่านสำคัญและมีปริมาณการเข้าออกของยานพาหนะและบุคคลมากกว่าด่านอื่นๆ นั้น สามารถสอบถามรายละเอียดการเดินทางได้ที่นายอำเภอเวียงสา โทรศัพท์หมายเลข 08-1867-2547 หรือที่นายจวน จันเครื่อง ปลัดอำเภอ หัวหน้าฝ่ายความมั่นคง ซึ่งรับผิดชอบเป็นหัวหน้าชุดด่านตรวจห้วยน้ำอุ่น เบอร์โทรศัพท์ 06-3902-1168
อย่างไรก็ตาม ล่าสุดได้เปิดพื้นที่โรงเรียนห้วยน้ำอุ่น ต.อ่ายนาไลย อ.เวียงสา เป็นจุดส่งต่อเปลี่ยนถ่ายสินค้า สำหรับผู้ที่เดินทางเข้ามาในจังหวัดน่าน หลังจากที่มีมาตรการเข้มข้นในการคัดกรองกลุ่มเสี่ยงบริเวณด่านห้วยน้ำอุ่น โดยพ่อค้าแม่ค้าที่จะเดินทางเข้ามาส่งสินค้าในจังหวัดน่านต้องขนถ่ายสินค้าบรรทุกรถของพ่อค้าแม่ค้าน่าน เพื่อให้ความร่วมมือกับมาตรการของทางจังหวัด แบบไม่ต้องการถูกกักตัว 14 วัน ซึ่งจะมีผลกระทบต่องานและรายได้
พ่อค้าจากจังหวัดแพร่ ซึ่งนำปลายข้าวสารมาส่งให้คู่ค้าในจังหวัดน่านบริเวณจุดที่จังหวัดได้กำหนดไว้ ยอมรับว่าเสียเวลา และเสียค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้นทั้งน้ำมันรถของฝ่ายที่จะต้องมารับสินค้า-ค่าแรงงาน เพิ่มต้นทุนด้านการขนส่ง และมีความลำบากในการทำงานมากขึ้น แต่ก็ต้องให้ความร่วมมือและปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด