ศูนย์ข่าวเชียงใหม่ - ผู้ว่าฯ เชียงใหม่ขานรับข้อสั่งการนายกรัฐมนตรีเร่งแก้ปัญหาฝุ่นควันและเผาป่าทำให้จุดความร้อนเป็น 0 ภายในสัปดาห์นี้ ตั้งจุดสกัดทุกเส้นทางเข้าออกอุทยานฯ ดอยสุเทพ-ปุยป้องกันมือเผา ย้ำบังคับใช้กฎหมายเข้มข้น
วันนี้ (2 เม.ย. 63) ที่ศูนย์บัญชาการป้องกันและแก้ไขปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็ก (PM 2.5) จังหวัดเชียงใหม่ นายเจริญฤทธิ์ สงวนสัตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ ร่วมประชุมหารือกับตัวแทนทหารมณฑลทหารบกที่ 33 ฝ่ายปกครอง กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อเร่งแก้ไขปัญหาไฟป่าในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ ตามข้อสั่งการของนายกรัฐมนตรีที่ให้จัดการปัญหาไฟป่าและการเผาใน 17 จังหวัดภาคเหนืออย่างเด็ดขาด ให้จุดความร้อนเป็น 0 ภายในหนึ่งสัปดาห์
โดยผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่เปิดเผยว่า ในวันนี้ พื้นที่ 3 อำเภอ คือ สะเมิง แม่แตง และเชียงดาว เกิดไฟไหม้ในพื้นที่ทำกินในเขตป่าสงวนแห่งชาติหลายจุดมาก จึงจำเป็นต้องให้นายอำเภอแจ้งความดำเนินคดีต่แผู้ที่ครอบครองพื้นที่ดังกล่าว ถือว่าเป็นผู้ต้องสงสัยไว้ก่อนเพราะมีการแบ่งเขตพื้นที่กันมาก่อนหน้านี้แล้ว หากไม่แจ้งความจะถือว่าละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ และให้ตรวจสอบหลักฐานควบคู่กันไป ซึ่งช่วงนี้ถือเป็นช่วงห้ามเผาอย่างเด็ดขาดแล้ว หากเกิดไฟไหม้จะอ้างว่าทำแนวกันไฟไม่ได้ โดยต้องดำเนินการอย่างเฉียบขาด จริงจัง มิเช่นนั้นจะเกิดจุดความร้อนมากขึ้นเรื่อยๆ จนเกินกำลังที่จะดับ
ขณะที่ในส่วนของอุทยานแห่งชาติดอยสุเทพ-ปุยนั้น ให้มีการตั้งด่านตลอด 24 ชั่วโมง เริ่มวันนี้เป็นวันแรก แม้ทางเข้าออกอุทยานฯ จะมีหลายเส้นทาง ก็ขอให้ตรวจบัตรประชาชนทุกคน จดเวลาเข้าออก โดยเฉพาะจากตำบลโป่งแยงยังมาดอยสุเทพ โดยเฉพาะในยามวิกาล เพื่อแก้ปัญหาข้อข้องใจว่าเมื่อประกาศปิดอุทยานฯ ไปแล้ว แต่เหตุใดยังเกิดไฟไหม้ขึ้นได้อีก โดยขอกำลังทหารมาช่วยอยู่ที่ด่านเพิ่มจากที่ลาดตระเวนและเฝ้าระวังอยู่ด้านบนพระธาตุดอยสุเทพราชวรวิหาร นอกจากนี้ยังได้สั่งการให้ตรวจสอบพื้นที่ไฟไหม้ป่าที่อำเภอแม่แจ่ม สะเมิง แม่แตง และอมก๋อย เพื่อทำเป็นหลักฐานในการแจ้งความดำเนินคดีด้วย
สำหรับวันนี้ได้มีการใช้อากาศยานบินโปรยน้ำดับไฟใน 3 อำเภอ คือ เฮลิคอปเตอร์ของกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมและหน่วยบินกรมฝนหลวง ปฏิบัติงานที่อำเภอสะเมิง, เฮลิคอปเตอร์ Mi 17 ของกองทัพบกปฏิบัติงานที่อำเภอเชียงดาว และเฮลิคอปเตอร์ KA-32 ของกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยปฏิบัติงานที่อำเภอแม่ออน และในวันพรุ่งนี้จะมีการนำอากาศยานไร้คนขับของกองทัพอากาศหรือยูเอวี มาร่วมปฏิบัติภารกิจด้วย ซึ่งนอกจากตรวจพิกัดการเกิดไฟได้แล้ว ยังสามารถจับภาพคนได้ด้วย
ทั้งนี้ ในเขตอุทยานแห่งชาติดอยสุเทพ-ปุยที่เกิดไฟป่าขึ้นซ้ำซากติดต่อกันหลายวัน ทั้งบริเวณด้านหน้าของวัดพระธาตุดอยสุเทพราชวรวิหาร น้ำตกมณฑาธาร และน้ำตกไทรย้อย รวมไปถึงพื้นที่บริเวณห้วยตึงเฒ่า, ตำบลบ้านปง อำเภอหางดง, ตำบลโป่งแยง อำเภอแม่ริม ยังพบว่ามีตอไม้ที่ติดไฟกระจายอยู่จำนวนมาก จึงเกิดการปะทุขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทางเจ้าหน้าที่หน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะจัดทีมเข้าไปเก็บตอไม้ที่เกิดไฟให้ดับสนิทพร้อมเฝ้าระวังไม่ให้มีการปะทุขึ้นอีก