xs
xsm
sm
md
lg

พร้อมรับมือโควิด-19! “เชียงราย” เตรียมห้องกักโรคเกือบร้อย เพิ่มได้อีกเท่าตัว

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



เชียงราย - จังหวัดเชียงรายเตรียมพร้อมรับมือโควิด-19 ระบาดเต็มที่..ล่าสุดเตรียมห้องกักโรคทั้ง รพ.ประจำจังหวัด-รพ.สต.-รพ.ในสังกัดสาธารณสุข รวมถึง รพ.เอกชน รวมเกือบร้อยห้อง พร้อมเปิด รพ.แม่ฟ้าหลวงรองรับได้อีกนับร้อยเตียง


พ.อ.ชาตรี สงวนธรรม ผบ.ฉก.ม.2 กองกำลังผาเมือง ได้ออกตรวจเยี่ยมการปฏิบัติงานของกำลังพล ร้อย.ม.3 ฉก.ม.2 ซึ่งเป็นหน่วยที่ประจำการอยู่ตามแนวชายแดนไทย-พม่า ด้าน อ.แม่สาย จ.เชียงราย ที่สกัดกั้นยาเสพติดสิ่งผิดกฎหมาย ตลอดจนสนับสนุนการป้องกันโรคไวรัสโควิด-19 ตามแนวชายแดน ซึ่งมีเส้นทางเชื่อมโยงกับ สป.จีน ทั้งทางบกและทางน้ำด้วย

จากการตรวจสอบการคัดกรองโรคของเจ้าหน้าที่ทหารที่เข้าร่วมกับทางสาธารณสุข 2 จุด คือ จุดผ่านแดนถาวรแม่สาย-ท่าขี้เหล็ก และจุดผ่อนปรนปางห้า ต.เกาะช้าง อ.แม่สาย พบว่าแต่ละจุดมีการใช้อุปกรณ์ตรวจวัดอุณหภูมิร่างกาย และเมื่อพบความผิดปกติทางสำนักงานสาธารณสุข จ.เชียงรายก็จะใช้กลไกของศูนย์ปฏิบัติการภาวะฉุกเฉินด้านการแพทย์และสาธารณสุขกรณีการระบาดโรคโควิด-19 ขณะที่กำลังทหารก็ได้รับการอบรมเพื่อร่วมการคัดกรองในระดับหนึ่งและช่วยสนับสนุนด้านกำลังพลเมื่อมีหน่วยอื่นร้องขอตามลำดับ


ด้านนายแพทย์ ศุภเลิศ เนตรสุวรรณ รองผู้อำนวยการโรงพยาบาลเชียงรายประชานุเคราะห์ กล่าวว่า ตอนนี้เชียงรายเตรียมรองรับสถานการณ์หากพบเชื้อเอาไว้แล้ว โดยเตรียมห้องแยกผู้ป่วยกักโรคเอาไว้ที่โรงพยาบาลเชียงรายประชานุเคราะห์ 20 ห้อง โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพประจำตำบล 55 ห้อง โรงพยาบาลสังกัดกระทรวงสาธารณสุขในพื้นที่ 10 ห้อง และโรงพยาบาลเอกชน 9 ห้อง

หากสถานการณ์มีความรุนแรงมากขึ้นก็เตรียมสถานที่ศูนย์การแพทย์ มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง (มฟล.) เอาไว้อีกจำนวน 20 เตียง และ 100 เตียง ตามลำดับความรุนแรง หรือถ้าหากยังมีมากกว่านั้นอีกก็จะจัดสถานที่โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพชุมชนทุกแห่งเข้าดำเนินการทั่วจังหวัดได้ต่อไป


นายแพทย์ ศุภเลิศกล่าวอีกว่า ส่วนกรณีหน้ากากอนามัยขาดแคลนนั้นต้องขอบอกตามหลักการสาธารณสุขทั่วไปว่าการสวมใส่หน้ากากอนามัยที่มีแถบนั้น หากไม่มีความจำเป็นก็ไม่ควรจะสวมใส่ โดยเฉพาะหากอยู่ในที่โล่ง บ้านเรือนที่ไม่มีผู้คนแออัด ฯลฯ ก็ไม่สมควรเพื่อไม่ให้มีการสะสมเชื้อโรคตรงบริเวณปากและจมูก ยกเว้นอยู่ในจุดที่มีผู้คนแออัดหรือมีความเสี่ยงจึงค่อยสวมใส่

เพราะหากสวมใส่อยู่ตลอดเวลากลับจะทำให้มีความเสี่ยงมากกว่าเดิม เนื่องจากการติดเชื้อส่วนใหญ่เกิดจากการสัมผัสเมื่อไปจับสิ่งต่างๆ ที่มีผู้ป่วยไอหรือจามรดก็จะมีเชื้อโรคติดอยู่ พอเราไปสัมผัสก็จะอาจกลับมาจับหน้ากากอนามัยของตัวเองเพื่อปรับให้อยู่คงที่เสมอ ซึ่งก็จะทำให้หน้ากากอนามัยมีเชื้อโรค
การป้องกันที่ดีที่สุดคือการล้างมือให้สะอาดบ่อยๆ และหากไม่จำเป็นก็ไม่ต้องไปสัมผัส ส่วนหน้ากากอนามัยก็สามารถใช้เพียงหน้ากากผ้าธรรมดาได้ เมื่อใช้เสร็จก็ซักและตากให้เรียบร้อย แต่เมื่อไม่ได้อยู่ในพื้นที่เสี่ยงก็ไม่จำเป็นต้องสวมใส่เพราะจะกลายเป็นสาเหตุเสียเองดังกล่าว

อย่างไรก็ตาม หากว่าเกิดอาการป่วยขึ้นมา แม้แต่ไอจามธรรมดาก็ถือเป็นกลุ่มคนที่ควรจะสวมใส่หน้ากากอนามัยเป็นอย่างยิ่งเพื่อไม่ให้แพร่ไปสู่ผู้อื่น
กำลังโหลดความคิดเห็น