กาญจนบุรี - ระทึกกลางเมืองกาญจน์ ไฟไหม้บ้านเก่าแก่อายุกว่า 100 ปี ของผู้ประกอบการอาหาร ขณะนำอุปกรณ์ทางการแพทย์ป้องกันโควิด-19 ไปมอบให้ รพ.เจ้าคุณฯ เจ้าตัวเชื่อไฟฟ้าลัดวงจร
วันนี้ (1 เม.ย.) พ.ต.ต.วรพงศ์ ชาวแพะ สว.(สอบสวน) สภ.เมืองกาญจนบุรี ได้รับแจ้งจากศูนย์วิทยุ 191 ว่าทเกิดเหตุเพลิงไหม้บ้านเลขที่ 163 ต.บ้านเหนือ อ.เมือง จ.กาญจนบุรี หลังรับแจ้งจึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ จากนั้นจึงรีบรุดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ พร้อมประสาน นางเบญจวรรณ เปรมประยูร นายกเทศมนตรีเมืองกาญจนบุรี สั่งการให้เจ้าหน้าที่นำรถดับเพลิงเทศบาลไปช่วยสกัดเปลวเพลิง โดยมีเจ้าหน้าที่มูลนิธิพิทักษ์กาญจน์ร่วมด้วย
เมื่อไปถึงพบเปลวเพลิงกำลังลุกไหม้บ้านพักสูง 2 ชั้น ลักษณะสร้างแบบครึ่งปูนครึ่งไม้อย่างรุนแรง เจ้าหน้าที่ต้องเร่งระดมกำลังกันสกัดเปลวเพลิงทุกช่องทาง นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่บางส่วนต้องฉีดน้ำหล่อเลี้ยงบ้านเรือนที่อยู่ใกล้กันเอาไว้ เพื่อป้องกันการลุกลามไปไหม้บ้านหลังอื่น เนื่องจากพื้นที่จุดเกิดเหตุเป็นชุมชนหนาแน่น และบ้านพักแต่ละหลังมีสภาพเก่าแก่ใช้งานมาร่วม 100 ปี ซึ่งเจ้าหน้าที่สามารถป้องกันการไหม้ลุกลามเอาไว้ได้ โดยเจ้าหน้าที่ใช้เวลาประมาณ 45 นาทีจึงสามารถสกัดเปลวเพลิงเอาไว้ได้ แต่ต้องฉีดน้ำหล่อเลี้ยงเอาไว้อยู่ตลอดเวลาเพื่อป้องกันการไหม้ปะทุขึ้นมาอีก
จากการตรวจสอบหลังจากเพลิงสงบ พบว่า ไม่มีใครได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต เนื่องจากขณะเกิดเหตุนั้นเจ้าของบ้านไม่อยู่ ส่วนทรัพย์สินภายในบ้านคาดว่าถูกไฟไหม้เสียหายเกือบทั้งหมด สำหรับค่าเสียหายอยู่ระหว่างการตรวจสอบร่วมกับเจ้าของ ส่วนสาเหตุการเกิดเพลิงไหม้จะต้องรอให้เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐานมาเก็บหลักฐานเพื่อหาสาเหตุที่แท้จริงต่อไป
แต่อย่างไรก็ตาม เบื้องต้น น.ส.อภิสรา แก่นหอมกลิ่น เจ้าของบ้านกล่าสว่า บ้านหลังดังกล่าวตนอาศัยอยู่กับลูกชายเพียง 2 คน ก่อนเกิดเหตุตนได้นำข้าวกล่องพร้อมอุปกรณ์ทางการแพทย์ไปมอบให้แก่โรงพยาบาลเจ้าคุณไพบูลย์ อ.พนมทวน เพื่อให้บุคลากรทางการแพทย์ของโรงพยาบาลดังกล่าวมีความปลอดจากเชื้อไวรัสโควิด-19 โดยไปกับกลุ่มสมาคมผู้ค้าอาหารจังหวัดกาญจนบุรี กว่า 10 คน
ส่วนสาเหตุตนเชื่อว่าน่าจะเกิดจากไฟฟ้าลัดวงจร เนื่องจากภายในบ้านมีเครื่องใช้ไฟฟ้าเสียบปลั๊กไฟทิ้งเอาไว้หลายเครื่อง อีกทั้งสายไฟก็มีสภาพเก่าไม่ได้เปลี่ยนมานานกว่า 10 ปีแล้ว ส่วนบ้านก็มีสภาพเก่ามีอายุเก่าแก่กว่า 100 ปีแล้ว จึงกลายเป็นเชื้อเพลิงอย่างดี อย่างไรก็ตาม จะต้องรอให้เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานเข้ามาตรวจสอบหาข้อเท็จจริงอีกครั้งหนึ่งต่อไป