ศรีสะเกษ - ผู้ว่าฯ ศรีสะเกษลุยเอง ฉีดพ่นยาฆ่าเชื้อโควิด-19 พร้อมล้างตลาดสดกลางเมืองด้วยตนเอง ทำเอาแม่ค้าต่างพากันประทับใจและชื่นชม สร้างความเชื่อมั่นและปลอดภัยแก่ประชาชน พร้อมคุมเข้มเตือนให้ปฏิบัติตามกฎป้องกันการแพร่ระบาดและมุ่งเน้นชุมชน
วันนี้ (2 เม.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อคืนนี้ ที่บริเวณตลาดสดเทศบาล 1 ต.เมืองเหนือ อ.เมือง จ.ศรีสะเกษ ซึ่งเป็นตลาดที่ตั้งอยู่กลางเมืองศรีสะเกษ นายวัฒนา พุฒิชาติ ผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ พร้อมด้วย นายนพ พงศ์ผลาดิสัย ปลัดจังหวัดศรีสะเกษ นายสมเกียรติ ศรีขาว นายอำเภอเมืองศรีสะเกษ นายสมพร จึงศิรกุลวิทย์ รองนายกเทศมนตรีเมืองศรีสะเกษ ได้นำเจ้าหน้าที่เทศบาลเมืองศรีสะเกษ เจ้าหน้าที่อาสาสมัครรักษาดินแดน (อส.) จ.ศรีสะเกษ ออกทำการพ่นยาฆ่าเชื้อโรคโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 โดยได้พ่นยาภายในตลาดสดเทศบาลเมืองศรีสะเกษ ทั้งบริเวณแผงขายสินค้า เขียงหมู ร้านจำหน่ายสินค้าเบ็ดเตล็ด และร้านขายอาหาร รวมทั้งล้างพื้นภายในตลาดสดด้วยน้ำยาฆ่าเชื้อโรค
ทั้งนี้ ผู้ว่าฯ ศรีสะเกษได้สวมชุดป้องกันเชื้อโรค สวมรองเท้าบูต และสวมหน้ากากใส ออกตระเวนพ่นยาฆ่าเชื้อโรค และเชื้อไวรัสโควิด-19 ด้วยตนเอง ท่ามกลางสภาพอากาศที่ค่อนข้างร้อนอบอ้าว จนกระทั่งเสร็จเรียบร้อย ซึ่งบรรดาพ่อค้าแม่ค้าต่างพากันประทับใจและชื่นชมที่เห็นผู้ว่าฯ ศรีสะเกษออกลุยพ่นยาฆ่าเชื้อไวรัสโควิด-19 ด้วยตัวเอง ทำให้เกิดความมั่นใจในความปลอดภัยแก่พ่อค้าแม่ค้าและประชาชนที่มาจับจ่ายซื้อสินค้าในตลาดแห่งนี้
นายวัฒนา พุฒิชาติ ผวจ.ศรีสะเกษ กล่าวว่า วันนี้เทศบาลเมืองศรีสะเกษได้จัดให้มีการล้างตลาดสดเทศบาล 1 ตนจึงได้นำปลัดจังหวัด นายอำเภอเมืองศรีสะเกษ และคณะ มาร่วมในการฉีดพ่นยาฆ่าเชื้อโรคโควิด-19 เพื่อเป็นการป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อโรคนี้ไม่ให้กระจายไปสู่ประชาชนชาวศรีสะเกษ ส่วนการที่ขณะนี้ จ.ศรีสะเกษมีผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นมาถึง 8 รายแล้วนั้น ตนได้เตรียมใช้ยาแรงโดยมุ่งเน้นไปที่สถานที่ที่มีความเสี่ยง ได้สั่งให้มีการขยายเวลาในการปิดดำเนินการให้เร็วขึ้น
และจะเพิ่มความเข้มไปที่ชุมชนคือหมู่บ้านต่างๆ ในการเฝ้าระวังคนที่เข้ามาในพื้นที่จะต้องถูกกักตัวให้เชื่อฟังในมาตรการต่างๆ หากใครไม่เชื่อฟังก็คงจะต้องใช้วิธีการดำเนินการตามกฎหมาย ซึ่งเคยมีกรณีตัวอย่างมาแล้ว ซึ่งศาลจังหวัดศรีสะเกษได้สั่งลงโทษ ซึ่งในกรณีนี้อยากขอความร่วมมือว่าเราไม่รู้ว่าเป็นคนกลุ่มเสี่ยงหรือไม่ เมื่อเข้ามาในเขตพื้นที่ จ.ศรีสะเกษ ก็ให้เชื่อฟังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการดูแลตรงนี้ให้ครบ 14 วัน
ในส่วนของพี่น้องเราที่อยู่ตามแนวชายแดนขณะนี้กำลังมีการทะลักเข้ามาในเขต จ.ศรีสะเกษ ก็มีการดูแลให้เข้าสู่ระบบ คือ ต้องกักตัว 14 วัน ขอให้ประชาชนให้ความร่วมมือในส่วนนี้ด้วย เพื่อจะได้เป็นการแก้ไขปัญหาร่วมกัน กรณีผู้ป่วยโควิด-19 ทั้ง 8 รายล้วนแต่ติดเชื้อมาจากนอกพื้นที่ จ.ศรีสะเกษ ทั้งสิ้น ฉะนั้นจะทำอย่างไรที่จะทำให้บ้านเราคุมอยู่ในพื้นที่บริเวณจำกัด ไม่ให้บุคคลเหล่านี้ไปแพร่เชื้อที่อื่น นั่นคือสิ่งที่ทางจังหวัดและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งทำงานให้เร็ว เพื่อที่จะไม่ให้มีการขยายวงกว้างออกไปอีก