อ่างทอง - ซ้ำวิกฤตโควิด-19 โจรแสบยกตู้เติมเงินมางัดทิ้งไว้ริมถนน ด้านชาวบ้านขี่จักรยานยนต์ผ่านมาพบแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจสอบ คาดอาศัยช่วงเวลากลางคืนที่ชาวบ้านอยู่บ้านลดติดเชื้อ
วันนี้ (30 มี.ค.) ร.ต.ท.สุขสันต์ ปัสสาวะกัง รองสารวัตรสอบสวน สภ.เมืองอ่างทอง ได้รับแจ้งว่ามีชาวบ้านพบตู้เติมเงินออนไลน์ ถูกงัดแล้วนำมาทิ้งไว้ที่บริเวณคูน้ำ ริมถนนกลางทุ่งนาสายแปดแก้ว-บางพลับ หมู่ที่ 5 ตำบลป่างิ้ว อำเภอเมือง หลังได้รับแจ้งจึงรีบรุดไปตรวจสอบในที่เกิดเหตุ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจตำบลป่างิ้ว
ในที่เกิดเหตุบริเวณคูน้ำริมถนนกลางทุ่งนา ซึ่งมีชาวบ้านในพื้นที่กำลังมุงดูกันอยู่ พบตู้เติมเงินแบบออนไลน์ถูกคนร้ายนำมาทิ้งไว้ในคูน้ำ ที่พงหญ้าริมคูน้ำพบชิ้นส่วนของตู้เติมเงินตกกระจัดกระจาย ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจและชาวบ้านจึงได้ทำการยกขึ้นมาตรวจสอบ พบว่าตู้เติมเงินออนไลน์ด้านหน้าถูกคนร้ายใช้เครื่องมือไม่ทราบชนิดงัดจนได้รับความเสียหาย เสาสัญญาณออนไลน์ถูกดึงทิ้งไว้ ด้านล่างของตู้เขียนว่า ตู้เติมเงินออนไลน์ บุญเติม พร้อมกับหมายเลขโทรศัพท์
จากการตรวจสอบหมายเลขโทรศัพท์ พบว่า เป็นบริษัทตัวแทนจำหน่าย อยู่ในตัวเมืองจังหวัดสิงห์บุรี ซึ่งทางบริษัทแจ้งว่าจะต้องตรวจสอบจากหมายเลขตู้ที่อยู่ด้านหน้าเครื่อง ถึงจะทราบว่าตู้เติมเงินออนไลน์ดังกล่าวถูกขโมยมาจากที่ใด ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ จึงได้นำชิ้นส่วนที่เสียหายและตู้เติมเงินออนไลน์ไปเก็บรักษาไว้ที่ สภ.เมืองอ่างทอง
จาการสอบถาม นายกำจาย หมื่นสำฤทธิ์ อายุ 53 ปี อยู่บ้านเลขที่ 75/4 หมู่ที่ 5 ตำบลป่างิ้ว อำเภอเมือง กล่าวว่า เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา มีคนในหมู่บ้านซึ่งเป็นพนักงานโรงงานได้ขับขี่รถจักรยานยนต์มุ่งหน้าจะไปทำงานผ่านมาพบตู้เติมเงินถูกทิ้งไว้ในคูน้ำริมถนน จึงได้มาบอกกับตนเองให้ช่วยไปแจ้งผู้ใหญ่บ้าน กำนัน พร้อมกับแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจให้เข้ามาตรวจสอบ ซึ่งคาดว่าคนร้ายได้อาศัยจังหวะในช่วงกลางคืนหลังจากเกิดวิกฤตเชื้อไวรัสโควิด-19 ที่กำลังระบาด ชาวบ้านต้องเก็บตัวอยู่ในบ้านเพื่อความปลอดภัยไม่แพร่เชื้อตามนโยบายของรัฐบาล จึงเป็นช่องทางให้กลุ่มมิจฉาชีพออกตระเวนก่อเหตุดังกล่าว
เบื้องต้น ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำการตรวจสอบ พบว่าตู้เติมเงินออนไลน์ได้ถูกขโมยมาแต่ไม่ทราบว่าถูกขโมยมาจากที่ใด สภาพด้านหน้าถูกงัดได้รับความเสียหาย ส่วนเงินที่อยู่ในตู้ไม่ทราบจำนวน ถูกคนร้ายกวาดเอาไปเหลือแค่เพียง 1 บาท โดยจะให้เจ้าหน้าที่ตำรวจพิสูจน์หลักฐานทำการเก็บลายนิ้วมือและดีเอ็นเอของคนร้ายที่ติดอยู่ที่ตู้เติมเงินออนไลน์ ซึ่งคาดว่าจะมีไม่ต่ำกว่า 2 คน และให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนตรวจสอบประวัติบุคคลที่เคยก่อเหตุลักษณะแบบนี้ เพื่อนำตัวมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป