ศูนย์ข่าวนครราชสีมา - ทภ.2 เตรียมพร้อมค่ายทหารในมณฑลทหารบก 10 แห่งภาคอีสาน รับแรงงาน “ผีน้อย” กลับจากเกาหลีใต้กักตัวดูอาการ 14 วัน ป้องกันการแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 ด้านผู้ว่าฯ โคราชลั่นเดินหน้าจัดงานย่าโม หวั่น ศก.ทรุดหนัก
วันนี้ (5 มี.ค.) พล.ต.ราชันย์ ประจันตะเสน โฆษกกองทัพภาคที่ 2 เปิดเผยว่า ขณะนี้แม่ทัพภาคที่ 2 (มทภ.2) ได้สั่งการให้มณฑลทหารบก (มทบ.) ในสังกัดกองทัพภาคที่ 2 (ทภ.2) ทั้ง 10 แห่งทั่วภาคอีสาน ได้จัดเตรียมสถานที่พักพิงเป็นบ้านพักรับรอง อาคารที่พักทหาร และโรงนอนที่ไม่ได้ใช้ เตรียมพร้อมรองรับแรงงานไทยที่เดินทางกลับจากประเทศเกาหลีใต้ หรือกลุ่มผีน้อย เพื่อใช้เป็นสถานที่กักตัวดูอาการ 14 วันป้องกันการแพร่ระบาดของโรคเชื้อไวรัสโควิด-19 โดยขณะนี้ได้ประสานความร่วมมือกับกระทรวงสาธารณสุขแล้ว และในสังกัดของ มทบ.จะมีโรงพยาบาลทหารอยู่ด้วย ซึ่งจะใช้บุคลากรเข้ามาช่วยด้วย
โดยเฉพาะที่ จ.นครราชสีมา ซึ่งจากข้อมูลของกระทรวงแรงงานทราบว่าจะมีแรงงานกลับจากประเทศเกาหลีใต้มากกว่าจังหวัดอื่นๆ ได้เตรียมพื้นที่ในค่ายสุรธรรมพิทักษ์ไว้รองรับเรียบร้อยแล้ว และทุกสถานที่ตอนนี้มีความพร้อมทั้งหมดแล้ว
ด้าน นายวิเชียร จันทรโรทัย ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา กล่าวว่า จังหวัดนครราชสีมาได้เตรียมรับแรงงานไทยที่จะเดินทางกลับจากประเทศเกาหลีใต้ หรือผีน้อย โดยประสานกับกองทัพภาคที่ 2 ในการใช้สถานที่รองรับกลุ่มแรงงานที่กลับมาจากเกาหลีใต้ ซึ่งจะมีการกักตัวไว้ 14 วันเพื่อดูอาการ กลุ่มคนเหล่านี้เป็นคนไทยจึงต้องดูแลเป็นอย่างดี โดยจะดูตามหลักการแพทย์ของสาธารณสุข ให้เขามาแล้วไม่ก่อให้เกิดการนำโรคออกไปให้พี่น้องประชาชนตื่นตระหนก ซึ่งทางราชการจะมีมาตรการอย่างรัดกุม
“ขอให้ประชาชนมั่นใจ อย่าไปรังเกียจคนเหล่านี้ซึ่งเป็นคนไทยด้วยกัน โดยแรงงานเกาหลีใต้ที่จะเดินทางกลับมาที่ จ.นครราชสีมา กำลังให้ตรวจสอบจำนวนตัวเลข เนื่องจากไม่ได้อยู่ในสารบบของแรงงาน จึงต้องติดต่อกระทรวงการต่างประเทศเนื่องจากตัวเลขยังไม่ชัดเจน ขอยืนยันว่า จ.นครราชสีมายังไม่พบผู้ติดเชื้อ โควิด-19 มีเพียงกลุ่มผู้ต้องสงสัยแต่ยังไม่ตรวจพบโรค จ.นครราชสีมาจึงปลอดภัยจากโรคโควิด-19 ซึ่งเราจะทำความสะอาดบ้านเรือน สถานศึกษา สถานที่ราชการร่วมกันด้วยจิตอาสา big cleaning day เพื่อเป็นการป้องกันและฆ่าเชื้อโรค” นายวิเชียรกล่าว
อย่างไรก็ตาม ฝากถึงประชาชนเกี่ยวกับโรคโควิด-19 ว่า อยากให้ประชาชนช่วยกันเป็นหมอคนแรกในการป้องกันดูแล ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการดูแลตัวเองไม่ไปอยู่ในพื้นที่เสี่ยง และรักษาร่างกายให้แข็งแรง รวมไปถึงกินร้อน ช้อนกลางด้วย
ส่วนการจัดอบรมสัมมนาที่ไม่ให้มีการจัดงานตามข่าวลือนั้นตนไม่อยากให้เป็นกระแส เพราะจะทำให้ระบบเศรษฐกิจบ้านเมืองเสียหาย แต่ในขณะเดียวกันก็ไม่ประมาทจนก่อให้เกิดโรค หากใครมีการจัดประชุมสัมมนาอะไรก็อยากให้มีการคัดกรอง มีการวัดไข้และการแจกหน้ากากอนามัย ซึ่งเราไม่ควรละเลยแต่ไม่ควรตื่นตระหนกจนทำให้ทุกอย่างเสียหายและกระทบหลายเรื่อง ไม่ว่าจะเป็นการชะลอการจ้างงานของโรงงานรู้สึกไม่สบายใจ เนื่องจากพี่น้องประชาชนชาว จ.นครราชสีมายังต้องทำมาหากิน หากยกเลิกการจ้างงานต่างๆ จะทำให้ระบบเศรษฐกิจเสียหายอย่างแน่นอน
“สำหรับเรื่องการจัดงานฉลองวันแห่งชัยชนะของท้าวสุรนารี หรืองานย่าโม ประจำปี 2563 ระหว่างวันที่ 23 มี.ค.-3 เม.ย. 2563 นี้ ซึ่งหลายฝ่ายมีความเป็นห่วงว่าควรจะมีการจัดหรือเลื่อนการจัดหรือไม่นั้น ขอยืนยันว่าไม่มีการเลื่อนอย่างแน่นอน แต่จะมีการจัดเจ้าหน้าที่คัดกรองเพื่อป้องกัน ทั้งการตรวจวัดไข้ โดยเฉพาะในพิธีเปิด ซึ่งจะมีประชาชนหลั่งไหลเข้ามาร่วมงานเป็นจำนวนมาก เพื่อสร้างความมั่นใจให้แก่พี่น้องประชาชนที่จะเดินทางมาเที่ยวงานประจำปี ในส่วนพี่น้องประชาชนที่ไม่สบายก็ไม่ควรเดินทางออกจากบ้าน ควรรักษาตัวให้หายจากอาการป่วยเสียก่อน” นายวิเชียรกล่าวตอนท้าย