ศูนย์ข่าวนครราชสีมา - ตลาดเซฟวัน โคราช ตลาดกลางคืนใหญ่ที่สุดในประเทศไทย ตั้งโต๊ะแถลงโต้ข่าวปลอมอ้างมีคนป่วยล้มกลางตลาด ยันไม่พบโควิด-19 ระบาด ทำยอดขายตกฮวบ ขณะพิธีรำบวงสรวงย่าโมถูกเลื่อนออกไปอย่างไม่มีกำหนด
วันนี้ (16 มี.ค. 63) ที่ตลาดเซฟวัน โคราช ตลาดกลางคืนใหญ่ที่สุดในประเทศไทย อ.เมือง จ.นครราชสีมา นายประวรรตน์ ปั้นศิริชัยกุล ผู้จัดการฝ่ายบริหารและบัญชีตลาดเซฟวัน พร้อม นายสมชาย แช่มชูกลิ่น รองผู้อำนวยการศูนย์อนามัยที่ 9 นครราชสีมา (สคร.9นม.) นายชัยสิทธิ์ ภูผารัตน์ หัวหน้าอาสาสมัครหน่วยกู้ภัย ฮุก 31 นครราชสีมา และผู้แทนสำนักงานสาธารณสุขจังหวัด (สสจ.) นครราชสีมา และสำนักการสาธารณสุขและสิ่งแวดล้อม เทศบาลนครนครราชสีมา ร่วมแถลงข่าวถึงมาตรการเฝ้าระวัง ควบคุม ป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 เพื่อสร้างความมั่นใจและความปลอดภัยให้แก่ผู้ประกอบการและประชาชนที่มาจับจ่ายซื้อสินค้าอุปโภค บริโภคในตลาดเซฟวัน หลังมีเฟกนิวส์หรือข่าวปลอม เผยแพร่ข่าวการระบาดของโรคโควิด-19 ซึ่งสร้างความหวาดวิตกให้แก่ผู้มาใช้บริการลดลงกว่าครึ่ง
นายประวรรตน์ ปั้นศิริชัยกุล ผู้จัดการฝ่ายบริหารและบัญชีตลาดเซฟวัน โคราช เปิดเผยว่า กว่า 20 ปีตลาดเซฟวัน โคราชได้พัฒนาเติบโตขึ้นมาเป็นลำดับ โดยมีพื้นที่ใช้สอยรวม 120 ไร่ มีจำนวนแผงกว่า 3,000 แผง ด้วยความหลากหลายของสินค้า การบริการและอาหารท้องถิ่นที่ถูกปากทำให้ชาวโคราชและนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างประเทศมาจับจ่ายซื้อสินค้าอุปโภค บริโภคและรับประทานอาหารต่อวันกว่า 1 หมื่นคน เราจึงมีแผนงานทำความสะอาด สร้างสุขอนามัยทั้งแบบประจำวันและรายสัปดาห์ เพื่อให้พื้นที่ตลาดปลอดภัยสำหรับผู้บริโภค พร้อมกระตุ้นและส่งเสริมให้ผู้ประกอบการยกระดับสร้างมาตรฐานความสะอาดและสุขอนามัย
ต่อมามีการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ได้ขยายวงลุกลามอย่างต่อเนื่อง ผู้บริหารตลาดเซฟวันได้ดำเนินการลดความเสี่ยง โดยจัดกิจกรรมฉีดน้ำล้างทำความสะอาดและพ่นน้ำยาฆ่าเชื้อโรคในพื้นที่ตลาดและจุดสัมผัสบ่อย ล่าสุดได้ดำเนินการช่วงกลางคืนวันที่ 12 มี.ค. หลังตลาดปิด โดยมีนายชัยรัตน์ นอกพุดซา ผู้ช่วยผู้จัดการตลาด พร้อมพนักงานทำความสะอาดได้สวมชุดป้องกันในการปฏิบัติงานตามวิธีการและขั้นตอนของสาธารณสุขและนำมาเผยแพร่ในกลุ่มเพจข่าวของตลาดเซฟวัน แต่มีผู้ไม่ประสงค์ดีได้นำภาพดังกล่าวพร้อมเขียนข้อความใส่ร้ายป้ายสี ระบุมีคนติดเชื้อไวรัสโควิด-19 มานั่งกินอาหารในตลาดแล้วล้มลง หน่วยกู้ภัย ฮุก 31 นครราชสีมานำส่งโรงพยาบาล แต่ตลาดได้ปิดข่าว จากนั้นได้นำมาโพสต์ในกลุ่มไลน์และกลุ่มเพจข่าวโคราชในช่วงบ่ายวันที่ 15 มี.ค. ซึ่งมีการแชร์และส่งต่อกันอย่างรวดเร็ว ส่วนหนึ่งได้แสดงความคิดเห็นในทางลบ ยิ่งสร้างความหวาดกลัว ตื่นตระหนกให้แก่ผู้มาใช้บริการ
นายประวรรตน์กล่าวอีกว่า สำหรับข่าวปลอมที่เกิดขึ้นได้มอบหมายให้นายชัยรัตน์แจ้งความร้องทุกข์กล่าวโทษต่อ ร.ต.ท สฤษดิ์ ชำนิไกร พนักงานสอบสวนเวร สภ.โพธิ์กลาง อ.เมือง จ.นครราชสีมา แล้ว โดยประสงค์ให้ดำเนินคดีความผิดพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ) การกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ กรณีการนำเข้าข้อมูลอันเป็นเท็จ ทำให้เกิดความเสียหาย ขณะนี้มีพยานหลักฐานเชื่อมโยง เตรียมนำข้อมูลไปแจ้งความเพิ่ม ซึ่งมีผู้เกี่ยวข้อง 4-5 ราย
ขอยืนยันว่าข้อมูลที่แชร์ออกไปดังกล่าวมิใช่ความจริงแต่อย่างใด ในห้วงวันเวลาดังกล่าวไม่มีเหตุการณ์คนล้มลงกลางตลาด นอกจากนี้ยังมีการแอบอ้างชื่อตลาดประกาศขายหน้ากากอนามัยในกลุ่มเพจอีก ซึ่งเป็นราคาแพงมาก สร้างความเสียหายให้ตลาดที่มีการเข้าใจผิด ผู้บริหารตลาดขายหน้ากากอนามัยราคาแพง ขณะนี้อยู่ระหว่างรวบรวมข้อมูลเพื่อแจ้งความร้องทุกข์กล่าวโทษอีก
“ช่วงนี้สภาวะการค้าการขายในเมืองโคราชได้รับผลกระทบหลายด้าน ประกอบกับมีผู้ไม่หวังดีสร้างเฟกนิวส์อีก ทำให้จำนวนลูกค้าลดลงค่อนข้างมากถึง 50% ทั้งคนขายและคนซื้อ แต่ทางเราก็เห็นใจพ่อค้าแม่ค้า จึงจัดลดค่าเช่าแผงลง 20% รวมทั้งจัดเพิ่มจุดให้บริการเจลแอลกอฮอล์ล้างมือ แจกหน้ากากอนามัย รวมทั้งคัดกรองผู้ประกอบการโดยตรวจวัดอุณหภูมิร่างกายทุกวันและให้ผู้ประกอบการสวมหน้ากากอนามัยเป็นประจำ” นายประวรรตน์กล่าวในตอนท้าย
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า วันเดียวกัน ที่ห้องประชุมนางสาวบุญเหลือ ชั้น 2 ศาลากลางจังหวัดนครราชสีมา นางณัฏฐินีภรณ์ จันทรโณทัย นายกเหล่ากาชาดจังหวัดนครราชสีมา พร้อมด้วย นางปิยะฉัตร อินสว่าง รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา ร่วมกันแถลงข่าวการเลื่อนพิธีรำบวงสรวงในงานฉลองวันแห่งชัยชนะท้าวสุรนารี ประจำปี 2563 หรืองานย่าโม ออกไปอย่างไม่มีกำหนด เนื่องจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19
นางณัฏฐินีภรณ์ จันทรโณทัย นายกเหล่ากาชาดจังหวัดนครราชสีมา กล่าวว่า ในวันที่ 23 มีนาคม จากเดิมที่จะมีพิธีรำบวงสรวงจากสตรีชาวโคราชกว่า 4,000 คน เพื่อเป็นการป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ตามนโยบายของภาครัฐ จึงได้มีการเลื่อนการรำบวงสรวงออกไปอย่างไม่มีกำหนดจนกว่าสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคจะกลับเข้าสู่ภาวะปกติ
โดยจะเหลือเพียงพิธีบวงสรวงทางพราหมณ์ เปลี่ยนผ้าสไบย่าโม ในช่วงเช้าวันที่ 23 มีนาคมเท่านั้น เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโรค ผู้เข้าร่วมพิธีจะถูกตรวจสุขภาพและวัดอุณหภูมิอย่างละเอียดด้วย
