ศูนย์ข่าวศรีราชา - ร้างทันตา! หลายจังหวัดภาคตะวันออก ร่วมปฏิบัติตามมาตรการปิดเมืองเคร่งครัด ประชาชน ผู้ค้า ขานรับปิดร้าน เข้าบ้านก่อน 4 ทุ่ม ทำถนนเกือบทุกสายไม่มีรถยนต์ แต่ยังมีบางส่วนดื้อดึงตั้งวงดื่มสุรา ตร.เผยเตือนไม่ฟังเจออีกครั้งคุกทันที
จากกรณีที่รัฐบาลได้ออกคำสั่งห้ามบุคคลออกนอกเคหสถาน (เคอร์ฟิว) ในช่วงเวลา 22.00-04.00 น. ตั้งแต่วันที่ 3 เม.ย.2563 เป็นต้นไป เพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ หรือโควิด-19 เว้นแต่มีความจำเป็นและผู้มีความจำเป็นต้องเดินทาง เช่น ผู้ปฏิบัติงานด้านการแพทย์ การขนส่งสินค้าอุปโภคบริโภค ผลผลิตการเกษตร ยา เวชภัณฑ์ เครื่องมือแพทย์ เป็นต้น ผู้ใดฝ่าฝืนระวางโทษจำคุกเกิน 2 ปี หรือปรับเกิน 4 หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับนั้น
คืนวานนี้ (3 เม.ย.) ผู้สื่อข่าวได้ลงสำรวจพื้นที่บรรยากาศหลังการประกาศเคอร์ฟิวในวันแรกของจังหวัดต่างๆ ในพื้นที่ภาคตะวันออก โดยพบว่าประชาชนให้ความร่วมมือทั้งปิดร้าน ปิดการค้าขาย และกลับเข้าบ้านก่อนเวลา 22.00 น.เป็นอย่างดี ขณะที่เจ้าหน้าที่ฝ่ายต่างๆ ได้พากันปฏิบัติการอย่างเข้มแข็ง ส่งผลให้ทุกพื้นที่กลายเป็นเมืองร้างในทันที
โดย อ.บางละมุง จ.ชลบุรี เจ้าหน้าที่ทหาร มทบ.14 ตำรวจ และฝ่ายปกครอง ได้ร่วมกันตั้งจุดคัดกรองเข้มข้นบริเวณด้าน หน้า สภ.บางละมุง บนถนนสุขุมวิทฝั่งขาเข้ากรุงเทพมหานคร เพื่อตรวจสอบการเดินทางของประชาชนและนักท่องเที่ยว และหากพบว่าเป็นบุคคลต่างพื้นที่ก็จะไม่อนุญาตให้เดินทางเข้าสู่พื้นที่เมืองพัทยา รวมทั้งห้ามการเดินทางออกนอกพื้นที่ แต่หากเป็นผู้ใช้แรงงานที่ประกอบอาชีพในพื้นที่ก็จะมีการจัดทำบัตรเพื่อแสดงตัว จากนั้นจะทำการคัดกรองและปล่อยเข้ามาในพื้นที่ในช่วงเวลาทำการได้
และจากการสำรวจตามตอกซอกซอยต่างๆ รวมไปถึงบนถนนหลักสุขุมวิท แทบไม่มีรถยนต์สัญจรไปมา มีเพียงส่วนน้อยที่กำลังจะไปทำงานและเลิกงานกลับที่พักเท่านั้น ส่วนร้านอาหารทั้งใน อ.บางละมุง และเมืองพัทยา พบว่า ร่วมมือปิดบริการทั้งหมด ทำให้บรรยากาศภายในเมืองพัทยา ดูเงียบเหงาไปอย่างถนัดตา
แปดริ้วเมืองร้าง แต่ยังพบประชาชนบางส่วนแอบตั้งวงดื่มสุรา
ส่วนบรรยากาศในพื้นที่ จ.ฉะเชิงเทรา พบว่า ประชาชนส่วนใหญ่ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี โดยผู้ประกอบการร้านค้าต่างๆ พากันปิดร้านค้า และบ้านเรือนตั้งแต่ก่อนถึงเวลาที่กำหนด จนทำให้เมืองแปดริวเงียบสงัดคล้ายกับเป็นเมืองร้างตั้งแต่ในเวลาประมาณ 21.00 น.ที่ผ่านมา
ขณะที่ตามท้องถนนมีรถยนต์สัญจรประปราย บางเส้นทางแทบจะไม่มีรถขับผ่านโดยเฉพาะในเส้นทางสายรอง ส่วนเส้นทางสายหลักยังคงมีรถยนต์สัญจรผ่านเพียงเล็กน้อยเท่านั้น
พล.ต.ต.สุรจิต ชิงนวรรณ์ รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 2 ที่เดินทางมาเป็นประธานปล่อยแถวข้าราชการตำรวจ ทหาร อส. และ ตชด. จำนวน 204 นาย ที่บริเวณสนามหน้าศาลากลางจังหวัดฉะเชิงเทรา โดยมีนายประสงค์ คงเคารพธรรม รองผู้ว่าราชการจังหวัดฉะเชิงเทรา ร่วมในพิธี
พบว่ามีประชาชนบางส่วนที่ยังฝ่าฝืนคำสั่งของรัฐบาล ด้วยการแอบจับกลุ่มตั้งวงดื่มสุราภายในตลาดบางน้ำเปรี้ยว อ.บางน้ำเปรี้ยว และด้านหลังหมู่บ้านกรุงไทย เขต อ.เมืองฉะเชิงเทรา เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงทำการว่ากล่าวตักเตือน และแนะนำให้กลับเข้าบ้านพัก ทั้งนี้ หากพบว่ายังคงมีการกระทำการฝ่าฝืนคำสั่งตามประกาศดังกล่าว ก็จะดำเนินคดีขั้นเด็ดขาด
ตราด ไม่มีป่วยโควิด-19 แต่ขอความร่วมมือคนต่างถิ่นแจ้งข้อมูลจริง
และที่หน้ากองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดตราด เมื่อเวลา 21.00 น. ที่ผ่านมา ว่าที่ ร.ต.พิเชียน ลิมป์หวังอยู่ ผู้ว่าราชการจังหวัดตราด เป็นประธานปล่อยแถวระดมป้องกันและสกัดกั้นการแพร่ระบาดเชื้อโควิด-19 โดยมี พ.ต.อ.ชัยรณงค์ บุญด้วย ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดตราด รองผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในจังหวัดตราด นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดตราด และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วม
ผู้ว่าราชการจังหวัดตราด กล่าวว่า จ.ตราด จะตั้งจุดตรวจตามเส้นทางสัญจรในทุกสถานีตำรวจครอบคลุมทุกพื้นที่ โดยสนธิกำลังจากทหาร ตำรวจ สาธารณสุข ขนส่ง ฝ่ายปกครอง เพื่อบังคับใช้กฎหมายตามข้อกำหนดอย่างเข้มงวดและเฉียบขาด เพื่อให้ จ.ตราด ปลอดจากผู้ที่ติดเชื้อไวรัส โควิด-19 อย่างแท้จริง
และขณะนี้แม้ว่า จ. ตราด จะยังไม่มีผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 แต่เพื่อเป็นการป้องกันและสกัดกั้นการแพร่ระบาดจำเป็นที่จะต้องทำทุกวิถีทางเพื่อให้ปลอดภัยที่สุด พร้อมขอเน้นย้ำให้บุคคลที่เดินทางมาจากพื้นที่เสี่ยงปฏิบัติตามข้อกำหนดของกระทรวงสาธารณสุข อย่างเคร่งครัด รวมทั้งการให้ข้อมูลที่แท้จริงแก่เจ้าหน้าที่
ผวจ.สระแก้ว มั่นใจประชาชนให้ความร่วมมือ
ด้าน นายวรพันธุ์ สุวัณณุสส์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสระแก้ว กล่าวว่า จ.สระแก้ว ได้ตั้งศูนย์ปฏิบัติการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินด้านความมั่นคง ที่ศาลากลางจังหวัดสระแก้ว และสำนักงานตำรวจภูธรจังหวัดสระแก้ว โดยได้มีการปล่อยแถวทุกโรงพักเพื่อออกตรวจในพื้นที่ เพื่อแนะนำให้ชาวบ้านปฏิบัติตามประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน ยกเว้นผู้ที่จำเป็นต้องปฏิบัติงานและเจ้าหน้าที่เท่านั้น และมั่นใจว่าชาวสระแก้ว จะร่วมมือปฏิบัติตามข้อกำหนดเป็นอย่างดี
อย่างไรก็ตาม ภายหลังมีการปล่อยแถว เจ้าหน้าที่ได้ออกไปประจำตามจุดต่างๆ และมีการตั้งด่านในแต่ละพื้นที่ โดยในพื้นที่ สภ.เขาฉกรรจ์ อ.เขาฉกรรจ์ พบว่าประชาชนที่เดินทางในช่วงเวลาห้ามออกจากบ้านมีเพียงไม่กี่ราย และส่วนใหญ่จะมีหนังสือแจ้งขออนุญาตออกนอกพื้นที่ในการปฏิบัติงาน ส่วนผู้ที่ไม่รู้ข้อมูลเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ตักเตือนและสั่งให้กลับเข้าบ้านทันที