จันทบุรี - รมช.เกษตรฯ ลงพื้นที่ จ.จันทบุรี แจงมาตรการช่วยเหลือเกษตรกรชาวสวนผลไม้จากวิกฤตไวรัสโควิด-19 ทำส่งออกไม่ได้ เผยรัฐพร้อมอัดเงินกู้ดอกเบี้ยต่ำ จับมือโมเดิร์นเทรดกระจายผลผลิตทั่วประเทศ ด้าน ผวจ.ลุยตรวจแหล่งขายทุเรียนอ่อน
วันนี้ (9 มี.ค.) น.ส.มนัญญา ไทยเศรษฐ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เป็นประธานเปิดการประชุมเชิงปฏิบัติการเชื่อมโยงเครือข่ายการผลิตและการตลาดผลไม้คุณภาพ ซึ่งสถาบันเกษตรกรจังหวัดจันทบุรี จัดขึ้นเพื่อสร้างความมั่นใจแก่ตัวแทนเกษตรกร และสหกรณ์ต่างๆ
และยังจัดพิธีลงนามข้อตกลงซื้อขายผลไม้ระหว่างสหกรณ์ชาวสวนผลไม้ กับห้างโมเดิร์นเทรดเพื่อกระจายผลผลิตผลไม้ของเกษตรกรใน จ.จันทบุรี และภาคตะวันออกไปยังตลาดปลายทาง ป้องกันผลกระทบที่อาจจะเกิดขึ้นจากวิกฤตไวรัสโควิด-19
ทั้งนี้ ยังได้มีการประเมินสถานการณ์โรคไวรัสโควิด-19 ว่าจะยังแพร่ระบาดทั้งในประเทศและอีกหลายประเทศทั่วโลก ซึ่งคาดว่าจะส่งผลกระทบต่อการส่งออกสินค้าไปยังประเทศจีน โดยเฉพาะผลไม้ ทั้งทุเรียน มังคุด และลำไย ซึ่งแต่ละปีประเทศจีนมีปริมาณการสั่งซื้อจากไทยจำนวนมาก
และเมื่อเกิดวิกฤตการณ์ดังกล่าวขึ้นจึงจำเป็นต้องกระตุ้นการบริโภคผลไม้ภายในประเทศ โดยใช้เครือข่ายสหกรณ์ผู้ผลิตผลไม้ทั่วประเทศเป็นกลไกในการระบายผลไม้สู่ตลาดในทุกพื้นที่เพื่อให้เข้าถึงผู้บริโภคในราคาที่เป็นธรรม ตั้งแต่เดือน เม.ย.-ก.ย.นี้
ขณะที่ภาครัฐได้กำหนดมาตรการช่วยเหลือสมาชิกสหกรณ์ผู้ผลิตผลไม้ ด้วยการจัดสรรงบประมาณผ่านกรมส่งเสริมสหกรณ์ ส่งเสริมสมาชิกสหกรณ์ผลิตผลไม้คุณภาพและผ่านมาตรฐาน GP จำนวน 1,100 ราย รวมทั้งจะพัฒนาอาคารรวบรวมผลไม้สะอาดให้ได้มาตรฐาน GM และจัดสรรเงินดอกเบี้ยร้อยละ 1 จากกองทุนพัฒนาสหกรณ์วงเงิน 200 ล้านบาท ให้สหกรณ์ฯ กู้ยืมไปรวบรวมผลลิตจากสมาชิกตลอดช่วงฤดูกาลผลิตปีนี้
ส่วนกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้ทำแผนขอเงินอุดหนุนจากรัฐบาลเพื่อบริหารจัดการผลไม้ผ่านระบบสหกรณ์ ภายใต้วงเงิน 414.20 ล้านบาทโดยจะจัดกิจกรรมรณรงค์บริโภคผลไม้ในจังหวัดใหญ่ทั่วประเทศ รวม 16 จังหวัด และระดับอำเภอ 824 อำเภอ และจัดกิจกรรมเกษตรเชิงท่องเที่ยวในสวนผลไม้ มหกรรมสินค้าสหกรณ์ที่เน้นจำหน่ายผลไม้ รวมทั้งปรับระบบช่องทางการขายเป็นการขายแบบตลาดออนไลน์ และทำข้อตกลงซื้อขายผลไม้ระหว่างสหกรณ์ชาวสวนผลไม้กับห้างโมเดิร์นเทรด เพื่อเพิ่มช่องทางกระจายผลไม้ให้ถึงมือผู้บริโภคได้อย่างรวดเร็วอีกด้วย
ผวจ.จันทบุรี นำทีมสุ่มตรวจแผงขายทุเรียนอ่อน หลังประชาชนร้องเรียน
และเมื่อเร็วๆ นี้ นายวิทูรัช ศรีนาม ผู้ว่าราชการจังหวัดจันทบุรี py’ได้นำเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง และเจ้าหน้าที่กรมวิชาการเกษตร (สวพ.6) จันทบุรี รวมทั้งเจ้าหน้าที่อาสารักษาดินแดน อ.ท่าใหม่ เข้าตรวจสอบแผงจำหน่ายทุเรียนในตลาดเนินสูง หลังได้รับการร้องเรียนจากประชาชนว่าซื้อทุเรียนอ่อน ไม่ได้คุณภาพจากแผงค้าในตลาดดังกล่าว
โดยได้สุ่มตรวจสอบคุณภาพทุเรียนพันธุ์หมอนทอง และชะนี ซึ่งพบทุเรียนพันธุ์หมอนทอง ที่มีเปอร์เซ็นต์น้ำหนักเพียง 25% จากค่าเฉลี่ยเปอร์เซ็นต์น้ำหนักแห้งซึ่งจะต้องอยู่ที่ 32 เปอร์เซ็นต์
ขณะที่ทุเรียนพันธุ์พวงมณี ที่จำหน่ายในตลาดดังกล่าว พบว่า มีเปอร์เซ็นต์น้ำหนักเพียง 19% จากค่าเฉลี่ยของเปอร์เซ็นต์น้ำหนักแห้งในทุเรียนพันธุ์พวงมณี ซึ่งจะต้องอยู่ที่ 30 เปอร์เซ็นต์
เบื้องต้น เจ้าหน้าที่ได้ทำเครื่องหมายกากบาทสีแดงและห้ามแม่ค้านำทุเรียนที่ไม่ได้คุณภาพออกจำหน่าย ซึ่งในปีนี้ จ.จันทบุรี มีมาตรการจับปรับจริงผู้กระทำผิดในข้อหาจำหน่ายทุเรียนอ่อน และประกาศพื้นที่ไม่ขายทุเรียนอ่อนอย่างเข้มข้น และหากพบผู้จำหน่ายทุเรียนด้อยคุณภาพ จะดำเนินคดีตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 271 และตามพระราชบัญญัติคุ้มครองผู้บริโภค พ.ศ.2522 มาตรา 47 มีโทษทั้งจำและปรับ
ขณะเดียวกัน ยังตั้งชุดเฉพาะกิจป้องกันแก้ไขปัญหาทุเรียนอ่อน ซึ่งหากผู้บริโภคซื้อทุเรียนจาก จ.จันทบุรี และพบว่าเป็นทุเรียนอ่อน สามารถนำหลักฐานภาพถ่าย เอกสารการซื้อขายแจ้งความเอาผิดต่อผู้ขายได้ หรือสามารถร้องเรียนไปได้ยังคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภคจันทบุรี และศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดจันทบุรี ได้ทันที
