ศรีสะเกษ - เศร้าสลด “น้องมาร์ค” ม.2 ศรีสะเกษ น้อยใจโดนเพื่อน “บูลลี่” ผูกคอตายคาห้องนอน พร้อมเขียน จม.บอกสาเหตุชัด “ผมทนไม่ไหวจริงๆ” ป้าเผยเลี้ยงดูมาตั้งแต่อายุ 6 เดือน เป็นเด็กเรียบร้อย ก่อนฆ่าตัวตายไม่มีลางบอกเหตุ เชื่อถูกเพื่อนล้อเลียนปมด้อย
วันนี้ (11 มี.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่บ้านเลขที่ 20 หมู่ 6 บ้านนิคม เขต 7 ต.นิคมพัฒนา อ.ขุขันธ์ จ.ศรีสะเกษ นางประไพวรรณ วงศ์ขันธ์ อายุ 53 ปี และ นายปลก วงศ์ขันธ์ อายุ 75 ปี ป้า และตาของ ด.ช.นรบดี เทียมลม หรือน้องมาร์ค ได้นำเอารูปของน้องมาร์คมาดูและถือไว้แนบอกด้วยความรักและอาลัยในตัวน้องมาร์คที่ได้ตัดสินใจใช้เชือกสีแดงที่ใช้ในการเรียนลูกเสือมาผูกคอตัวเองกับหน้าต่างภายในห้องนอนเสียชีวิต เมื่อเวลาประมาณ 13.30 น.ของวันที่ 5 มี.ค.ที่ผ่านมา และได้มีการประกอบพิธีฌาปนกิจศพน้องมาร์คเมื่อวันที่ 7 มี.ค. ที่วัดค่ายนิคม บ้านนิคม เขต 7 ท่ามกลางความเศร้าโศกเสียใจของญาติพี่น้องครู และเพื่อนนักเรียนที่เรียนอยู่ชั้น ม.2/10 โรงเรียนเดียวกัน
โดยก่อนตัดสินใจฆ่าตัวตาย น้องมาร์คได้เขียนจดหมายลาตายด้วยดินสอบนกระดาษ มีใจความว่า “ลาก่อน เด้อทุกคน ที่ผมทำไปมันเป็นเอง ไม่เกี่ยวกับเรื่องการเรียน มันเกี่ยวกับเพื่อนในห้องเคยล้อ เคยแกล้งจนถึงทุกวันนี้ ผมทนไม่ไหวจิงๆ เลยจะจบชีวิตตนเอง” ทิ้งเอาไว้ในห้องนอน ซึ่งป้าและตาได้นำผู้สื่อข่าวเข้าไปดูภายในห้องนอนของน้องมาร์ค เป็นจุดที่น้องมาร์คผูกคอตายที่หน้าต่าง แล้วตัวของน้องมาร์คซึ่งมีเชือกรัดคออยู่จะนั่งเหยียดขาบนพื้นข้างหน้าต่างห้องนอน ซึ่งสาเหตุที่น้องมาร์คตัดสินใจฆ่าตัวตายนั้นญาติเชื่อว่า เกิดจากการที่น้องมาร์คถูกเพื่อนในโรงเรียนบูลลี่ หรือล้อเลียนในเรื่องที่เป็นปมด้อยของน้องมาร์ค
นางประไพวรรณกล่าวว่า พ่อกับแม่ของน้องมาร์ค ซึ่งเป็นน้องสาวของตนได้แยกทางกัน ทราบเพียงว่าขณะนี้แม่ของน้องมาร์คไปทำงานอยู่ที่ จ.ปทุมธานี และส่งเงินมาเป็นค่าเลี้ยงดูน้องมาร์ค ทำให้ตนกับตาต้องพากันเลี้ยงดูน้องมาร์คมาตั้งแต่อายุได้ 6 เดือนจนถึงทุกวันนี้ ปกติแล้วน้องมาร์คเป็นเด็กสุภาพเรียบร้อย ว่านอนสอนง่าย เป็นที่รักของตนและญาติพี่น้องทุกคน ก่อนเกิดเหตุไม่มีลางบอกเหตุแต่อย่างใด
ในวันที่ 4 มี.ค. น้องมาร์คได้ตื่นแต่เช้ามาหุงข้าวเอาไว้ ตนได้ถามว่าหุงข้าวเอาไว้ทำไมเยอะแยะ น้องมาร์คบอกว่าเอาไว้ให้ตากิน จากนั้นน้องมาร์คได้ไปเรียนหนังสือ พอรุ่งเช้าของวันที่ 5 มี.ค. น้องมาร์คได้บอกกับตนว่าไม่สบายได้ลาหยุดเรียน ขออนุญาตครูแล้ว ตนก็ไม่ได้สงสัยอะไร บอกให้กินยาแล้วนอนพักผ่อน จนกระทั่งเวลาประมาณ 13.30 น. ของวันที่ 5 มี.ค. น้องสาวของตนมาจาก จ.บุรีรัมย์เพื่อมาเยี่ยมบ้าน ปรากฏว่า จะเอาข้าวของเข้าไปเก็บในบ้านที่น้องมาร์คพักอาศัยอยู่กับตา เมื่อเปิดประตูเข้าไปในห้องน้องมาร์คต้องตกใจสุดขีดเมื่อพบว่าน้องมาร์คผูกคอตายอย่างน่าสลดใจ
จึงได้โทรศัพท์บอกตนกับญาติพี่น้องทุกคนทราบและพากันมาดูศพของน้องมาร์คด้วยความเศร้าโศกเสียใจมาก จากนั้นได้ช่วยกันจัดงานศพของน้องมาร์คจนแล้วเสร็จ ซึ่งตนเสียใจมากต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในครั้งนี้ น้องมาร์คมีเรื่องอะไรก็ควรที่จะบอกป้าบอกตา ไม่ควรที่จะคิดสั้นฆ่าตัวตายแบบนี้
ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า คำว่า “บูลลี่” คือพฤติกรรมกลั่นแกล้งรังแกผู้อื่น โดยเฉพาะคนที่อ่อนแอกว่าและมักเกิดขึ้นในโรงเรียนเกือบทั่วโลก ไม่ใช่แค่เฉพาะในประเทศไทย จะได้ยินคำว่า “Bully” บ่อยครั้ง เนื่องจากทุกวันนี้ผู้คนสื่อสารกันผ่านโลกไซเบอร์กันมาก จนคิดว่าเป็นแค่การบูลลี่ในโลกไซเบอร์ แต่ในความจริงแล้วการบูลลี่เกิดขึ้นได้ทุกที่ในชีวิตประจำวัน ไม่ว่าจะเป็นในสถานศึกษา หรือที่ทำงาน และเกิดขึ้นมานานแล้ว การรับมือการบูลลี่คือ มีสติ เงียบเฉย ตอบโต้ ชี้แจงให้ถูกจังหวะ ไม่คิดแค้น เครียด หรือวิตกกังวลเกินไป รวมถึงเลือกที่จะใช้ชีวิตในสังคมสิ่งแวดล้อมที่ดี ปิดรับเรื่องราวทางโซเชียลฯ บ้าง หากหาทางออกไม่ได้ควรพบแพทย์เพื่อรับการรักษาอย่างเหมาะสม