สุรินทร์- ชายแดนไทย-กัมพูชาป่วน! ผู้ว่าฯสุรินทร์สั่งปิดด่านผ่านแดนถาวรช่องจอม-โอร์เสม็ดและตลาดช่องจอม ไม่มีกำหนดเริ่มวันนี้ หลัง จ.สุรินทร์พบผู้ป่วยโควิด-19 รวด 3 ราย พร้อมรุดพบผู้ว่าฯอุดรมีชัย ทำความเข้าใจและร่วมมือสกัดโควิด-19 ขณะพ่อค้าแม่ค้าไทย-กัมพูชานับพันร้านเร่งปิดร้านขนของกลับบ้าน
วันนี้ ( 21 มี.ค. ) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจาก นายไกรสร กองฉลาด ผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์ ได้เรียกประชุมด่วนคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดสุรินทร์ และแถลงข่าวสถานการณ์โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือ โควิด-19 ในพื้นที่จ.สุรินทร์ ว่า ณ วันที่ 20 มี.ค. มีผู้ป่วยเข้าเกณฑ์การสอบสวนโรค จำนวน 43 ราย ผลตรวจจากห้องปฏิบัติการไม่พบเชื้อ 43 ราย และ พบผู้ป่วยติดเชื้อไวรัสโควิด-19 จำนวน 3 ราย
ดั้งนั้นเพื่อควบคุมและป้องกันการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 ใน จ.สุรินทร์อย่างเข้มข้น ผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์และประธานกรรมการโรคติดต่อจังหวัดสุรินทร์ ได้ออกคำสั่ง จ.สุรินทร์ ที่ 930/2563 เรื่อง ปิดสถานที่เป็นการชั่วคราว และ ออกคำสั่ง จ.สุรินทร์ ระงับการเดินทาง เข้า-ออก ของบุคคลและสิ่งของ ณ จุดผ่านแดนถาวรช่องจอม และตลาดการค้าชายแดนช่องจอม ชายแดนไทย-กัมพูชา เนื่องจากเจ้าของผู้ประกอบการและผู้ใกล้ชิดติดเชื้อโรคโควิค-19 รวม 3 ราย ให้มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 21 มี.ค. 2563 เป็นต้นไป จนกว่าสถานการณ์จะปลอดภัย
โดยในขณะนี้ ผู้ป่วยติดเชื้อติดเชื้อโรคโควิค-19 ชาว จ.สุรินทร์ ทั้ง 3 ราย ได้เข้ารับการรักษาอยู่ ในห้องควบคุมโรคพิเศษ โรงพยาบาลศูนย์สุรินทร์ อ.เมือง จ.สุรินทร์ โดยผู้ป่วย 2 ใน 3 ราย มีอาการปานกลาง ปอดมีรอย ส่วนอีก 1 คน อาการไม่รุนแรง และทั้ง 3 คน ได้รับยาแล้ว ล่าสุดมีอาการดีขึ้น ไข้ลดลง ยังมีไอ และสุขภาพจิตดี ซึ่งจากการสอบสวนโรคพบว่า ติดเชื้อมาจากสนามมวยลุมพินี
ล่าสุด นายไกรสร กองฉลาด ผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์ พร้อมคณะเจ้าหน้าที่ระดับจังหวัดสุรินทร์ ได้เดินทางไปยังด่านผ่านแดนถาวรช่องจอม-โอร์เสม็ด ต.ด่าน อ.กาบเชิง จ.สุรินทร์ และพบกับผู้ว่าราชการจังหวัดอุดรมีชัย ราชอาณาจักรกัมพูชา เพื่อขอความร่วมมือในการปิดด่านผ่านแดนถาวรช่องจอม-โอร์เสม็ด เนื่องจากเป็นการป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) เมื่อสถานการณ์เข้าสู่ภาวะปกติ ก็จะดำเนินการเปิดด่านชายแดนและตลาดการค้าชายแดนช่องจอม ชายแดนไทย-กัมพูชา ต่อไป
ส่วนพ่อค้า แม่ค้าชาวไทยและชาวกัมพูชา ในตลาดการค้าชายแดนช่องจอม ต่างพากันขนสินค้าและสัมภาระ เดินทางกลับภูลำเนา และเดินทางกลับประเทศกัมพูชา กันเป็นจำนวนมาก ทำให้ตลาดการค้าชายแดนช่องจอมที่มีร้านค้านับพันร้าน เงียบเหงาไม่มีร้านค้าใดเปิดให้บริการ ซึ่งทางอำเภอกาบเชิง ได้นำรถยนต์ติดเครื่องขยายเสียง ประกาศให้พ่อ ค้าแม่ค้า ประชาชนทั่วไป ออกจากพื้นที่ตลาดชายแดนช่องจอม เพื่อความปลอดภัย