xs
xsm
sm
md
lg

สั่ง 3 ตร.ภูซาง-ครอบครัวกักตัว 14 วัน เสี่ยงสัมผัสผู้ป่วยโควิด-19 รายแรกของเชียงราย

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



พะเยา/เชียงราย - ผกก.สภ.ภูซางสั่งตำรวจในสังกัด 3 นายพร้อมครอบครัวกักตัวเฝ้าระวัง 14 วัน หลังพบเสี่ยงสัมผัสผู้ป่วยโควิด-19 รายแรกของเชียงราย ที่กลับจากกาสิโนปอยเปต-สถานบันเทิงย่านทองหล่อ


วันนี้ (21 มี.ค.) พ.ต.อ.สุเมธ ก้อนคำ ผกก.สภ.ภูซาง จ.พะเยา ได้มีคำสั่งให้ข้าราชการตำรวจในสังกัด 3 นาย กักบริเวณภายในบ้านพักตัวเองเป็นเวลา 14 วัน นับตั้งแต่ 22 มี.ค.-5 เม.ย. พร้อมให้ดูแลและไม่ให้ครอบครัวออกนอกบริเวณบ้านพักเพื่อสังเกตอาการ หลังจากเจ้าหน้าที่ตำรวจทั้ง 3 และครอบครัวได้เดินทางไปยังบ้านของผู้ป่วยโควิด-19 พื้นที่ อ.เทิง จ.เชียงราย เมื่อ 17 มี.ค.ที่ผ่านมา

วันเดียวกัน นายประจญ ปรัชญ์สกุล ผู้ว่าราชการ จ.เชียงราย ในฐานะประธานคณะกรรมการโรคติดต่อ จ.เชียงราย นายภาสกร บุญญลักษม์ รองผู้ว่าราชการ จ.เชียงราย ประธานคณะกรรมการแก้ไขปัญหาไวรัสโควิด-19 จ.เชียงราย นายแพทย์ ทศเทพ บุญทอง นายแพทย์สาธารณสุข จ.เชียงราย และนายแพทย์ ไชยเวช ธนไพศาล ผู้อำนวยการโรงพยาบาลเชียงรายประชานุเคราะห์ ร่วมกันแถลงการพบผู้ป่วยที่ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ชาว อ.เทิง ที่ถือเป็นผู้ป่วยรายแรกของเชียงรายดังกล่าว

โดยระบุว่า ระหว่างวันที่ 7-20 มี.ค.มีผู้ป่วยเข้าเกณฑ์เฝ้าระวัง 66 ราย หายป่วยกลับบ้านแล้ว 61 ราย กำลังรักษาตัวอยู่ 5 ราย ล่าสุดผลการตรวจยืนยันว่าพบผู้ป่วยที่ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 แล้ว 1 ราย เป็นผู้ป่วยชายอายุ 35 ปี

นายแพทย์ ทศเทพกล่าวว่า ผู้ป่วยรายนี้มีภูมิลำเนาอยู่ที่ อ.เทิง สอบสวนโรคพบว่าได้เดินทางไปยังกาสิโนปอยเปต ประเทศกัมพูชา สถานบันเทิงย่านทองหล่อ กรุงเทพฯ ก่อนจะเดินทางกลับเชียงรายทางเครื่องบินถึงเมื่อวันที่ 7 มี.ค. และเคยไปร่วมงานบวชในพื้นที่ด้วย แต่อาจไม่เข้านิยามการสัมผัสหากไม่อยู่ในระยะ 1 เมตรและคุยกันนานนับชั่วโมง

จากนั้นผู้ป่วยก็ไม่ได้มีอาการใดๆ แต่ได้ไปตรวจร่างกายเองเมื่อวันที่ 16 มี.ค.จนพบว่าติดเชื้อดังกล่าว กระทั่งขณะนี้ก็ไม่มีไข้และไม่มีอาการไอใดๆ เลย ดังนั้นแหล่งที่มาของเชื้อจึงไม่ทราบว่ามาจากแหล่งใดชัดเจน เพียงแต่เป็นที่น่าสังเกตว่าแหล่งโรคที่ย่านทองหล่อ กรุงเทพฯ ทำให้ผู้ป่วยมีอาการน้อยมาก จึงแนะนำให้ผู้ที่เกี่ยวข้องกับย่านดังกล่าวได้ไปพบเจ้าหน้าที่สาธารณสุขเพื่อตรวจดูเชื้อเหมือนรายนี้ด้วย

นายแพทย์ ทศเทพกล่าวอีกว่า สำหรับผู้ป่วยรายแรกนี้ ตั้งแต่มาถึงเชียงรายวันที่ 7-20 มี.ค.แล้วพบมีผู้ใกล้ชิดที่เป็นกลุ่มผู้สัมผัสเสี่ยงสูงจำนวน 10 ราย ซึ่งได้เก็บตัวอย่างไปตรวจได้ผลเป็นลบ 9 ราย และรอผลยืนยันในวันพรุ่งนี้ (22 มี.ค.) 1 ราย ส่วนกลุ่มที่มีความเสี่ยงน้อยมี 20 ราย ซึ่งได้ใช้วิธีการกักตัวดูอาการเป็นเวลา 14 วันเช่นเดียวกับกลุ่มผู้ที่มีความเสี่ยงสัมผัสสูงที่ผ่านการตรวจก็ให้มีการกักตัวเป็นเวลา 14 วันเพื่อความแน่นอนแล้วเช่นกัน

ขณะที่นายแพทย์ ไชยเวชกล่าวว่า ปัจจุบันโรงพยาบาลเชียงรายประชานุเคราะห์มีผู้ป่วยวันละประมาณ 800 คน ดังนั้น ตั้งแต่วันจันทร์ที่ 23 มี.ค.นี้จะให้ผู้ป่วยอายุ 70 ปีขึ้นไปที่มีนัดกับแพทย์ได้ใช้การถามอาการทางโทรศัพท์และจัดส่งยาไปให้ที่บ้านแทน รวมทั้งระวังการรักษาเกี่ยวกับฟันที่เกิดการฟุ้งกระจายของโรคได้ง่ายด้วย ส่วนการรักษาผู้ป่วยรายแรกนั้นเป็นไปตามมาตรฐาน โดยพบว่าผู้ป่วยโรคไวรัสโควิด-19 ทั่วไปจะใช้การรักษาตามอาการและหายเอง 80% และจะมีไม่เกิน 5% ที่อาการรุนแรงและต้องใช้ยาที่ผลิตจากประเทศจีนและญี่ปุ่น ซึ่งปัจจุบันกระทรวงสาธารณสุขมีรองรับไว้อยู่แล้ว


นายประจญกล่าวว่า ที่ผ่านมา จ.เชียงรายได้ออกมาตรการต่างๆ มากมาย ซึ่งในกลุ่มผู้เดินทางไปทำงานที่ต่างประเทศแล้วกลับภูมิลำเนาใช้การกักตัวเวลา 14 วัน หลายคนก็พ้นระยะเวลาดังกล่าวไปแล้วและยังไม่พบผู้ป่วย ส่วนรายล่าสุดนี้อยู่นอกเกณฑ์เพราะไม่ได้ไปทำงานที่ต่างประเทศ แต่กลับจากกรุงเทพฯ และไปตรวจหาเชื้อด้วยตัวเองแล้วพบการติดเชื้อ ปัจจุบันเจ้าหน้าที่ได้ดำเนินการตามมาตรฐาน โดยขยายผลเพื่อสกัดกั้นการแพร่กระจายของโรคออกไปแล้ว พร้อมกับดำเนินมาตรการอื่นๆ อย่างเข้มข้น ทั้งปิดจุดผ่านแดนถาวร จุดผ่อนปรนและช่องทางธรรมชาติที่ติดต่อกับประเทศเพื่อนบ้าน คือ พม่า และ สปป.ลาว จนเหลือเพียง 2 จุดที่ อ.แม่สาย และ อ.เชียงของ เท่านั้น

นายภาสกรกล่าวว่า ที่ผ่านมา จ.เชียงรายได้ประกาศมาตรการไปแล้ว 3 ฉบับ 1 คำสั่ง โดยมีการปิดจุดผ่านแดนถาวรที่มีจำนวน 6 จุดให้เหลือเพียง 2 จุด ปิดสถานบันเทิง สถานที่ที่สุ่มเสี่ยงต่างๆ ยกเลิกกิจกรรมที่มีความเสี่ยง เช่น ถนนคนเดิน ฯลฯ ชั่วคราว 14 วันแล้วค่อยประเมินสถานการณ์ แต่ยังคงให้เปิดตลาดสดทั่วไปได้ และหลังจากพบผู้ป่วยรายแรกก็ได้ให้ทุกอำเภอ ตำบล และหมู่บ้านเอกซเรย์พื้นที่ของตัวเองซ้ำอีกรอบอย่างเข้มงวด
กำลังโหลดความคิดเห็น