xs
xsm
sm
md
lg

ชี้ยุคสื่อไร้พรมแดนแค่มี fb ก็อ้างเป็นสื่อ นักข่าวตัวจริงต้องตามเช็กซ้ำจริงหรือเท็จ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



กาฬสินธุ์ - นายกสมาคมนักข่าวกาฬสินธุ์นำสื่อมวลชนร่วมกันทำบุญอุทิศส่วนกุศลแด่นักข่าวผู้ล่วงลับเนื่องในวันนักข่าว เผยยุคสื่อสารไร้พรมแดน ใครมี fb ก็อ้างเป็นนักข่าวโพสต์ทุกอย่างที่เห็น ทำให้สื่อจริงต้องวิ่งตามตรวจสอบข้อเท็จจริง ขอให้ทุกคนเป็นเกลือที่รักษาความเค็มของสังคม

วันนี้ (5 มี.ค.) เวลา 07.30 น. ที่วัดประชานิยม อ.เมืองกาฬสินธุ์ จ.กาฬสินธุ์ นายยุทธนา เกียรติดำเนินงาม นายกสมาคมนักข่าวกาฬสินธุ์ พร้อมด้วยกรรมการสมาคมฯ และสื่อสารมวลชน ร่วมกันทำบุญอุทิศส่วนกุศลแด่นักข่าวอาวุโส และเพื่อเป็นสิริมงคล เนื่องในวันนักข่าว “5 มีนาคม” ของทุกปี

นายยุทธนา เกียรติดำเนินงาม นายกสมาคมนักข่าวกาฬสินธุ์ กล่าวว่า วันนักข่าว ตรงกับวันที่ 5 มีนาคม ซึ่งถือกำเนิดมาจากนักข่าวรุ่นบุกเบิกหลากหลายท่านได้ร่วมชุมนุมกันก่อตั้งสมาคมนักข่าวแห่งประเทศไทย เมื่อวันที่ 5 มีนาคม พ.ศ. 2498 ซึ่งเมื่อก่อนตามคำบอกเล่า นักหนังสือพิมพ์ทั้งหลายให้ความสำคัญต่อวันนักข่าว ซึ่งจะถือว่าเป็นวันหยุดทำงานของนักข่าว และเป็นที่รู้กันว่าในเช้าของวันที่ 6 มีนาคมของทุกปีจะไม่มีหนังสือพิมพ์วางออกขาย แต่ด้วยความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี ประกอบกับความต้องการในการบริโภคข่าว จึงทำให้ประเพณีนี้ต้องเลิกไป

นายยุทธนา เกียรติดำเนินงาม นายกสมาคมนักข่าวกาฬสินธุ์


สำหรับในภูมิภาค ส่วนใหญ่สื่อมวลชนจะเป็นตัวแทนสื่อส่วนกลางและสื่อท้องถิ่น ซึ่งก็ยังคงเล็งเห็นความสำคัญต่อวิชาชีพ สมาคมนักข่าวกาฬสินธุ์จึงได้จัดกิจกรรมนี้ขึ้นเพื่อให้สื่อมวลชนได้มีโอกาสพบปะแลกเปลี่ยนแนวทางในการทำงาน และเชิดชูนักข่าว ซึ่งเป็นหนึ่งในวิชาชีพที่มีความเสียสละ อดทน มีความรู้สึกเป็นเกียรติในอาชีพนี้


“ผมเป็นคนหนึ่งที่ทำงานในวิชาชีพนี้ ในมุมมองคิดว่าทุกอาชีพมีความสำคัญเหมือนกัน มีเกียรติมีศักดิ์ศรีเท่าเทียมกัน แต่อาชีพนักข่าวเป็นอาชีพที่ไม่มีวันหยุด โดยเฉพาะทุกวันนี้การสื่อสารไร้พรมแดน ทุกคน ใครๆ ก็เป็นนักข่าวได้ดังจะเห็นจาก fb หรือสื่อออนไลน์ต่างๆ ทั้งหมดนี้มองว่าการใช้สื่อควรต้องรับผิดชอบต่อสังคม” นายยุทธนากล่าว และว่า

ในวิชาชีพเรามีองค์กรคอยตรวจสอบเนื้อหาข่าว การหยิบยกนำเสนอออกไปจะรับผิดชอบทุกข้อความ แต่หากไม่มีองค์กรหรือเป็นสื่อตัวจริงก็มักจะเกิดปัญหาการฟ้องร้อง เป็นคดีความในภายหลัง ทำให้ทุกวันนี้นักข่าวยิ่งต้องทำงานหนักมากยิ่งขึ้น เพราะโลกโซเชียลจะโพสต์ข่าวที่ทำให้สื่อฯ ต้องติดตาม เพื่อทำการพิสูจน์ว่าเป็นเรื่องจริงหรือเท็จ โดยเฉพาะในโลกโซเชียลที่มีกฎหมายการนำเข้าสื่ออิเล็กทรอนิกส์ ตาม พ.ร.บ.คอมพ์ มาตรา 14 (1) ที่ระวางโทษจำคุก 5 ปี ปรับ 1 แสนบาท และในปัจจุบันก็มีการฟ้องร้องพ่วงในข้อหาหมิ่นประมาทประเภทนี้ การใช้สื่อจึงต้องระมัดระวัง


นายยุทธนากล่าวต่อว่า สำหรับจังหวัดกาฬสินธุ์ สมาคมนักข่าวกาฬสินธุ์ร่วมกับหนังสือพิมพ์เสียงภูพาน และได้รับความร่วมมือจากพี่น้องสื่อมวลชนส่วนกลางในภูมิภาค ร่วมกันทำงานและมีข้อตกลงร่วมกันว่า ในยุคนี้ “เราจะยังคงยึดมั่นในอุดมการณ์ เป็นเกลือที่รักษาความเค็มของสังคม” ที่อาจจะไปกระทบกับความรู้สึกใครบ้าง แต่ก็คงเป็นเรื่องของการเปลี่ยนแปลง สร้างสรรค์ ด้วยความเป็นธรรม ที่ในอนาคตสื่อท้องถิ่น หนังสือพิมพ์เสียงภูพานที่มีอายุถึง 45 ปีนี้ ก็จะมีการปรับโฉมในการนำเสนอข่าวให้พี่น้องประชาชนได้ประโยชน์ในการนำเสนอข่าวมากยิ่งขึ้น


กำลังโหลดความคิดเห็น