บุรีรัมย์ - พ่อโพสต์คลิปอ้าง อส.กร่างขับกระบะไล่เบียด จยย.ลูกชายและเพื่อนวัยรุ่นกลับจากเที่ยวงานรถล้มบาดเจ็บหลายคน วอนขอความเป็นธรรม ปลัดอำเภอหัวหน้าชุดฯ แจงไม่ได้เฉี่ยวชนแค่ผลักดันกลุ่มวัยรุ่นกลับบ้านป้องกันเหตุทะเลาะวิวาท ด้านนายอำเภอรุดเยี่ยมผู้บาดเจ็บพร้อมตรวจสอบข้อเท็จจริง
วันนี้ (11 มี.ค.) ได้มีผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อ “อดิสร สุทธรัตน์” โพสต์คลิปเหตุการณ์ที่เจ้าหน้าที่ อส. และชาวบ้านโต้เถียงกันอย่างดุเดือดวุ่นวาย พร้อมระบุข้อความด้วยว่า “อส.กร่าง ขับรถกระบะเบียดเด็กตกถนนรถล้ม 4 คัน เด็กหนึ่งคนบาดเจ็บแขนหัก และเด็กคนอื่นๆ มีแผลถลอกตามตัว เข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาลปะคำ เหตุเกิดที่ถนนทางเข้าบ้านโคกไม้แดงหัวกระสัง ต.หูทำนบ อ.ปะคำ จ.บุรีรัมย์ ขอความเป็นธรรมให้แก่เด็กด้วยครับ” ซึ่งคลิปดังกล่าวถูกแชร์ออกไปในสื่อสังคมออนไลน์อย่างกว้างขวาง และมีผู้เข้าไปแสดงความคิดเห็นจำนวนมาก บางส่วนเห็นใจกลุ่มวัยรุ่นที่บาดเจ็บ บางคนบอกให้รอตรวจสอบข้อมูลทั้งสองฝ่ายก่อน
จากนั้นผู้สื่อข่าวจึงได้เดินทางไปยังบ้านโคกไม้แดงหัวกระสังเพื่อสอบถามเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ซึ่งจากการสอบถาม นายสุทธิพงษ์ สุทธรัตน์ หรือเต๋า อายุ 19 ปี พี่ชายคนเจ็บ บอกว่า คนที่โพสต์เป็นพ่อของตนเอง เพราะอยากขอความเป็นธรรมและให้ อส.ออกมาแสดงความรับผิดชอบ พร้อมเล่าว่า เหตุดังกล่าวเกิดช่วงเย็นเมื่อวานนี้ (10 มี.ค.) ตนและน้องชาย พร้อมกลุ่มเพื่อนวัยรุ่นอีกหลายคนได้พากันไปเที่ยวงานฉลองอัฐิในหมู่บ้าน ซึ่งมีการจ้างรถแห่มาในงานด้วน พองานเลิกก็พากันขี่รถจักรยานยนต์กลับบ้าน
แต่ระหว่างทางได้มีรถกระบะของ อส. ซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่ที่ไปดูแลรักษาความเรียบร้อยในงานด้วย ขับไล่และเบียดรถจักรยานยนต์ของกลุ่มพวกตน จนทำให้รถจักรยานยนต์คันที่น้องนั่งไปด้วย และรถเพื่อนที่ขี่ตามกันมาเสียหลักล้มประมาณ 4 คัน เป็นเหตุให้น้อง ด.ช.วุ้น อายุ 13 ปี น้องชายของตนได้รับบาดเจ็บข้อมือข้างขวาหลุด หน้าบวม จึงรีบพากันนำส่งโรงพยาบาลปะคำ และยังมีเพื่อนของน้องมีแผลถลอกตามร่างกายอีก 1 คนด้วย จึงอยากให้มีการตรวจสอบข้อเท็จจริงและให้ อส.คนที่ขับกระบะเบียดรถน้องชายออกมาแสดงความรับผิดชอบด้วย ซึ่งเบื้องต้นทางครอบครัวได้แจ้งความไว้แล้ว
ด้านนายเอ (นามสมมติ) อายุ 17 ปี เพื่อนผู้บาดเจ็บ บอกว่า วันเกิดเหตุตนนั่งรถจักรยานยนต์มาคันเดียวกันกับคนเจ็บและมีคนขี่อีกคน ระหว่างทางเห็นรถกระบะของเจ้าหน้าที่ อส.ขับตามหลังมา แต่ไม่ทันได้มองว่ามีการเฉี่ยวชนหรือเบียดหรือไม่ รู้อีกทีก็รถล้มไปแล้ว จนทำให้ ด.ช.วุ้น ที่นั่งมาในรถคันเดียวกันได้รับบาดเจ็บหนักกว่าเพื่อน ขณะนี้ยังรักษาตัวอยู่ที่ รพ.ปะคำ ส่วนตนเองและคนขี่บาดเจ็บเล็กน้อย ก็อยากให้มีการตรวจสอบข้อเท็จจริงว่ารถของ อส.ได้ขับเบียดหรือไม่ หากเบียดจริงก็อยากให้ออกมาแสดงความรับผิดชอบ
ด้าน นายทนนท์ เม่นไธสง ปลัดอำเภอฝ่ายปกครอง ซึ่งเป็นหัวหน้าชุดที่ไปดูแลรักษาความเรียบร้อยในงานฉลองอัฐิในวันดังกล่าว ออกมาชี้แจงว่า ก่อนเกิดเหตุภายในงานมีกลุ่มวัยรุ่นจับกลุ่มเตรียมก่อเหตุทะเลาะวิวาทกัน พองานเลิกจึงได้ให้เจ้าหน้าที่ อส.ทำการผลักดันกลุ่มวัยรุ่นกลับบ้านเพื่อป้องกันเหตุทะเลาะวิวาทส่วนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจากการสอบถามจาก อส.ที่ถูกกล่าวหาแล้วให้ข้อมูลว่าได้ขับรถกระบะตามหลังกลุ่มวัยรุ่นจริงเพื่อผลักดันกลับบ้านตามคำสั่ง ซึ่งขับห่างประมาณ 100 เมตร ไม่ได้มีการไล่บี้หรือเบียดจนทำให้รถล้ม และภาพที่ปรากฏในคลิป อส.ให้ข้อมูลว่า มีวัยรุ่นขี่ จยย.เกี่ยวกันเองจนล้ม และ อส.พยายามจะเข้าไปช่วยพาส่งโรงพยาบาล แต่เพื่อนของผู้บาดเจ็บไม่ยอมโวยวายต่อว่า อส.ว่าขับรถเบียดจนทำให้รถล้ม ซึ่งอาจเป็นความเข้าใจผิดคิดว่า อส.ขับไล่เบียด
ทางด้าน นายสาวิตร เจียมจิรพร นายอำเภอปะคำ ได้เดินทางไปพูดคุยทำความเข้าใจกับญาติผู้บาดเจ็บและเยี่ยมอาการน้องที่บาดเจ็บในเบื้องต้นแล้ว พร้อมทั้งจะได้เรียกตัว อส.ที่ถูกกล่าวหา และผู้อยู่ในเหตุการณ์มาสอบหาข้อเท็จจริงก่อนจะดำเนินการตามขั้นตอนต่อไป
